"...คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังได้เชิญเจ้าหน้าที่สอบสวนของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เนื่องจากผู้ร้องเรียนได้มีการกล่าวอ้างว่า ได้ทราบข้อเท็จจริงและเห็นเอกสารพยานหลักฐานจากการที่เจ้าหน้าที่ให้ตรวจดู แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้แจ้งทางวาจาว่า มหาวิทยาลัยมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ อย่างเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ถ้อยคำ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจึงไม่ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน..."
...................................
ประเด็นตรวจสอบกรณีมีบุคคลอ้างว่าเป็นนายทหารระดับสูง ยศ "พล.อ.อ." ทำงานในพระราชวัง อายุ 67 ปี มีชื่อย่อ "ช." ปรากฎพฤติการณ์เรียกรับเงินตอบแทนในการฝากเด็กนักเรียนจำนวน 3 ราย หัวละ 6 แสนบาท เข้ารับการศึกษาต่อในระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวัน ปีการศึกษา 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อร้องเรียนการบริหารของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน รับเรื่องร้องเรียน และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง จนพบว่ามีมูลการกระทำความผิดจริง พร้อมส่งเรื่องให้สภามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้เกี่ยวข้องในขณะนี้นั้น
(อ่านประกอบ : เรียกหัวละ 6 แสน! ผู้ตรวจการแผ่นดิน สั่งสภา มศว.สอบอ้างชื่อนายพล ยัด นร.เข้าสาธิตปทุมวัน, เข้ารายงานตัวหลังโอนเงิน1วัน! ล้วงผลสอบอ้างชื่อ นายพล ยัดนร.เข้าสาธิตปทุมวันหัวละ 6 แสน, บัญชีธนาคารโมฆะแล้ว! แกะรอย นายพล 'ช.'? เรียกเงินยัดนร.เข้าสาธิตปทุมวัน หัวละ 6 แสน )
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรียกรับเงินตอบแทนในการฝากเด็กนักเรียนจำนวน 3 ราย หัวละ 6 แสนบาท เข้ารับการศึกษาต่อในระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวัน ปีการศึกษา 2562 ที่แต่งตั้งโดยสภา มศว. ตามคำสั่งที่ 52/2563 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ได้สรุปผลการตรวจสอบว่า ไม่พบความไม่ชอบด้วยกฎหมายในกรณีนี้ อีกทั้งผู้ปกครองของนักเรียนทั้ง 3 ราย และคณะกรรมการจัดทำข้อสอบและผลสอบโครงการบริหารวิชาการต่างให้การว่าไม่ทราบหรือไม่รู้จัก นาย ช. ผู้ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ปกครองเพื่อฝากนักเรียนเข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน แต่ประการใด คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจึงเห็นว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเชื่อได้ในชั้นนี้ตามที่ร้องเรียน จึงเห็นควรให้ยุติเรื่อง
(อ่านประกอบ : แฉผลสอบ มศว.ยุติเรื่องเรียกเงินยัด นร.เข้าสาธิต หัวละ 6 แสน -คกก.แจงผู้ตรวจการฯ ไม่ให้ข้อมูล)
ต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดในรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงฉบับเต็มที่ถูกกล่าวถึง ณ ที่นี้
ตามคำสั่งสภามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่ 52/2563 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตรวจสอบกรณีมีบุคคลและกลุ่มบุคคล (นาย ท. และ นาย ช. ชื่อย่อ) แอบอ้างว่าเป็นข้าราชบริพารในพระองค์โดยมีพฤติการณ์แอบอ้างเป็นผู้สนองงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์จากผู้ปกครองเพื่อฝากบุตรหลานเข้ารับการศึกษาต่อในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กรณีการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จำนวน 3 ราย
ในการสอบหาข้อเท็จจริง คณะกรรมการฯ ได้เชิญบุคคลมาให้ถ้อยคำ ได้แก่ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน , อดีตรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร , ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน , อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน , ผู้ปกครองเด็กนักเรียน 3 ราย และ ผู้ร้องเรียน
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เชิญ นาย ช. มาให้ข้อมูล แต่นาย ช. ไม่มาตามวันเวลาที่กำหนด ส่วนนาย ท. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่จึงไม่สามารถติดต่อได้
นอกจากนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังได้เชิญเจ้าหน้าที่สอบสวนของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เนื่องจากผู้ร้องเรียนได้มีการกล่าวอ้างว่า ได้ทราบข้อเท็จจริงและเห็นเอกสารพยานหลักฐานจากการที่เจ้าหน้าที่ให้ตรวจดู
แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้แจ้งทางวาจาว่า มหาวิทยาลัยมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ อย่างเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ถ้อยคำคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจึงไม่ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
จากการตรวจสอบเอกสารและหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการรับฟังข้อเท็จจริงของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ปรากฎว่า
ข้อเท็จจริง
ในปีการศึกษา 2562 โรงเรียนสาธิต ฯ ปทุมวัน เปิดรับสมัครนักเรียนเข้าศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 หลักสูตร ดังนี้
1. รับเข้าเรียนในหลักสูตรปกติ จำนวน 120 คน และ
2. รับเข้าเรียนในโครงการนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษภาคภาษาอังกฤษ (EPTS) จำนวน 70 คน (รวมจำนวนนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรต ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) และนักเรียนเพื่อการศึกษาวิจัย)
ขั้นตอนในการรับสมัครสอบวัดความพร้อมเพื่อพิจารณานักเรียนเข้าศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 มีดังต่อไปนี้
(1) ผู้ประสงค์จะสมัครสอบสามารถยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานต่างๆ ในวันที่ 9 - 10 กุมภาพันธ์ 2562 โดยนักเรียนต้องไปสมัครด้วยตนเอง
(2) กำหนดการสอบวัดความพร้อมเพื่อพิจารณานักเรียนเข้าศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2562 โดยผู้สมัครทุกคนต้องเข้าสอบด้วยกันทั้งหมด 4 วิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และสังคมศึกษา สำหรับผู้ที่สมัครสอบเข้าเรียนโครงการ EPTS จะต้องสอบวิชาภาษาอังกฤษด้วย เพื่อนำคะแนนไปพิจารณาร่วมกับ 4 วิชาดังกล่าวข้างต้น
(3) ประกาศผลการสอบผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ ในวันที่ 13 มีนาคม 2562 ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนกลุ่มเพื่อการศึกษาวิจัยตามความเหมาะสม ผลการพิจารณาของมหาวิทยาลัยร่วมกับโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน ถือเป็นที่สิ้นสุด
(4) กำหนดสอบสัมภาษณ์ ในวันที่ 16 มีนาคม 2562 โดยโรงเรียนจะสัมภาษณ์นักเรียนด้านความรู้และมารยาทไทย และบิดา/มารดาของนักเรียน
(5) ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับพิจารณาให้เข้าศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ในวันที่ 18 มีนาคม 2562
(6) ผู้ที่ได้รับพิจารณามีสิทธิ์เข้าเป็นนักเรียนโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน ผู้ปกครองต้องนำนักเรียนมารายงานตัวในวันที่ 19 มีนาคม 2562 ถ้าไม่ไปรายงานตัวตามวันเวลาที่กำหนดถือว่าสละสิทธิ์การเข้าเป็นนักเรียนโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน
การสมัครสอบวัดความพร้อมเพื่อพิจารณานักเรียนเข้าศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 โรงเรียนจะแบ่งกลุ่มการรับสมัครออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มนักเรียนที่ทดสอบได้ตามเกณฑ์
กลุ่มที่ 2 คือ นักเรียนที่มาจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม)
กลุ่มที่ 3 คือ นักเรียนโครงการอัจฉริยะภาพทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และรวมถึงนักเรียนที่มาจากสวัสดิการบุคลากร (บุตรบุคลากร/ศิษย์เก่า/บุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ)
สำหรับเด็กชายรายที่ 1 ได้ยื่นใบสมัครลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 ส่วนของเด็กชายรายที่ 2 และเด็กหญิงรายที่ 3 ได้ยื่นใบสมัครลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562
ทั้งสามรายประสงค์จะศึกษาในหลักสูตรปกติ
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 โรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน ประกาศรายชื่อนักเรียนที่ทดสอบได้ตามเกณฑ์และมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โดยแบ่งออกเป็นหลักสูตรปกติ และโครงการนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษภาคภาษาอังกฤษ (EPTS) โดยหลักสูตรปกติ มีทั้งหมด 3 กลุ่ม รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 350 คน ได้แก่
กลุ่มที่ 1 : รายชื่อนักเรียนที่ทดสอบได้ตามเกณฑ์และมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ในวันที่ 16 มีนาคม 2562 มีจำนวนทั้งหมด 120 คน
กลุ่มที่ 2 : รายชื่อนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรต ประสานมิตร(ฝ่ายประถม) ได้รับการพิจารณาให้มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ในวันที่ 16 มีนาคม 2562 มีจำนวนทั้งหมด 106 คน
กลุ่มที่ 3 : รายชื่อนักเรียนที่ได้รับการพิจารณาให้มีสิทธิ์เข้าสัมภาษณ์ ในวันที่ 16 มีนาคม 2562 มีจำนวนทั้งหมด 124 คน
และประกาศรายชื่อนักเรียนที่ผ่านการพิจารณาให้สำรองเพื่อเข้าสอบสัมภาษณ์ จำนวน 4 คน
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 โรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน ประกาศรายชื่อนักเรียนที่สอบวัดความพร้อมได้ตามเกณฑ์และมีสิทธิ์เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โดยแบ่งออกเป็น หลักสูตรปกติ และโครงการนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษภาคภาษาอังกฤษ (EPTS) โดยหลักสูตรปกติ มีทั้งหมด 3 กลุ่ม รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 306 คน
กลุ่มที่ 1 : นักเรียนที่สอบวัดความพร้อมได้ตามเกณฑ์และมีสิทธิ์เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 กำหนดมอบตัวในวันที่ 19 มีนาคม 2562 มีจำนวนทั้งหมด 81 คน
กลุ่มที่ 2 : รายชื่อนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร(ฝ่ายประถม) ได้รับการพิจารณาให้มีสิทธิ์เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 กำหนดมอบตัวในวันที่ 19 มีนาคม 2562 มีจำนวนทั้งหมด 106 คน
กลุ่มที่ 3 : รายชื่อนักเรียนที่ได้รับการพิจารณาให้มีสิทธิ์เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 กำหนดมอบตัวในวันที่ 19 มีนาคม 2562 มีจำนวนทั้งหมด 119 คน
จากประกาศรายชื่อนักเรียนที่ทดสอบได้ตามเกณฑ์มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์และมอบตัวเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ข้อเท็จจริงปรากฎว่าไม่มีรายชื่อของเด็กนักเรียนทั้ง 3 ราย แต่อย่างใด
อีกทั้งในประกาศรายชื่อนักเรียนที่ผ่านการพิจารณาให้สำรองก็ไม่ปรากฎรายชื่อของนักเรียนทั้งสามราย
แต่มีรายชื่อนักเรียนทั้งสามรายปรากฏอยู่ใน "รายชื่อนักเรียนสำรองเพื่อเข้าสอบสัมภาษณ์และมอบตัวเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (หลักสูตรปกติ) ปีการศึกษา 2562 " หรือกลุ่มสำรอง ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 55 คน
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า โรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำข้อสอบและผลสอบโครงการบริหารวิชาการ "โครงการสอบวัดความพร้อมเพื่อพิจารณานักเรียนเข้าศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 " ตามคำสั่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่ 026/2562 โดยคณะกรรมการการจัดลำดับและพิจารณาผลสอบ และในประกาศมีให้โรงเรียนสามารถสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนกลุ่มเพื่อการศึกษาวิจัยตามความเหมาะสม ไว้อย่างชัดแจ้งในประกาศโรงเรียนสาธิตฯปทุมวัน เรื่อง การสอบวัดความพร้อมเพื่อพิจารณานักเรียนเข้าศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 โดยกำหนดให้ผลการพิจารณาของมหาวิทยาลัยร่วมกับโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน ถือเป็นที่สุด
จากการตรวจสอบพยานบุคคลได้ความว่า คณะกรรมการจัดทำข้อสอบและผลสอบโครงการบริหารวิชาการได้อาศัยประกาศโรงเรียนสาธิต ฯ ปทุมวัน เรื่อง การสอบวัดความพร้อมเพื่อพิจารณานักเรียนเข้าศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ให้อำนาจคณะกรรมการจัดทำข้อสอบและผลสอบโครงการบริหารวิซาการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนกลุ่มเพื่อการศึกษาวิจัยตามความเหมาะสมได้
คณะกรรมการจัดทำข้อสอบและผลสอบโครงการบริหารวิชาการจึงได้จัดทำ "รายชื่อนักเรียนสำรองเพื่อเข้าสอบสัมภาษณ์และมอบตัวเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (หลักสูตรปกติ) ปีการศึกษา 2562 " หรือกลุ่มสำรองโดยพิจารณาจากแพ้มสะสมผลงาน (portfolio) หรือเอกสารสรุปผลงานและความสามารถพิเศษด้านวิชาการและด้านกิจกรรมต่างๆ และพิจารณาประกอบกับปิดามารดาที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศหรือให้กับมหาวิทยาลัยและอาชีพของบิดามารดาเพื่อความหลากหลายทางอาชีพ ซึ่งแฟ้มสะสมผลงาน (portfolio) สามารถยื่นได้พร้อมกับยื่นใบสมัครหรือยื่นในภายหลัง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการจัดทำข้อสอบและผลสอบโครงการบริหารวิชาการ
เหตุที่จะต้องมีกลุ่มสำรอง ก็เพราะเมื่อโรงเรียนได้มีการประกาศรายชื่อนักเรียนที่มีสิทธิ์เข้ามอบตัวแล้วจะมีกรณีที่นักเรียนที่มีสิทธิ์มอบตัวไม่มามอบตัวตามที่โรงเรียนประกาศกำหนดไว้ ถือว่าเป็นการสละสิทธิ์
โรงเรียนก็จะเรียกนักเรียนจาก "รายชื่อนักเรียนสำรองเพื่อเข้าสอบสัมภาษณ์และมอบตัวเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (หลักสูตรปกติ) ปีการศึกษา 2562" หรือกลุ่มสำรอง โดยเรียกตามลำดับรายชื่อตามบัญชีรายชื่อที่ได้เรียงลำดับไว้ลายลักษณ์อักษร แต่มิได้ประกาศให้ทราบเป็นการทั่วไป โดยใช้วิธีโทรศัพท์แจ้งทางวาจาให้มามอบตัวตามวันเวลาที่กำหนด
โดยโรงเรียนจะเรียกรายชื่อสำรองดังกล่าวตามจำนวนที่มีนักเรียนสละสิทธิ์ ซึ่งการจัดทำกลุ่มสำรอง นี้ได้มีการจัดทำในลักษณะนี้มาตลอดในหลายปีที่ผ่านมา โดยในปีการศึกษา 2562 มีการเรียกรายชื่อ กลุ่มสำรอง จนถึงลำดับที่ 51 จากทั้งหมด 55 คน.
ความเห็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
กรณีการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ของโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน ในรายของเด็กนักเรียนทั้ง 3 ราย คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า ไม่ปรากฏความไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการรายชื่อของนักเรียนทั้ง 3 ราย ปรากฎอยู่ใน "รายชื่อนักเรียนสำรองเพื่อเข้าสอบสัมภาษณ์และมอบตัวเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (หลักสูตรปกติ) ปีการศึกษา 2562 " หรือกลุ่มสำรอง โดยการพิจารณาผลสอบจัดลำดับโดยคณะกรรมการจัดทำข้อสอบและผลสอบโครงการบริหารวิชาการ ซึ่งพิจารณาประกอบแฟ้มสะสมผลงาน (portfolio) หรือเอกสารสรุปผลงานและความสามารถพิเศษด้านวิชาการและด้านกิจกรรมต่างๆ และพิจารณาจากบิดามารดาที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศหรือให้กับมหาวิทยาลัย อาชีพของบิดามารดาเพื่อความหลากหลายทางอาชีพ และจากการให้การของพยานบุคคลรวมทั้งผู้ปกครองของนักเรียนทั้ง 3 ราย ข้อเท็จจริงไม่อาจรับฟังได้ว่ามีการให้เงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นแก่บุคคลใด เพื่อให้นักเรียนทั้ง 3 ราย ได้เข้าศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน อีกทั้งผู้ปกครองของนักเรียนทั้ง 3 ราย และคณะกรรมการจัดทำข้อสอบและผลสอบโครงการบริหารวิชาการ ต่างให้การว่าไม่ทราบหรือไม่รู้จัก นาย ท. หรือ นาย ช. ผู้ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ปกครองเพื่อฝากนักเรียนเข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน แต่ประการใด
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงเห็นว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเชื่อได้ในชั้นนี้ตามที่ร้องเรียน จึงเห็นควรให้ยุติเรื่อง
อย่างไรก็ตาม "รายชื่อนักเรียนสำรองเพื่อเข้าสอบสัมภาษณ์และมอบตัวเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (หลักสูตรปกติ) ปีการศึกษา 2562" หรือกลุ่มสำรอง มิได้มีการประกาศให้บุคคลทั่วไปได้ทราบอันอาจทำให้เกิดความไม่เสมอภาคและเป็นกลาง และในการพิจารณาก็มิได้มีหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างชัดแจ้ง เห็นควรเสนอให้มีการกำหนดหลักกณฑ์ในการพิจารณารายชื่อนักเรียนกลุ่มสำรองไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเป็นหลักเกณฑ์และแนวทางในการพิจารณารับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาชั้นของโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน ต่อไป
อนึ่ง เกี่ยวกับรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงฉบับนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า มีแหล่งข่าวใน มศว. ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าการสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว มีความขัดแย้งกับข้อเท็จจริงชัดเจน ในประเด็น 2 ประเด็น คือ
(1) กรณีไม่มีการประกาศรายชื่อสำรอง และนักเรียนทั้ง 3 คนอยู่ในรายชื่อสำรองนั้น ข้อเท็จจริง คือ มีการประกาศรายชื่อสำรอง แต่มิได้มีการนำรายชื่อสำรองมาพิจารณา กลับนำเอานักเรียนที่มิได้อยู่ในรายชื่อสำรองมาพิจารณารับเข้าเรียน ซึ่งขัดต่อระเบียบและวิธีปฎิบัติ เพราะการกล่าวอ้างว่าเป็นอำนาจของผู้บริหารนั้น หากเป็นเรื่องที่ขัดต่อระเบียบและหลักธรรมาภิบาลภายใต้ความเท่าเทียม มิสามารถกระทำได้
(2) การสรุปข้อเท็จจริงในการเรียกรับเงิน โดยฟังข้อมูลฝ่ายนักเรียน 3 ราย เป็นหลักนั้น มิสามารถช่วยแสวงหาข้อเท็จจริงได้ โดยในข้อเท็จจริงนั้น มีหลักฐานการโอนเงินชัดแจ้ง แต่กรรมการกลับไม่แสวงหาข้อเท็จจริงดังกล่าวจากผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่กลับสรุปโดยการอ้างอิงพยานที่ไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง คือ ผู้ปกครองนักเรียนทั้ง 3 ราย ที่จ่ายเงินใต้โต๊ะแล้วได้เข้าเรียน ซึ่งเป็นไปมิได้ที่พยานกลุ่มดังกล่าวจะยอมรับ เนื่องจากอาจกลัวว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด และมีผลกระทบต่อนักเรียนที่เป็นบุตรหลาน
ขณะที่ ในรายงานผลการสอบสวนของ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่สำนักข่าวอิศรา นำมาเปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ระบุชัดเจนว่า ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ โดยเรียกพยานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำ ได้รับการยืนยันข้อมูลจากพยานรายหนึ่งว่า กรณีดังกล่าวได้มีการโอนเงินให้กับบุคคลที่อ้างว่าเป็นนายทหารระดับสูง ยศ "พล.อ.อ." ทำงานในพระราชวัง ในช่วงปีการศึกษา 2562 ภายหลังจากผู้ปกครองของเด็กนักเรียนจำนวน 3 ราย มาติดต่อขอให้ช่วยฝากเด็กเข้าเรียนที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โดยเด็กกลุ่มนี้ เป็นเด็กที่สอบไม่ผ่านข้อเขียน และนํารายชื่อมาฝากเข้าเรียน โดยเสียค่าตอบแทนคนละจํานวน 600,000 บาท รวมเป็นจํานวนเงินทั้งสิ้น 1,800,000 บาท
ขณะที่จากการตรวจสอบประกาศโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เรื่อง รายชื่อนักเรียนที่ทดสอบได้ตามเกณฑ์และมีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลักสูตรปกติ และโครงการ EPTS ปีการศึกษา 2562 ทั้ง 3 กลุ่ม และรายชื่อ สํารองทั้งสองหลักสูตร ลงวันที่ 13 มีนาคม 2562 ไม่ปรากฏว่าเด็กนักเรียนทั้ง 3 คน มีรายชื่อสอบได้ตามเกณฑ์ ทั้ง 3 กลุ่ม รวมทั้งสํารอง ทั้งภาคปกติ และโครงการ EPTS ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ตามประกาศโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ลงวันที่ 13 มีนาคม 2562 แต่อย่างใด
แต่ผลการตรวจสอบใบมอบตัวลงทะเบียนเป็นนักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ปีการศึกษา 2562 ปรากฏว่าเด็กนักเรียนทั้ง 3 ราย กลับมีรายชื่อเป็นนักเรียนที่มีสิทธิเข้ารับการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ปีการศึกษา 2562
เมื่อนำหลักฐานการโอนเงินที่ตรวจสอบพบ ประกอบกับคําให้การของพยานนํามาเปรียบเทียบ กับรายละเอียดการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบัญชีของบุคคลที่อ้างว่าเป็นนายทหารระดับสูง ยศ "พล.อ.อ." สาขารัชดาภิเษก (ห้วยขวาง) ประเภทบัญชี ออมทรัพย์ พบว่า ในวันที่ 19 มีนาคม 2562 มีรายการโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว จํานวน 2 ครั้ง ๆ ละ 600,000 บาท และวันที่ 21 มีนาคม 2562 มีการโอนเงินเข้าบัญชี จํานวน 1 ครั้ง จํานวนเงิน 610,000 บาท ตรงตามข้อกล่าวอ้างในคําร้องเรียนและเจือสมกับคําให้การของพยานทุกประการ และสอดคล้องกับการเดินทาง เข้ามอบตัวของเด็กนักเรียน 2 ราย ที่เดินทางเข้ามอบตัว เข้ารับการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2562 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ปีการศึกษา 2562 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 หลังจากโอนเงินแล้ว 1 วัน และการเดินทางเข้ามอบตัว ของเด็กนักเรียนอีก 1 ราย ที่เข้ารับการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2562 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ปีการศึกษา 2562 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 หลังจากโอนเงินแล้ว 1 วันเช่นกัน
แต่ก็มีข้อโต้แย้งจากหนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่า เหตุผลที่คณะกรรมการฯ มีความเห็นให้ยุติเรื่องนี้ เนื่องจากไม่มีอำนาจตรวจสอบเรื่องทุจริต ขณะที่ในการสอบสวนได้มีการเชิญตัวแทนผู้ตรวจการแผ่นดินมาให้ปากคำแล้วแต่ก็ไม่มีใครมา ขณะที่บุคคลที่ผู้ตรวจการฯ อ้างถึงก็ไม่สามารถติดต่อได้ เรียกอาจารย์ที่ร้องมาสอบก็ไม่มีหลักฐาน
อย่างไรก็ดี ในการสรุปผลการสอบสวนเรื่องนี้ คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า รายชื่อนักเรียนสำรองเพื่อเข้าสอบสัมภาษณ์และมอบตัวเป็นนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 หรือกลุ่มสำรอง มิได้มีการประกาศให้บุคคลทั่วไปได้ทราบอันอาจทำให้เกิดความไม่เสมอภาคและเป็นกลาง และในการพิจารณาก็มิได้มีหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างชัดแจ้ง จึงเห็นควรเสนอให้การกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณารายชื่อนักเรียนกลุ่มสำรองไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเป็นหลักเกณฑ์และแนวทางในการพิจารณารับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมทศึกษาชั้นปีที่1 ของโรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวันต่อไป
ผลจากนี้ เป็นอย่างไร คงต้องติดตามดูกันต่อไปอย่างใกล้ชิด
อ่านเรื่องในหมวดเดียวกัน :
@ เอื้อปย.จ้างตรวจวิเคราะห์โรค
ปธ.จัดจ้างโผล่ชื่อถือหุ้นบ.คู่สัญญา! เปิดผลสอบลับ มศว.เอื้อปย.จ้างตรวจวิเคราะห์โรค 5 ล.
ปธ.จัดจ้างเคยถือหุ้นจริง! พิสูจน์สำเนาบัญชีผู้ถือหุ้น บ.คู่สัญญาตรวจวิเคราะห์โรค มศว.
ให้ชะลอเสนอชื่อโปรดเกล้าฯอธิการจริง! ผู้ตรวจการฯ ส่ง ป.ป.ช.สอบปมเอื้อจ้างตรวจโรค มศว.แล้ว
คนที่ 2! ปธ.ตรวจงานจ้างวิเคราะห์โรค มศว. ถือหุ้น บ.คู่สัญญาด้วย-ผู้ตรวจการฯ แจ้งสอบแล้ว
สมชาย สันติวัฒนกุล ชี้ปัญหาร้องเรียนตรวจวิเคราะห์โรคมาจากคนแข่งแพ้ไม่ได้เป็นอธิการ
ส่งเรื่อง ป.ป.ช. แล้ว! 'ดีเอสไอ' ปิดสำนวนสอบคดีเอื้อ ปย.จ้างตรวจวิเคราะห์โรค มศว.
@ เรียกเงินฝากเด็กนร.
เรียกหัวละ 6 แสน! ผู้ตรวจการแผ่นดิน สั่งสภา มศว.สอบอ้างชื่อนายพล ยัด นร.เข้าสาธิตปทุมวัน
เข้ารายงานตัวหลังโอนเงิน1วัน! ล้วงผลสอบอ้างชื่อ นายพล ยัดนร.เข้าสาธิตปทุมวันหัวละ 6 แสน
บัญชีธนาคารโมฆะแล้ว! แกะรอย นายพล 'ช.'? เรียกเงินยัดนร.เข้าสาธิตปทุมวัน หัวละ 6 แสน
เจอเงินผ่านบัญชี 2 ปี 16.8 ล.! ชงสอบภาษี นายพล 'เก๊' เรียก 6 แสน ฝากเข้าสาธิตปทุมวัน
ข่าวล่าสุด! สภาฯ มศว. เรียกสอบแล้ว ปม นายพล 'เก๊' เรียก 6 แสน ฝากเข้าสาธิตปทุมวัน
ข้อมูลใหม่ นายพล 'เก๊' โดนแจ้งความคดีฉ้อโกงฝากเด็กเข้าสาธิต มศว.ประสานมิตรด้วย
เข้าข่าย ม.112! ร้อง ผบช.ก. เร่งรัดคดี นายพล 'เก๊'' เรียกเงินฝากเด็กเข้าสาธิต มศว.
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage