ไม่ใช่แค่ร้องทุกข์ตำรวจ ปทส.! เปิดหนังสือกรมป่าไม้ ส่งเลขาฯ ปปง.สอบ ‘สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ’ คดีรุกป่า จ.ราชบุรี ถือครอง น.ส.2 -ภ.บ.ท.5 รวม 8 แปลง 440 ไร่ ดำเนินคดี ในความผิด กก. ทรัพยากรธรรมชาติฯ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
...............................
คดีครอบครอง น.ส.3 ก. จำนวน 60 ฉบับ เนื้อที่ 2,154-3-82 ไร่ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชีอ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นอกจากกรมป่าไม้โดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดี ขณะดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งหนังสือถึง อธิบดีกรมที่ดิน ขอให้พิจาราดำเนินการเพิกถอน น.ส. 3 ก. ทั้ง 60 ฉบับ ตามที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานแล้ว
(เรื่องเกี่ยวข้อง:หนังสือบิ๊กกรมป่าไม้ ชงเพิกถอน น.ส.3 ก. 2,154 ไร่ ‘สมพร’กับลูก)
การถือครองที่ดิน น.ส.2 จํานวน 7 แปลง เนื้อที่ 250-0-00 ไร่ และ ภ.บ.ท.5 จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 90 ไร่ รวมทั้งสิ้น 8 แปลงเนื้อที่ เนื้อที่ 440 ไร่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ท้องที่หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 14 ต.รางบัว และหมู่ที่ 3 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กรมป่าไม้ได้ส่งเรื่องให้ เลขาธิการคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินคดีในฐานกระทําความผิดเกี่ยวกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติหรือกระบวนการ แสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะเป็นการค้า ถือเป็นความผิด มูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (15)
ทั้งนี้ หนังสือฉบับลงวันที่ 28 ม.ค.2564 ที่กรมป่าไม้ส่งถึง เลขาธิการฯ ปปง. สรุปสาระสำคัญว่า
คณะเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบตรวจพบที่ดินแปลงดังกล่าว ตรวจพบมีการแสดงเอกสารสิทธิในที่ดิน จํานวน 8 แปลง ประกอบด้วย น.ส.2 จํานวน 7 แปลง เนื้อที่ 250-0-00 ไร่ และ ภ.บ.ท.5 จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 90 ไร่ ที่ดินทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี (พ.ศ. 2527) ซ้อนทับกับเขตปฏิรูปที่ดินของสํานักปฏิรูปที่ดิน (พ.ศ. 2554) และซ้อนทับกับเขตป่าไม้ถาวร “ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมายเลข 85 (พ.ศ. 2512)
จากการตรวจสอบพบว่า หลักฐานการมอบอํานาจให้นางอรสา เศรษฐปราโมทย์ นําชี้และมอบที่ดิน น.ส. 2 ให้จัดทําป่าชุมชน ตรวจสอบร่องรอยการทําประโยชน์พบการทําแปลงยูคาลิปตัส และหลักฐานการชําระภาษี บํารุงท้องที่จํานวน 3 ฉบับ ประจําปี 2553 - 2556 ปรากฏชื่อนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้ชําระภาษีบํารุงท้องที่ จึงสันนิษฐานได้ว่านางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ครอบครองที่ดิน น.ส. 2 และภ.บ.ท.5 จํานวน 8 แปลง เนื้อที่ 440 ไร่ ซึ่งการกระทําของนางพร จึงรุ่งเรืองกิจ กระทําผิดในฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทําการใดๆ อันเป็นการทําลายป่า หรือเข้ายึดถือครองครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น” ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2584 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี, ฐาน “ยึดถือครอบครองทําประโยชน์หรีออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทําไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทําการด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ” ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ประกบมาตรา 31, ฐาน “เข้าไปยึดถือครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสร้างหรือเผาป่า หรือทําด้วยประการใด ให้เป็นการทําลาย หรือทําให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้ามในราชกิจจานุเบกษา หรือทําสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในดิน” ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ ฐาน “ผู้ใด กระทําหรือละเว้นการกระทําด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทําลาย หรือทําให้สูญหาย หรือ เสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ หรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน” ตามพระราชบัญญัติส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มาตรา 97 และได้แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
คณะเจ้าหน้าที่ พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทําดังกล่าวข้างต้นเป็นการกระทําความผิดเกี่ยวกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติหรือกระบวนการ แสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะเป็นการค้า ถือเป็นความผิด มูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (15) จึงขอส่งเอกสารหลักฐานมาเพื่อพิจารณา ดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ และขอได้โปรดมอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ เอกสารหลักฐาน และข้อเท็จจริงในพื้นที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ได้มอบนายคม ศรีสวัสดิ์ ผู้อํานวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) เป็นผู้ประสาน (ดูเอกสาร)
ทั้งนี้ กรณีการถือครองที่ดิน น.ส.2 จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 350-0-0 ไร่ และที่ดิน ภ.บ.ท.5 เนื้อที่ 90 ไร่ รวม 8 แปลง 440 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี กรมป่าไม้แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563
เท่ากับกรณีถือครองที่ดิน 440 ไร่ ของนางสมพร ถูกกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ดำเนินคดีความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ2507 และ พระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ขณะเดียวกันยังถูก ปปง.ดำเนินคดีในความผิด มูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (15) อีกทางด้วย
เรื่องกี่ยวข้อง
บ.ไร่อ้อยมิตรผล ผู้ขาย น.ส. 3 ก. คดีรุกป่า จ.ราชบุรี ให้ ‘ธนาธร’ เป็นใคร?
หนังสือบิ๊กกรมป่าไม้ ชงเพิกถอน น.ส.3 ก. 2,154 ไร่ ‘สมพร’กับลูก
บันทึกถ้อยคำ ‘สมพร-ชนาพรรณ’ รู้ น.ส.3 ก. อยู่ในป่าสงวนฯ ก่อนซื้อที่ดิน จ.ราชบุรี
ดูชัดๆ น.ส.3 ก. 27 ไร่ ‘ชนาพรรณ’ พี่สาวธนาธร คดีรุกป่า 2,154 ไร่
คนยื่นรังวัดอยู่ จ.นครปฐม ! น.ส.3 ก. 38 ไร่ ‘สมพร’ คดีรุกป่า จ.ราชบุรี 2,154 ไร่
เปิด น.ส.3 ก. 38 ไร่ ‘สมพร’ คดีรุกป่า 2,154 ไร่ จ.ราชบุรี ซื้อจากคนใกล้ชิด 9 แปลงปี 2557
เผยโฉม น.ส.3 ก. ‘ธนาธร’ 43 ไร่ ฉบับคดีรุกป่า จ.ราชบุรี ซื้อจาก กก.เครือไทยซัมมิท
เปิด น.ส.3 ก. 81 ไร่‘ธนาธร’ได้ปี 2543 ก่อนโดนคดีรุกป่า จ.ราชบุรี 2,154 ไร่พร้อมแม่-พี่สาว
‘ธนาธร’ ปี 61 เสียภาษี 2.9 ล. -บัญชีทรัพย์สิน ไม่มีรายได้จากโอนหุ้น 14 บริษัทปี 62
‘ธนาธร’ เรือยอร์ช นาฬิกาเรือนละ 5 แสน -เมียมีครบ ตู้ไวน์ เครื่องเพชร กระเป๋าหรู 12 ใบ
โชว์ละเอียดสัญญาปล่อยกู้‘ธนาธร-อนค.’ 2 ครั้ง 191 ล.-คิดดอกเบี้ยไม่เท่ากัน?
ทรัพย์สิน‘ธนาธร’ 5.6 พันล.ปล่อยกู้อนาคตใหม่ 191 ล.-'คฑาเทพ'มีโคตรเหล็กไหล พันล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/