“...ผมไม่ยอมให้รีบร้อนฉีดวัคซีนที่ยังทดสอบไม่ครบถ้วน และไม่ยอมเป็นประเทศทดลอง” เป็นคำยืนยันจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับผลข้างเคียง และอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทีเกิดขึ้นกับบางประเทศ..."
..................................
“ผมไม่ยอมให้รีบร้อนฉีดวัคซีนที่ยังทดสอบไม่ครบถ้วน และไม่ยอมเป็นประเทศทดลอง” เป็นคำยืนยันจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับผลข้างเคียง และอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทีเกิดขึ้นกับบางประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผลข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น ต้องรอฟังผลสรุปจากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน จึงจะรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ หรืออาจเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น โรคประจำตัวบางอย่าง สภาพร่างกาย หรืออายุ รวมทั้งอัตราผลข้างเคียงนั้นอยู่ในระดับที่ยอมรับได้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การตัดสินใจใช้วัคซีนของไทย จะต้องผ่านการบริหารจัดการแบบครบวงจร จะมีคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติคอยให้คำปรึกษาและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
คำยืนยันดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังจากที่มีรายงานว่า การทดลองวัคซีนที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท ไฟเซอร์ และ ไบโอเท็ค ส่งผลให้ประเทศนอร์เวย์มีผู้เสียชีวิตแล้ว 29 ราย ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร้ายแรงอยู่แล้ว
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป รักษาการตำแหน่งรองอธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าว เป็นวัคซีนคนละตัวกับ วัคซีน ของบริษัทแอสตราเซนเนก้า และบริษัทวัคซีนซิโนแวคของประเทศจีน ที่ประเทศไทยได้สั่งจองไป จึงขอให้ประชาชนสบายใจ
อย่างไรก็ตามผลการชันสูตรผู้เสียชีวิตทั้ง 13 ราย ก็ยังไม่มีการสรุปสาเหตุที่แท้จริง อีกทั้งผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่ในเนอร์สซิ่งโฮมที่มีผู้เสียชีวิตเป็นปกติประมาณหลายร้อยคนอยู่แล้ว จึงขอให้ประชาชนรอการสรุปรายละเอียดการเสียชีวิตที่แท้จริงที่จะออกมาในเร็วๆนี้
ซึ่งจากการรายงานของเจ้าหน้าที่ประเทศนอร์เวย์ พบว่าผลข้างเคียงของการรับวัคซีน จะมีตั้งแต่ปวดบริเวณที่ฉีด คลื่นไส้ บวมร้อน หรืออาเจียน แต่ในกรณีที่แพ้อย่างรุนแรงอาจจะเกิดจากการช็อคหลังรับวัคซีน ซึ่งพบเป็นส่วนน้อยเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ประเทศนอร์เวย์ให้ความเห็นว่าการฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทโมเดอร์นา นั้นถือว่ายังมีความเสี่ยงน้อย
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การฉีดวัคซีนโควิด จะผลกระทบหรือผลข้างเคียง โดย สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ประมวลผลภาพรวมของผลค้างเคียงจากวัคซีนในหลายๆ ประเทศ มีรายละเอียดดังนี้
วัคซีนไฟเซอร์
@วัคซีนไฟเซอร์โดสแรก คร่า 29 ชีวิตในนอร์เวย์ มี 13 คน เป็นคนไข้บ้านพักคนชรา
เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2564 เว็บไซต์ Bloomberg รายงานอ้างเจ้าหน้าที่นอร์เวย์ พบผู้เสียชีวิต 29 ราย หลังรับการฉีดวัคซีนของบริษัทไซเฟอร์และไบโอเทคโดสแรกจำนวน 42,000 ราย
จากการชันสูตรร่างผู้เสียชีวิตเบื้องต้นแล้ว 13 ราย พบว่าเป็นผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาสุขภาพร้ายแรง อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนส่วนใหญ่ จะเผชิญกับผลข้างเคียง เช่น มีไข้ วิงเวียนศีรษะ อาเจียน และมีอาการผิดปกติบริเวณจุดฉีด ขณะที่ผู้มีโรคประจำตัวพบว่ามีอาการรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ รายงานความปลอดภัยของวัคซีนบริษัทไฟเซอร์และไบโอเทค จะมีกำหนดเผยแพร่ในปลายเดือน ม.ค.2564
@เยอรมันพบเสียชีวิต 10 ราย อายุ 79-93 ปี
เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2564 ทางการเยอรมันรายงานว่าหลังจากภาครัฐมีนโยบายเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้วกว่า 8 ล้านคน พบว่ามีผู้สูงอายุตั้งแต่ 79-93 ปี เสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบโอเทค จำนวน 10 ราย โดยพบว่าจะเสียชีวิตหลังจารับวัคซีนผ่านไป 1 ชั่วโมง ถึง 4 วัน ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นมีโรคประจำตัวด้วย นอกจากนั้นยังพบผู้แพ้อย่างรุนแรง 57 ราย และแพ้ปกติอีก 325 ราย ซึ่งสถิติดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับสหรัฐอเมริกา
@อังกฤษเตือน ห้ามฉีดวัคซีนไซเฟอร์กับผู้มีประวัติแพ้รุนแรง
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2564 หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานว่า ผู้กำกับยาอังกฤษออกมาเตือนไม่ให้สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้ขั้นรุนแรงต่อวัคซีน ยา หรืออาหาร หลังจากพบเจ้าหน้าที่การแพทย์สำนักงานประกันสุขภาพ (NHS) 2 ราย มีอาการช็อคและแพ้รุนแรงต่อวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ เพื่อป้องกันผลค้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงต่อประชาชน
@อเมริกาพบ 21 คนแพ้รุนแรง-มีผลข้างเคียง 4 พันคนจากผู้รับวัคซีน 1.8 ล้านคน
เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2564 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) พบผู้เข้ารับวัคซีนจากบริษัทไซเฟอร์และไบโอเทค จำนวน 4,393 ราย จากผู้เข้ารับวัคซีนทั้งหมด 1,893,360 คน มีผู้ได้รับผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ จำนวน 21 ราย พบมีอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน ซึ่งมีอันตรายต่อชีวิต แต่สามารถควบคุมได้ด้วยการฉีดอะดรีนาลีนเข้ากล้ามเนื้อ ทั้งนี้ไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิต
วัคซีนโควิชีลด์ และวัคซีนโควาซิน
@อินเดีย พบแพ้รุนแรง 1 ราย แต่ส่วนใหญ่แทบไม่พบผลข้างเคียง
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2564 เว็บไซต์ AA.com.tr รายงานอ้างว่า หลังจากประชาชนชาวอินเดียจำนวน 191,100 ราย ได้รับวัคซีนโดสแรกจากวัคซีนโควิชีลด์ (Covishield) ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและวัคซีนโควาซิน (Covaxin) ของบริษัทภารัจ ไบโอเทค ร่วมกับสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย พบบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 52 ราย ส่วนใหญ่แสดงอาการผลค้างเคียงเล็กน้อย เช่น มีอาการปวดบริเวณที่ฉีด ปวดตามร่างกาย และแน่นหน้าอก แต่มี 1 รายเกิดอาการแพ้รุนแรง ซึ่งตอนนี้ได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เรียบร้อยแล้ว
สำหรับผลข้างเคียงการรับวัคซีนจากบริษัทโมเดอร์นา, บริษัทซิโนแวค, บริษัทแคนไซโน, บริษัทสปุตนิก 5, บริษัทไซโนฟาร์ม และบริษัทแอสตร้าเซนเนก้านั้น ยังไม่มีผลลัพธ์อย่างเป็นทางการจากประเทศที่ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดต่อไป
ก่อนหน้านี้ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ กล่าวว่า การจะผลิตวัคซีนเพื่อใช้ในภาวะปกติจะต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปีในการศึกษาและทดสอบให้ได้มีประสิทธิภาพ 99% แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันเราใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้นในการดำเนินการ ซึ่งผลการทดสอบประสิทธิที่ภาพที่ออกมานั้น แม้จะยังเป็น 'การศึกษาที่ยังไม่สิ้นสุด' หรือเป็นการศึกษาเบื้องต้น แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาเบื้องต้น พบว่าเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย ก็สามารถนำมาใช้ได้เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโควิดได้ ขอให้บางครั้งเราอย่าไปยึดติดอยู่กับตัวเลข แต่ให้ยึดติดกับความจริง โดยให้พิจารณาจากปัจจัยรอบด้านก่อนเสมอ
(หมายเหตุ : ภาพวัคซีนจาก freepik.com)
เรียบเรียงจาก:
https://www.aa.com.tr/en/asia-pacific/new-delhi-52-cases-of-covid-19-vaccine-side-effects/2112642
https://www.xinhuathai.com/high/166866_20210107
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage