"… เกือบทุกประเทศทั่วโลก เดินเครื่องฉีดวัคซีนหวังให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ เหมือนอย่างอิสราเอล หรือออสเตรเลีย ที่รัฐบาลยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัย และทุกคนสามารถที่จะใช้ชีวิตนอกบ้านได้อย่างมีอิสระ ขณะที่มีอีกหลายประเทศ ใช้โอกาสนี้จัดทำแผนดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้วยการเชื้อเชิญให้เดินทางลัดฟ้ามาฉีดวัคซีน เกิดธุรกิจท่องเที่ยว ที่เรียกว่าวัคซีนทัวร์…”
…………………………………
เกือบทุกประเทศทั่วโลก เดินเครื่องฉีดวัคซีนหวังให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ปลดล็อกอิสรภาพให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ อาทิ อิสราเอล ที่รัฐบาลยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัย และทุกคนสามารถที่จะใช้ชีวิตนอกบ้านได้อย่างมีอิสระ ขณะที่มีอีกหลายประเทศ ใช้โอกาสนี้ในการจัดทำแผนดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้วยการเชื้อเชิญให้เดินทางลัดฟ้ามาฉีดวัคซีนที่ประเทศเหล่านั้น ทำให้เกิดธุรกิจท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า ‘วัคซีนทัวร์’ และหลายบริษัททัวร์ในยุโรปกำลังเสนอแพ็คเกจให้ลูกค้าเช่นเดียวกัน
วัคซีนทัวร์ หรือ Vaccine Tourism คือ แนวคิดใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางเข้ามาฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นคำตอบที่น่าสนใจเป็นอย่างมากที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว และฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในประเทศที่มีวัคซีนมากเพียงพอแล้วเนื่องจากหลายประเทศยังแจกจ่ายวัคซีนให้กับบุคลากรกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ แพทย์ และผู้สูงอายุเป็นหลักอยู่
@บริษัททัวร์นอร์เวย์ เปิดจองแพ็กเกจฉีดวัคซีน-ท่องเที่ยว
เว็บไซต์ยูโรนิวส์ รายงานว่า บริษัทท่องเที่ยวนอร์เวย์ ‘World Visitor’ จัดเสนอแพ็กเกจทัวร์รัสเซีย ให้ลูกค้าเลือกได้หลากหลายทุกแพ็กเกจ ร่วมกับการได้ฉีดวัคซีนสปุตนิก วี ของรัสเซียด้วย
ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจราคา 1,199 ยูโร ที่ลูกค้าสามารถเดินทางได้สองเที่ยวสำหรับวัคซีนสองโดส แพ็กเกจ 2,999 ยูโร ให้ลูกค้าได้พักผ่อนที่รีสอร์ทเพื่อสุขภาพสุดหรู 22 วัน โดยจะได้รับวัคซีนตั้งแต่เริ่มและจบทริป หรือแพ็กเกจที่ 3 คือไปพักสปาในตุรกี และจะแวะพักที่สนามบินมอสโก ซึ่งเร็วๆ นี้จะตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนในอาคารผู้โดยสาร
@ บริษัททัวร์เยอรมนี ชะลอทริปวัคซีนต่างประเทศ
นอกจากนี้ เว็บไซต์ยูโรนิวส์ รายงานอีกว่า บริษัทท่องเที่ยวฟิตแทรเวลของเยอรมนี เริ่มเสนอทัวร์ฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือน ก.พ.2564 ที่ผ่านมา โดยโฆษกบริษัทเปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า ลูกค้าได้เข้ามาสอบถามจำนวนมาก ว่าเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าจะมีการจัดทัวร์พักผ่อนไปพร้อมๆ กับการฉีดวัคซีนโควิด
แต่ไอเดียนี้ถูกชะลอไปก่อน เนื่องจากเยอรมนีจะฉีดวัคซีนเพิ่มได้ภายในเดือน เม.ย.2564 อย่างไรก็ตาม หากยังฉีดได้ไม่มาก บริษัทนำเที่ยวอาจจะทำทัวร์วัคซีนต่างประเทศอีก
@ รัสเซียมีแผนเปิดรับ ‘วัคซีนทัวร์’
สำหรับรัสเซียนั้น แม้จะมีข่าวว่า เดือน ก.ค. 2564 จะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปฉีดวัคซีนสปุตนิก วี ของรัสเซีย แต่เว็บไซต์ยูโรนิวส์รายงานว่า รัฐบาลรัสเซียไม่เคยให้ไฟเขียวอย่างเป็นทางการให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปฉีดวัคซีนแต่อย่างใด
ขณะที่บัญชีทวิตเตอร์ทางการของสปุตนิกวีเคยทวีต 2 ข้อความ ระบุว่า "บอกเพื่อนของคุณให้ติดตามสปุตนิก วี บนทวิตเตอร์ ผู้ติดตามโซเชียลมีเดียของเราจะเป็นคนแรกที่ได้รับเชิญให้รับวัคซีนสปุตนิก วี ในรัสเซียเมื่อโปรแกรมเริ่มต้น"
"ภารกิจของเรา คือการช่วยเหลือและนำชีวิตปกติของทุกคนกลับมา นี่ไม่ใช่เรื่องตลก รัสเซียกำลังทำโครงการเปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาฉีดวัคซีนสปุตนิก วี ป้องกันโควิดตั้งแต่เดือน ก.ค. นี้"
ถึงขณะนี้รัสเซียยังคงระมัดระวังในเปิดตัวโครงการดังกล่าว ส่วน Dmitry Peskov โฆษกทำเนียบเครมลิน ยอมรับว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาบางเรื่อง แต่อย่างไรก็ตามประชาชนยังสำคัญสูงสุด
@ เตือนวัคซีนทัวร์ มีความเสี่ยง
ทั้งนี้ เว็บไซต์ยูโรนิวส์ รายงานว่า ปัจจุบันไม่มีการให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปฉีดวัคซีนได้อย่างเป็นทางการ ดังนั้น ‘นักท่องเที่ยววัคซีน’ อาจผิดหวังและเสียเงินไปเปล่าๆ
ขณะที่บางประเทศกำลังสร้างความชัดเจนด้วยว่า ไม่มีการรับนักท่องเที่ยวแบบนี้ อย่างเช่น ในสหราชอาณาจักร จะให้ฉีดวัคซีนผ่านระบบสาธารณสุขเท่านั้น และต้องคอยจนกว่าจะถึงนัดหมายถึงจะได้รับวัคซีน ซึ่งการทำนัดหมายนั้น จะต้องยืนยันข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ที่อยู่ ซึ่งประเทศอื่น อาจใช้มาตรการแบบนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ‘วัคซีนทัวร์’ อาจตอบสนองเป้าหมายร่วมของชาวโลก นั่นคือยุติการแพร่ระบาดของโควิด แต่ในเมื่อประชากรส่วนใหญ่ยังคอยวัคซีน จึงเกิดข้อคำถามว่า ‘เป็นธรรมแล้วหรือที่คนมีเงินสามารถเดินทางไปต่างแดนเพื่อทำแบบนี้ได้’
เว็บไซต์ยูโรนิวส์ รายงานอีกว่า ในบางประเทศ เช่น เซอร์เบีย ที่ประชาชนได้ข้อมูลผิดๆ หรือด้วยเหตุผลอื่น ทำให้ลังเลไม่กล้าฉีดวัคซีน การเสนอวัคซีนที่เหลือให้คนอื่นฉีดก่อนหมดอายุอาจทำได้ แต่สำหรับประชาชนในประเทศกำลังพัฒนา การท่องเที่ยววัคซีนอาจทำให้การรอคอยที่เคร่งเครียดอยู่แล้ว ต้องคอยนานไปอีก ส่วนประเทศรวยบางประเทศเริ่มผูกขาดการฉีดวัคซีนด้วยการสั่งของมาเกิน ถ้ามีคนพากันไป ‘วัคซีนทัวร์’ จะยิ่งเกิดปัญหาซ้ำเติม
สอดคล้องกับ Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก รายงานสถานการณ์การเข้าถึงวัคซีนทั่วโลกเมื่อต้นเดือนเม.ย.2564 ว่า เกิดความไม่สมดุลที่น่าตกใจระหว่างประเทศ โดยเฉลี่ยแล้วในประเทศที่มีรายได้สูงเกือบ 1 ใน 4 คนจะได้รับวัคซีนโควิด ขณะที่จำนวนประเทศที่มีรายได้ต่ำ มีมากกว่า 500 ประเทศ
@ เซอร์เบียชะลอรับ‘นักท่องเที่ยววัคซีน’ เร่งฉีดวัคซีนให้คนในประเทศ
ประเทศเซอร์เบีย เป็นประเทศที่เปิดทดลองฉีดวัคซีนให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีวัคซีนมากกว่าที่ประชาชนต้องการ ซึ่งน่าแปลกมาก เว็บไซต์ National Geographic รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาฉีดวัคซีนมากกว่า 22,000 คน เมื่อสิ้นเดือน มี.ค.2564 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเมื่อกลางเดือน เม.ย.2564 เซอร์เบียได้ระงับวัคซีนสำหรับชาวต่างชาติชั่วคราว เนื่องจากต้องการมุ่งเน้นการฉีดวัคซีนกลับไปที่พลเมืองของเซอร์เบียก่อน
เมื่อช่วงเดือน มี.ค.2564 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างมากในการเปิดประเทศเซอร์เบีย ที่พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาฉีดวัคซีนจำนวนมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้อาศัยอยู่ในประเทศคาบสมุทรบอลข่านใกล้เคียง
นอกจากนี้ได้มีชาวแคนาดาอย่าง Alyssa Sutton และ Noah Guthrie ผู้สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัย เป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้เดินทางไปรับวัคซีนด้วย โดยทั้งคู่ติดอยู่ในยุโรปเป็นเวลานานด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้ไม่มีเงินเพียงพอที่จะสามารถจ่ายค่าโรงแรมกักกันที่ชาวแคนาดาทุกคนที่กลับบ้านต้องเข้าพักก่อนเดินทางกลับได้ ทั้งคู่จึงมุ่งหน้าไปประเทศเซอร์เบีย หลังจากได้ยินว่ามีกาเปิดฉีดวัคซีนให้กับชาวต่างชาติ พวกเขาใช้แอปพลิเคชันแปลภาษาในการกรอกแบบฟอร์ม กระทั่งได้รับการตอบกลับ และได้เดินทางไปรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่เซอร์เบีย
“เราโชคดีที่เราอยู่ที่นั่น เราจะไม่สามารถทำแบบนี้ได้ตลอดเวลา ดังนั้นเราต้องทำเดี๋ยวนี้” Alyssa Sutton กล่าว อย่างไรก็ตามทั้งคู่พร้อมสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง การเดินทางเพื่อรับวัคซีนครั้งสุดท้ายนี้ มีหมายความว่าทั้งคู่จะสามารถเดินทางไปยังประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างเต็มที่
@ ดูไบเปิดรับนักท่องเที่ยว ฉีดวัคซีนต้านโควิด
ดูไบ เป็นอีกหนึ่งเมืองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาฉีดวัคซีนด้วย ตั้งแต่ ก.พ. 2564 เว็บไซต์ Traveling Lifestyle รายงานว่า ขณะนี้เปิดให้บริหารสำหรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ ยกเว้นเที่ยวบินหรือนักท่องเที่ยวที่มาจากแอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และอินเดียไม่เกิน 14 วัน โดยนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องนำผลการทดสอบโควิดที่เป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางมาด้วย ทั้งนี้อาจต้องได้รับการทดสอบใหม่เมื่อเดินทางมา ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทาง และทุกคนจำเป็นต้องกักกัน ที่ข้อกำหนดอาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับผลทดสอบโควิด และแนวทางเดิมจากรัฐบาลท้องถิ่น
“ดูไบยังคงเปิดกว้างสำหรับการท่องเที่ยว โดยรักษาตำแหน่งให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยที่สุดของโลก สาเหตุหนึ่งอาจมาจากการรณรงค์ฉีดวัคซีนที่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ที่ให้ผู้อยู่อาศัยและคนในชาติที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการฉีดวัคซีน” เว็บไซต์ Traveling Lifestyle รายงาน
อย่างไรก็ตาม ดูไบไม่ได้ให้บริการนักท่องเที่ยวทุกประเทศ จึงขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวตรวจสอบว่าจำเป็นต้องใช้วีซ่าหรือไม่ ก่อนทำการจองตั๋ว
@ มัลดีฟส์เตรียมเปิดแคมเปญ ‘3V’ สร้างการท่องเที่ยวควบคู่การรับวัคซีน
มัลดีฟส์ เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดของโควิด ซึ่งเว็บไซต์ Forbes รายงานว่า ปัจจุบันมัลดีฟส์เปิดเกาะให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว รวมถึงนักเดินทางที่มีผลทดสอบโควิดเป็นลบก่อนเดินทางไม่เกิน 3 วัน และจะเปิดตัวแคมเปญ 3V คือ ‘Visit Vaccinate Vacation’ หรือ ‘เยี่ยมเยือน รับวัคซีน พักผ่อน’ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
"แนวคิดหลักของการท่องเที่ยวที่เปิดกว้าง คือการจัดให้มีการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย และมีความลำบากน้อยที่สุด ดังนั้นเมื่อประเทศได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เราจะก้าวไปสู่การท่องเที่ยว '3V' ”Abdulla Mausoom รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว กล่าว
อย่างไรก็ตามไม่แน่ชัดว่า แคมเปญ 3V นี้ จะเริ่มเมื่อใด อาจถูกขัดขวางขวางตามรายงานของสำนักข่าว Associated Press ที่ระบุว่า การส่งมอบวัคซีนจำนวนมากผ่านโปรแกรมโคแวกซ์ที่มีมัลดีฟส์เป็นสมาชิก ได้หยุดชะงักไปจนถึงอย่างน้อยเดือนมิ.ย.2564 ซึ่งมัลดีฟส์ยังฉีดวัคซีนเข็มแรกให้พนักงานแนวหน้า 90% และประชากรทั้งหมดเกือบ 50% เท่านั้น ขณะที่องค์การอนามัยโลกได้กล่าวเช่นกัน ตามรายงานของสำนักพิมพ์รายใหญ่ Condé Nast ว่าไม่สนับสนุนโครงการที่จะให้วัคซีนแก่นักเดินทางเพื่อการพักผ่อน เมื่อปริมาณเหล่านี้อาจไปที่อื่นได้อย่างมีนัยสำคัญ
@ รัฐอลาสก้า เตรียมฉีดวัคซีนให้นักท่องเที่ยวฟรี 1 มิ.ย.64
ขณะที่ บางรัฐของสหรัฐอเมริกามีนโยบายให้วัคซีนกับนักท่องเที่ยวด้วย เว็บไซต์ Travel Leisure รายงานว่า รัฐอลาสก้าจะเสนอฉีดวัคซีนโควิด ยี่ห้อไฟเซอร์ และโมเดอร์นาให้ฟรีกับนักท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ประสบปัญหาอย่างหนักจากการห้ามล่องเรือและการห้ามเดินทางทั่วไป
โดยจะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2564 ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในอลาสก้า จะสามารถรับวัคซีนได้ที่สนามบินหลักแห่งหนึ่งของรัฐ นอกจากนี้จะมีวัคซีนจำหน่ายนอกพื้นที่รักษาความปลอดภัยที่สนามบิน 4 แห่ง ได้แก่ ในเมืองจูโน, เมืองแฟร์แบงค์, เมืองเคตชิคาน และเมืองแองเคอเรจ ทั้งนี้ปัจจุบันวัคซีนได้รับการอนุมัติสำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปเท่านั้น
นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกที่สนามบินอลาสก้าแล้ว สามารถไปรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ทุกรัฐในสหรัฐอเมริกา ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่พำนักในสหรัฐฯ โดยหากเป็นวัคซีนของไฟเซอร์ เมื่อฉีดเข็มแรกแล้ว ต้องรอ 21 วันจึงจะฉีดเข็มที่ 2 ได้ ส่วนวัคซีนของโมเดอร์นา เมื่อฉีดเข็มแรกแล้ว ต้องรอ 28 วัน จึงจะฉีดเข็มที่ 2 ได้ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็มจึงต้องพำนักหรือท่องเที่ยวในสหรัฐฯ ให้ครบ 21-28 วัน
แหล่งที่มา:
https://www.nationalgeographic.com/travel/article/traveling-across-borders-for-a-vaccine
https://www.travelandleisure.com/travel-news/alaska-giving-tourists-covid-vaccines
https://www.travelinglifestyle.net/uae-reopening-borders-for-tourism-guide-to-visiting-dubai/
ภาพจาก: Freepik
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/