"...คลับเฮ้าส์เองก็ยังประสบปัญหาไม่แตกต่างจากโซเชียลมีเดียอื่นๆในประเด็นเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่ผ่านมาก็มีกรณีการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 กันอย่างแพร่หลายในแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์ โดยไม่ได้มีการตรวจสอบข้อมูลก่อน พร้อมทั้งมีการกล่าวถ้อยคำแนวบูลลี่กับทีมแพทย์ด้วยเช่นกัน เหตุการณ์การใช้ถ้อยคำรุนแรง การใช้ถ้อยคำเฮทสปีช (hate speech) หรือถ้อยคำปลุกเร้าความเกลียดชัง การใช้ถ้อยคำการเหยียดเพศ เหยียดเพศที่ 3 และเหยียดเชื้อชาตินั้นเป็นสิ่งที่ถูกรายงานอย่างกว้างขวางบนแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์..."
......................
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์ (Clubhouse) ถูกกล่าวถึงในสังคมไทยเป็นอย่างมาก
ผู้คนหลากหลายอาชีพหันมาสมัครและเปิดบัญชีบนแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์กันเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งกลุ่มนักการเมือง ที่เข้ามาใช้งาน คลับเฮ้าส์ เป็นช่องทางในการสื่อสารกับฐานมวลชนและแฟนคลับของตัวเอง
ขณะที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ออกมาประกาศว่ากำลังติดตามการใช้งานแอปพลิเคชันนี้อย่างใกล้ชิด และเตือนให้ระวังการใช้งานไม่ให้เป็นไปในทางผิดกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเทศที่สั่งห้ามการใช้ แอปพลิเคชันตัวนี้ไปแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์ (Clubhouse) จากเว็บไซต์สื่อต่างประเทศมานำเสนอ มีรายละเอียดดังนี้
@อะไรคือคลับเฮ้าส์ และทำไมมันถึงเป็นที่นิยม
แอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์ เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานบนระบบปฏิบัติการณ์ไอโอเอสเท่านั้น
มีที่ไปที่มาจากบริษัทสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์(ย่านแหล่งรวมธุรกิจไอทีระดับโลก ในเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา) ผู้ก่อตั้งคือนายพอล เดวิสัน และนายโรฮาน เซธ ในเดือน มี.ค. 2563 ในช่วงเดือน พ.ค.2563 มีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันนี้อยู่ที่ 1,500 บัญชี แต่มีมูลค่าแอปพลิเคชันคิดเป็นมูลค่านับร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้รับความสนใจจากเหล่าคนดังในหลายวงการต่างๆ ทำให้จำนวนผู้ใช้งานยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ก.พ. มีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์อยู่ที่ 2 ล้านบัญชี และมีมูลค่าทั้งสิ้นมากกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
จึงทำให้ ณ เวลานี้คลับเฮ้าส์ถือได้ว่าเป็นยูนิคอร์น (สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง สามารถประกอบธุรกิจจนได้ทุนเป็นจำนวนมาก) เช่นเดียวกับบริษัท Space X AirBnb และ Uber
โดยในโพสต์ล่าสุดของคลับเฮ้าส์นั้น ทีมผู้สร้างคลับเฮ้าส์ ได้อธิบายว่าต้องการที่จะสร้างประสบการณ์ทางสังคมที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้น ทำให้คลับเฮ้าส์ เป็นสถานที่ที่เราสามารถโพสต์ข้อความ รวมกลุ่มผู้คน และสามารถพูดคุยกันได้
สำหรับคุณลักษณะของคลับเฮ้าส์ เป็นแอปพลิเคชันด้านเครือข่ายทางสังคมหรือที่เรียกว่าโซเชียลมีเดีย โดยจะเน้นไปที่การสนทนาด้วยเสียงเป็นหลัก ซึ่งในแอปพลิเคชันนี้จะมีห้องแชตอยู่หลายห้องที่ถูกสร้างขึ้นโดยมีเนื้อหาแตกต่างกันออกไป โดยผู้ใช้งานแอปพลิเคชันนั้นเมื่ออยู่ในห้องจะสามารถทำได้ทั้งสนทนา สัมภาษณ์ และถกเถียงกับบุคคลอื่นๆในหลากหลายเรื่องราว หรือสรุปก็คือว่าคล้ายกับการหาโหลดพอดแคสต์ (ไฟล์เสียงดิจิทัลบนโลกอินเตอร์เนท) แต่จะเป็นแบบสด และมีความพิเศษกว่านั่นเอง
ทั้งนี้ แอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์เป็นแอปพลิเคชันที่เราจะต้องได้รับเชิญก่อนถึงจะเข้าไปใช้งานได้ เราไม่สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้วใช้งานได้โดยทันที หรือก็คือแอปพลิเคชันนี้มีลักษณะคล้ายคลับส่วนตัวที่อยู่บนเรือยอชต์นั่นเอง โดยเมื่อเราได้รับเชิญและเข้าร่วมแล้ว เราจะสามารถเลือกหัวข้อที่สนใจได้ เช่นเทคโนโลยี หนังสือ ธุรกิจ หรือสุขภาพ ซึ่งถ้าหากเรากรอกข้อมูลในส่วนนี้ให้กับทางแอปพลิเคชันมากเท่าไร ก็จะมีห้องสนทนาที่แอปพลิเคชันแนะนำปรากฏให้เรามากขึ้นเท่านั้น
สำหรับรายละเอียดในห้องแชตแต่ละห้อง จะมีรูปแบบคล้ายเวลาเราโทรศัพท์ประชุมทางไกลกัน แต่ว่าจะมีแค่บางคนที่ได้พูด ขณะที่ส่วนมากจะเป็นผู้ฟัง แต่ถ้าหากผู้ที่เป็นเจ้าของห้องแชตนั้นอนุญาต ผู้ที่เข้าห้องนั้นในฐานะผู้ฟัง ก็จะกลายมาเป็นผู้พูด ตลอดระยะเวลาของห้องแชทนั้น และก็เหมือนกับการพูดคุยทางโทรศัพท์ โดยเมื่อการสนทนาได้จบลงไป ห้องนั้นก็จะถูกปิดตัวลง และการสนทนาในห้องก็จะหายไปด้วยเช่นกัน
แต่ถึงกระนั้น ผู้ใช้งานสามารถจะอัดบันทึกการสนทนาสดได้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในห้องแชตที่ว่านั้น
ตัวอย่างห้องแชตรูมในคลับเฮ้าส์ (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.businessinsider.com/what-is-clubhouse-app)
มีข้อมูลยืนยันว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์เป็นที่นิยม มาจากเหตุการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสในปี 2563 ที่ทำให้งานประชุม งานอีเวนท์หลายแห่งต้องยกเลิก ดังนั้น จึงมีการใช้งานพบปะกันบนแอปพลิเคชันมากขึ้นนั่นเอง
และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้แอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์กลายเป็นที่สนใจไปทั่วโลกในช่วงสัปดาห์นี้ ก็มาจากการที่นายอีลอน มัสก์ ผู้บริหารบริษัท Space X ได้มีการสนทนากับนายวลาด เทเนฟ ผู้บริหารบริษัท Robinhood ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ห้องสนทนาของนายมัสก์เต็มไปด้วยผู้เข้าฟังอย่างรวดเร็ว (จำกัดห้องสนทนาอยู่ที่ 5,000 คน) และการสนทนาดังกล่าวยังมีการไลฟ์ลงเว็บไซต์ Youtube ด้วยเช่นกัน
นายอีลอน มัสก์ ผู้บริหารบริษัท Space X ได้มีการสนทนากับนายวลาด เทเนฟ ผู้บริหารบริษัท Robinhood (อ้างอิงวิดีโอจาก Tesla Owners Online)
@เราจะได้รับเชิญจากคลับเฮ้าส์ได้อย่างไร
ตามที่ระบไปแล้วว่า การเข้าร่วมคลับเฮ้าส์ ผู้ใช้งานคลับเฮ้าส์คนก่อนหน้าจะต้องส่งคำเชิญของทางแอปพลิเคชันมาให้กับเราก่อน เราถึงจะสามารถตั้งบัญชีคลับเฮ้าส์ได้ และถ้าเราได้รับเชิญแล้ว เราจะเห็นข้อความลิงก์ปรากฎบนโทรศัพท์ของเราในกล่องข้อความ ซึ่งเมื่อกดลิงก์ก็จะพาเราไปยังหน้าลงทะเบียนของแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์
ถึงกระนั้น ผู้ใช้งานคลับเฮ้าส์ไม่ใช่ว่าจะส่งข้อความไปยังใครที่อยากจะร่วมก็ได้
โดยในช่วงเริ่มต้นนั้น ผู้ใช้งานจะมีสิทธิ์ส่งคำเชิญไปให้กับบุคคลอื่นแค่ 2 คำเชิญเท่านั้น
ล่าสุดบนเว็บไซต์อีเบย์ได้เคยมีการเปิดขายบัตรรับเชิญคลับเฮ้าส์อยู่ที่ราคา 83 ดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ 2,492 บาท
บัตรรับเชิญคลับเฮ้าส์บนเว็บไซต์อีเบย์
อนึ่ง ในการโพสต์ล่าสุดบนบล็อก ทีมผู้สร้างคลับเฮ้าส์ได้ประกาศด้วยว่าพวกเขาได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าในปี 2564 จะพัฒนาแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์ให้เสร็จจากขั้นเบต้าหรือขั้นทดลองใช้งาน และหวังว่าจะเปิดคลับเฮ้าส์ที่ว่านี้ให้กับทั่วโลกได้ใช้งานกัน
@ทำไมคลับเฮ้าส์ถึงได้รับความนิยมในประเทศจีน
ณ เวลานี้ แม้จะมีการเซ็นเซอร์เนื้อหาบนโลกออนไลน์อย่างเข้มข้นโดยรัฐบาล แต่แอปพลิเคชันคลับเฮาส์ก็ยังคงสามารถจะเล็ดลอดเข้าไปผ่านระบบไฟร์วอลต่างๆของประเทศจีนได้หลายเดือน ซึ่งแตกต่างจากโซเชียลมีเดียอื่นๆ อาทิ อินสตราแกรม และเฟซบุ๊ก
โดยแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์นี่เป็นที่นิยมในประเทศจีนในเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เพราะสามารถดึงดูดผู้ใช้งานชาวจีน มอบโอกาสในการแสดงความเห็นอย่างอิสระ ซึ่งหาได้ไม่ยากนักในประเทศจีน และเปิดโอกาสให้มีพื้นที่ได้สนทนาในหัวข้อที่หลากหลาย ที่มักถูกปิดกั้นจากรัฐบาลกรุงปักกิ่ง
โดยหัวข้อที่ว่านี้ก็มีทั้งประเด็นเรื่องซินเจียงและไต้หวัน
ขณะที่ สำนักข่าวควอตซ์ของประเทศอังกฤษได้รายงานว่าผู้ใช้งานชาวจีน ซึ่งส่วนมากเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆก็มักจะใช้แอปพลิเคชันนี้พูดถึงหัวข้อของตัวเองที่มักจะแอปพลิเคชันที่ว่านี้พูดถึงเนื้อหาที่ถูกแบนในประเทศจีน เช่นเรื่องประชาธิปไตยเป็นต้น
ขณะที่บริษัทอีคอมเมิร์สในประเทศจีนก็เริ่มเปิดโอกาสให้มีการซื้อขายคำเชื้อเชิญจากผู้ใช้งานคลับเฮ้าส์แล้ว อาทิ เว็บไซต์เซี่ยนหยูและและเถาเป่าก็มีการขายคำเชิญคลับเฮ้าส์ที่มีราคาอยู่ที่ 150-400 หยวน (690 บาท- 1,857 บาท)
@ข้อเสียที่ตามมาจากแอปพลิเคชันนี้คืออะไร
ที่หน้าเพจลงทะเบียนบัญชีของคลับเฮ้าส์นั้นจะแนะนำให้เราอนุมัติให้สิทธิ์กับการที่แอปพลิเคชันจะสามารถเข้าถึงบัญชีรายชื่อผู้ติดต่อของเราได้ เพื่อที่จะทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานแอปพลิเคชันรายอื่นๆได้โดยง่าย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าคลับเฮ้าส์กำลังใช้ข้อมูลรายการติดต่อที่ปรากฎเพื่อจะสร้างโปรไฟล์สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกใช้งานคลับเฮ้าส์
จึงทำให้ ทางเหล่าบรรดาผู้นำของประเทศในสหภาพยุโรปหรืออียูได้ตั้งคำถามว่ามันจะเป็นการละเมิดนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของแต่ละประเทศหรือไม่
โดย เมื่อช่วงวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ประเทศจีนก็ได้แบนคลับเฮ้าส์ไปแล้ว หลังจากที่มีผู้ใช้งานชาวจีนบางรายได้ถกหารือประเด็นการเมืองกันในคลับเฮ้าส์
ข่าวการแบนคลับเฮ้าส์ของทางการประเทศจีน (อ้างอิงวิดีโอจาก CBC News)
ส่วนทางด้านรัฐบาลอินโดนีเซียก็อาจจะมีการแบนคลับเฮ้าส์เช่นกัน
โดยให้เหตุผลว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของอินโดนีเซีย ซึ่งมีกฎบังคับให้ทุกแพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียในเทคโนโลยีรูปแบบใดก็ตาม ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic System Operator - PSE) ตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงฉบับที่ 5/2020 ที่ระบุว่า ผู้ให้บริการดิจิทัลต้องยื่นเรื่องต่อกระทรวงก่อนที่จะเริ่มดำเนินการในประเทศ
ปัญหาประการถัดมาก็คือการที่คลับเฮ้าส์ระบุว่าแนวทางว่าไม่สามารถแบ่งปันข้อมูลเสียงในแอปพลิเคชันเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ทางด้านการสอบสวนสืบสวนเพียงอย่างเดียวได้นั่นเอง โดยคลับเฮ้าส์จะบันทึกเสียงได้เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นและจะลบไฟล์เสียงที่ว่าลงไม่นานหลังจากที่ห้องแชตนั้นสิ้นสุดลง แต่ถึงกระนั้น เสียงที่มีการพูดคุยกันบนแอปพลิเคชันคลับเฮาส์ก็ถูกปล่อยรั่วจากผู้ใช้งานไปยังโซเชียลมีเดียอื่นๆได้อยู่ดี
และคลับเฮ้าส์เองก็ยังประสบปัญหาไม่แตกต่างจากโซเชียลมีเดียอื่นๆในประเด็นเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ
ที่ผ่านมาก็มีกรณีการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 กันอย่างแพร่หลายในแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์ โดยไม่ได้มีการตรวจสอบข้อมูลก่อน พร้อมทั้งมีการกล่าวถ้อยคำแนวบูลลี่กับทีมแพทย์ด้วยเช่นกัน
เหตุการณ์การใช้ถ้อยคำรุนแรง การใช้ถ้อยคำเฮทสปีช (hate speech) หรือถ้อยคำปลุกเร้าความเกลียดชัง การใช้ถ้อยคำการเหยียดเพศ เหยียดเพศที่ 3 และเหยียดเชื้อชาตินั้นเป็นสิ่งที่ถูกรายงานอย่างกว้างขวางบนแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์
นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่ามีห้องแชตบางห้องมีการทำร้ายร่างกายเพื่อสร้างเนื้อหาทางเพศ ขณะที่ผู้สื่อข่าวเองก็ถูกบล็อกจากห้องแชตบางห้องที่มีผู้พูดเป็นบุคคลระดับสูงด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างกรณีที่นายอีลอน มัสก์ได้เปิดห้องแชตเพื่อพูดคุยกันายมาร์ค อันเดรสเซ่น ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทร่วมทุน อันเดรสเซน โฮโรวิทซ์ ก็ได้กีดกันผู้สื่อข่าวไม่ให้เข้าร่วมห้องแชตนี้เช่นกัน
ดังนั้น ปัญหาหลักๆของคลับเฮ้าส์ที่เป็นประเด็นกันอยู่ในขณะนี้ ก็คือในเรื่องการทำงานของผู้ที่ดูแลห้องแชต ซึ่งใครก็ตามที่สร้างห้องแชตจะได้รับบทเป็นผู้ดูแล และสามารถจะกำหนดผู้ดูแลคนอื่นๆที่จะมีอำนาจในการเอาผู้พูดในห้องแชตออกไปได้ ซึ่งผู้ดูแลที่ถูกแต่งตั้งเองที่ว่านี้ก็กลายเป็นผู้ร่วมกันแก้ปัญหาในกรณีคำพูดเฮทสปีช (hate speech) หรือ ข้อมูลเท็จ
แต่ถึงกระนั้น ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการที่เหมาะสมในการตรวจสอบเนื้อหาบนแอปพลิเคชันมาก่อนเลย
เรียบเรียงจาก:https://www.theguardian.com/technology/2021/feb/17/clubhouse-app-invite-what-is-it-how-to-get-audio-chat-elon-musk,https://www.insidehook.com/article/internet/what-is-clubhouse
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage