เข้าข่าย ม.112! ร้อง ผบช.ก. เร่งรัดคดี นายพล 'เก๊'' เรียกเงินฝากเด็กเข้าสาธิต มศว.

picnewsaaaasssss3 2 64

เผยความคืบหน้าคดีนายพล 'เก๊' เรียกรับเงินตอบแทนฝากเด็กเข้าเรียนสาธิต มศว. ปทุมวัน ล่าสุด บุคลากร มศว.ทำหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ผบช.ก.ให้เร่งรัดดำเนินคดี ม.112 -กม.ฟอกเงิน ชี้พฤติการณ์ชัด 2 กรณีทั้งสาธิต ประสานมิตร-ปทุมวัน ส่วนผู้บริหารบางราย เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่จัดการทำมหาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียง

.....................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าประเด็นตรวจสอบกรณีมีบุคคลอ้างว่าเป็นนายทหารระดับสูง ยศ "พล.อ.อ." ทำงานในพระราชวัง อายุ 67 ปี มีชื่อย่อ "ช." ปรากฎพฤติการณ์เรียกรับเงินตอบแทนในการฝากเด็กนักเรียนจำนวน 3 ราย หัวละ 6 แสนบาท เข้ารับการศึกษาต่อในระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวัน ปีการศึกษา 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อร้องเรียนการบริหารของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน รับเรื่องร้องเรียน และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง จนพบว่ามีมูลการกระทำความผิดจริง พร้อมส่งเรื่องให้สภามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้เกี่ยวข้องในขณะนี้นั้น

ล่าสุด มีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2564 มีบุคคลากรในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เพือขอให้เร่งรัดดำเนินคดีกับ บุคคลอ้างว่าเป็นนายทหารระดับสูง ยศ "พล.อ.อ." มีชื่อย่อ "ช." และผู้บริหารรายหนึ่งของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

โดยคำร้องทุกข์ในส่วนของ นาย ช. นั้น ระบุว่า มีพฤติการณ์แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง เรียกรับเงินจากผู้ปกครองเพื่อฝากบุตรหลานให้เข้ารับการศึกษาต่อในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรก กรณีโรงเรียนสาธิต มศว.ประสานมิตร แต่มีการนำเงินมาคืนผู้ปกครองจึงยุติเรื่องในส่วนของคดีฉ้อโกงไป

ส่วนครั้งสอง กรณีโรงเรียนสาธิต มศว. ปทุมวัน ผู้ตรวจการแผ่นดินสอบสวนแล้วพบว่ามีมูลความผิด ปรากฎหลักฐานการโอนเงินสอดคล้องกับการเข้าเรียนโดยไม่มีชื่อประกาศในบอร์ดประกาศผลการสอบคัดเลือกเข้าเรียนของนักเรียนบางราย การกระทำของนาย ช.ทั้ง 2 ครั้ง จึงถือเป็นความร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีพฤติการณ์แอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อหาผลประโยชน์ใส่ตัว เรียกรับผลประโยชน์ ขณะที่การโอนเงินรับฝากนักเรียนเข้าบัญชีก็อาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินด้วย

สำหรับคำร้องทุกข์ในส่วนของผู้บริหารมหาวิทยาลัยรายหนึ่งนั้น เป็นกรณีการปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามากระทำการทุจริตโดยไม่ดำเนินการทางกฎหมยใด ทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสี่ยง จากการหลอกลวงของมิจฉาชีพ ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายฟอกเงินด้วย

จากพฤติการณ์ทั้งหมด จึงขอให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเจ้าของสำนวน สอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้ง 2 ราย ตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป และหากพบว่ามีบุคคลอื่มร่วมกระทำผิด หรือมีการกระทำผิดข้อหาอื่น ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไปด้วย

อ่านเรื่องในหมวดเดียวกัน :

@ เอื้อปย.จ้างตรวจวิเคราะห์โรค

ปธ.จัดจ้างโผล่ชื่อถือหุ้นบ.คู่สัญญา! เปิดผลสอบลับ มศว.เอื้อปย.จ้างตรวจวิเคราะห์โรค 5 ล.

ปธ.จัดจ้างเคยถือหุ้นจริง! พิสูจน์สำเนาบัญชีผู้ถือหุ้น บ.คู่สัญญาตรวจวิเคราะห์โรค มศว.

ให้ชะลอเสนอชื่อโปรดเกล้าฯอธิการจริง! ผู้ตรวจการฯ ส่ง ป.ป.ช.สอบปมเอื้อจ้างตรวจโรค มศว.แล้ว

คนที่ 2! ปธ.ตรวจงานจ้างวิเคราะห์โรค มศว. ถือหุ้น บ.คู่สัญญาด้วย-ผู้ตรวจการฯ แจ้งสอบแล้ว

สมชาย สันติวัฒนกุล ชี้ปัญหาร้องเรียนตรวจวิเคราะห์โรคมาจากคนแข่งแพ้ไม่ได้เป็นอธิการ

ส่งเรื่อง ป.ป.ช. แล้ว! 'ดีเอสไอ' ปิดสำนวนสอบคดีเอื้อ ปย.จ้างตรวจวิเคราะห์โรค มศว.

@ เรียกเงินฝากเด็กนร.

เรียกหัวละ 6 แสน! ผู้ตรวจการแผ่นดิน สั่งสภา มศว.สอบอ้างชื่อนายพล ยัด นร.เข้าสาธิตปทุมวัน

เข้ารายงานตัวหลังโอนเงิน1วัน! ล้วงผลสอบอ้างชื่อ นายพล ยัดนร.เข้าสาธิตปทุมวันหัวละ 6 แสน

บัญชีธนาคารโมฆะแล้ว! แกะรอย นายพล 'ช.'? เรียกเงินยัดนร.เข้าสาธิตปทุมวัน หัวละ 6 แสน