"...ในความเป็นจริงจำนวนรายงานเหตุการณ์ประเภทนี้สำหรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้านั้น ไม่เกินจำนวนที่จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติในประชากรที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ในการทดลองทางคลินิกไม่พบแนวโน้มหรือรูปแบบใด ๆ เกี่ยวกับภาวะเส้นเลือดอุดตันในปอด การอุดตันของหลอดเลือดดำส่วนลึก หรือเหตุการณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ..."
..........................................
หลังจากเดนมาร์กและหลายประเทศในสหภาพยุโรปพบผู้มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังได้รับวัคซีน 29 ราย ทำให้หลายๆประเทศ ชะลอการใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าชั่วคราว (AstraZeneca) เพื่อรอฟังผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ล่าสุดองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป European Medicines Agency (EMA) กำลังตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด รวมถึงสถานการณ์ทางคลินิกโดยรอบ ร่วมกับหน่วยงานด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร เพื่อหาคำตอบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว วัคซีนอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเหตุการณ์นั้นน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่นหรือไม่ ซึ่งจะตรวจสอบเพิ่มเติมในวันที่ 16 มี.ค.2564 และจะมีการประชุมวิสามัญหารือข้อสรุปและแนวทางการดำเนินการในวันที่ 18 มี.ค.2564
ขณะที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกแถลงการณ์ร่วมกับ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ยืนยันวัคซีนมีความปลอดภัย และพร้อมที่จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้คนไทยตามแผนที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ (ข่าวประกอบ : กรมควบคุมโรค-แอสตร้าเซนเนก้า แถลงการณ์ยืนยันวัคซีนโควิดมีความปลอดภัย)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้แปลและเรียบเรียงข้อมูลสำคัญถึงสาเหตุของการชะลอการใช้วัคซีนชั่วคราวของหลายๆประเทศ มานำเสนอ ดังนี้
ความคิดเห็นที่หลากหลายทางวิทยาศาสตร์ ต่างเห็นว่าภาวะลิ่มเลือดอุดตันไม่มีความเชื่อมโยงกับวัคซีน แต่ในสถานการณ์การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากลับมีรายงาน ที่แสดงให้เห็นว่าอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย
ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ได้เข้าร่วมในรายชื่อประเทศที่ขอชะลอการให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าชั่วคราว เพิ่มขึ้นมา จากเดิมที่มีรายงานพบว่าเกิดภาวะแข็งตัวของลิ่มเลือด ซึ่งเจ้าหน้าที่ในเดนมาร์ก นอร์เวย์และไอซ์แลนด์ได้หยุดใช้วัคซีนในสัปดาห์นี้ และอีกหลายคนหยุดใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจำนวนหนึ่งแล้ว ในขณะที่ตรวจสอบความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้กับความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด
ทั้งนี้ องค์กรยาแห่งสหภาพยุโรป European Medicines Agency (EMA) กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีข้อบ่งชี้ใดแสดงให้เห็นว่าเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) เช่นเดียวกัน
@ ประเทศใดบ้างที่ระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เดนมาร์ก นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และบัลแกเรีย ได้ประกาศชะลอการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าชั่วคราว หลังจากมีรายงานว่าเกิดลิ่มเลือดก่อตัวขึ้น รวมทั้งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
การเคลื่อนไหวดังกล่าว เจ้าหน้าที่เดนมาร์กอธิบายว่าเป็น 'ข้อควรระวัง' ที่เกิดขึ้นหลังจากออสเตรียหยุดใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าชุดหนึ่ง ในขณะที่ตรวจสอบการเสียชีวิต พบความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด และความเจ็บป่วยจากเส้นเลือดอุดตันในปอด ซึ่งเป็นโรคปอดที่เกิดจากก้อนเลือดที่หลุดออกไป
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยและคองโกได้ชะลอการใช้วัคซีนเช่นกัน รวมถึงเอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก โรมาเนีย และลัตเวียที่ได้หยุดการฉีดวัคซีนวัคซีนไว้ก่อน เพื่อรอผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการ
ในขณะที่การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป ชุดยา 1 ล้านโดสได้ส่งไปยัง 17 ประเทศในสหภาพยุโรป และ 4 ภูมิภาคของสเปน ได้แก่ คาสตีลและลีออน อันดาลูเซีย อัสตูเรียส และหมู่เกาะคานารี ได้หยุดการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะลิ่มเลือดก่อน แต่จะยังฉีดให้กับบุคคลอื่นๆ ที่นอกเหนือจากกลุ่มเสี่ยงต่อไป
นอกจากนั้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไอร์แลนด์ได้ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าออกไปชั่วคราว ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของไอร์แลนด์
ด้าน ศ.คารินา บัตเลอร์ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติของไอร์แลนด์ กล่าวว่า “วัคซีนนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการต่อต้านโรคโควิดที่รุนแรง ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของการแข็งตัวของเลือด เราได้ดำเนินการขั้นตอนนี้ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก”
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ เนเธอร์แลนด์ ได้ระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 สัปดาห์ เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน
ในวันเดียวกันนั้น แคว้นปิเอมอนต์ทางตอนเหนือของอิตาลีกล่าวว่าจะชะลอการฉีดแอสตร้าเซนเนก้าชั่วคราวด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากครูจากเมือง บีเอลลา (Biella) เสียชีวิตหลังจากการฉีดวัคซีนเมื่อวันเสาร์ที่ 13 มี.ค.2564
“เป็นการกระทำที่ต้องใช้ความรอบคอบอย่างมาก ในการตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่พบปัญหาร้ายแรงที่เกี่ยวกับการให้วัคซีน” หัวหน้าฝ่ายบริการสุขภาพระดับภูมิภาค กล่าว
@ ทำไมถึงต้องระงับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าได้รับผลกระทบกว่าสิบประเทศ หลังจากรายงานผลกระทบที่เป็นอันตราย ที่อาจเกิดขึ้นโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่การแข็งตัวของเลือด
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2564 มีรายงานผู้ป่วย 30 รายในฐานข้อมูลของอีเอ็มเอ เกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีนของประชากรเกือบ 5 ล้านคนในเขตเศรษฐกิจยุโรป ตัวอย่างเช่นในวันที่ 11 มี.ค.2564 ผู้หญิงอายุ 57 ปีจากหมู่บ้านทางตอนใต้ของบัลแกเรียเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว 15 ชั่วโมงหลังจากได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยในออสเตรีย พบหญิงอายุ 49 ปีเสียชีวิตเนื่องจากความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดอย่างรุนแรง ในขณะที่หญิงอายุ 35 ปี มีอาการเส้นเลือดอุดตันในปอดและกำลังฟื้นตัว อย่างไรก็ตามเกือบทุกประเทศที่ออกมาตรการระงับก็ยอมรับว่าไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าวัคซีนทำให้เลือดอุดตัน
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพชี้ให้เห็นว่าคนที่มีแนวโน้มที่จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิดมากที่สุดในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด
ความคิดเห็นที่หลากหลายทางวิทยาศาสตร์ ต่างเห็นว่าภาวะลิ่มเลือดอุดตันไม่มีความเชื่อมโยงกับวัคซีน แต่ในสถานการณ์การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากลับมีรายงาน ที่แสดงให้เห็นว่าอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย
โดยหลายคนบอกว่าการอุดตันของเลือดเป็นเรื่องปกติ ซึ่งองค์การอนามัยโลกกล่าวว่ากำลังพิจารณาปัญหานี้ ขณะเดียวกันได้ชี้ว่ายังไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ใช้ยานี้ ในขณะที่หน่วยงานอีเอ็มเอของยุโรปให้การสนับสนุน และกล่าวว่าประโยชน์ที่ได้รับจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ายังมีมากกว่าความเสี่ยง
ด้าน พญ.ซอมญ่า ซวามินาทน รองผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวบรรยายสรุปกับสื่อมวลชนว่า ทางองค์การอนามัยโลกไม่ต้องการให้ผู้คนตื่นตระหนก และยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างภาวะลิ่มเลือดกับการฉีดวัคซีนโควิด
ขณะที่ นายแอนดริว โพลลาร์ หัวหน้าผู้ตรวจสอบการทดลองวัคซีนของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ยังกล่าวอีกว่า ไม่ได้รับรายงานใด ๆ เกี่ยวกับการอุดตันของเลือดในคนที่เกิดจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ในขณะที่มีการใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามามากกว่า 11 ล้านโดสในสหราชอาณาจักร
ดร.ฟิล ไบรอัน ผู้นำด้านความปลอดภัยของวัคซีน หน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Medicines & Healthcare Regulatory Agency: MHRA) ในสหราชอาณาจักรกล่าวว่า “รายงานเกี่ยวกับลิ่มเลือดที่ได้รับจนถึงขณะนี้ ยังไม่เกินจำนวนที่จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติในประชากรที่ได้รับวัคซีน”
นพ.ซิลเวส โตรสก็อต แพทย์ในเมืองเนเปิลส์และหัวหน้าสมาพันธ์ผู้ปฏิบัติงานทั่วไปของอิตาลีกล่าวว่า แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างวัคซีนและลิ่มเลือด แต่พบมีอัตรา 0.007 จากหนึ่งพันคน นับว่าน้อยมาก
“ยกตัวอย่างยา เช่น ยาคุมซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายและไม่ต้องกังวลกับใคร มีอัตราความเสี่ยงที่พิสูจน์แล้ว 0.6 ในหนึ่งพัน แม้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดในอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลประโยชน์ของวัคซีนนี้ก็ยังดีเป็นพิเศษ” นพ.ซิลเวส โตรสก็อต กล่าว
ส่วน ศ.สตีเฟน อีวาน ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยา สถาบันด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์เขตร้อนแห่งลอนดอน อธิบายว่าการชะลอการฉีดวัคซีน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากรายงานที่สงสัยว่าเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน ซึ่งยากในการแยกแยะผลกระทบเชิงสาเหตุจากความบังเอิญ แต่ควรมีการตรวจสอบให้แน่ใจว่าประโยชน์ และความเสี่ยงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนมีความเหมาะสมหรือไม่
ศ.สตีเฟน อีวาน กล่าวอีกว่า หากไม่มีการขาดแคลนวัคซีนทางเลือกใดๆ ดังนั้นแนวทางการป้องกันอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกับเดนมาร์กอาจสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตามหากการกระทำนั้นหยุดบางคนที่ได้รับวัคซีน ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด แสดงว่าเป็นการใช้ความระมัดระวังอย่างไม่ถูกต้อง
“เท่าที่สามารถบอกได้ว่าไม่มีสัญญาณของปัญหาดังกล่าวในสหราชอาณาจักร แต่ก็จำเป็นต้องมีการศึกษาทางระบาดวิทยาที่เหมาะสมและรวดเร็วเพื่อดูว่า เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่” ศ.สตีเฟน อีวาน กล่าว
@ แถลงการณ์ของแอสตร้าเซนเนก้า พูดว่าอะไรบ้าง
ในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มี.ค.2564 บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า กล่าวว่า ไม่พบหลักฐานของความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเส้นเลือดอุดตันในปอดหรือเส้นเลือดตีบ จากข้อมูลความปลอดภัยมากกว่า 10 ล้านรายการ
โฆษกของ บริษัท ยายักษ์ใหญ่แห่งวงการเภสัชกรรม กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการระงับการใช้งานของชาวไอริชว่า “การวิเคราะห์ข้อมูลด้านความปลอดภัยของเรา ซึ่งครอบคลุมกรณีที่ได้รับรายงานจากวัคซีนมากกว่า 17 ล้านครั้งที่ได้รับ ไม่แสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเส้นเลือดอุดตันในปอดเส้นเลือดตีบหรือภาวะเกล็ดเลือดต่ำจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า"
โฆษกของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า กล่าวอีกว่า ในความเป็นจริงจำนวนรายงานเหตุการณ์ประเภทนี้สำหรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้านั้น ไม่เกินจำนวนที่จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติในประชากรที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ในการทดลองทางคลินิกไม่พบแนวโน้มหรือรูปแบบใด ๆ เกี่ยวกับภาวะเส้นเลือดอุดตันในปอด การอุดตันของหลอดเลือดดำส่วนลึก หรือเหตุการณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งขอยืนยันว่า การตรวจสอบข้อมูลด้านความปลอดภัยทั้งหมดที่มีอยู่อย่างรอบคอบ รวมถึงเหตุการณ์เหล่านี้กำลังดำเนินอยู่ และแอสตร้าเซนเนก้ามุ่งมั่นที่จะแบ่งปันข้อมูลโดยไม่ชักช้า
เรียบเรียงและอ้างอิงข้อมูลจาก:
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage