"...ภายหลังจากเกิดเหตุสึนามิประมาณ 5 วัน นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ ได้สั่งการให้ตนเอง พร้อมด้วยพวกอีก 2 ราย ไปชักลากเรือยนต์ตรวจการณ์ที่เกยตื้นอยู่ที่หน่วยพิทักษ์เกาะตาชัย เมื่อพวกตนไปถึง พบบุคคลอีกประมาณ 3-4 คน อยู่ที่นั้น จึงได้ช่วยกันชักลากเรือยนต์ตรวจการณ์ที่เกยตื้นอยู่ ซึ่งสภาพของเรือไม่มีเครื่องยนต์และโครงหลังคา มายังท่าเทียบเรือบ้านทับละมุ พร้อมให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกรณีเรือสูญหายต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคุระบุรี เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2548 เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเรือดังกล่าว ได้สูญหายไปเนื่องจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ หลังจากนั้น นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ ได้สั่งการให้ชักลากเรือต่อมาที่ท่าดินแดง และมีการชักลากเรือต่อไปยังบ้านของบุคคลคนหนึ่งต่อ..."
..............................
พิพากษาให้จำคุก 6 ปี!
คือ ผลคำพิพากษาตัดสินคดีของ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 จังหวัดนครรีธรรมราช ระหว่าง พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 8 เป็นโจทก์ นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ในฐานะอดีตหัวหน้าอุทยานสิมิลัน อ.คุระบุรี จ.พังงา เป็นจำเลย ในข้อกล่าวหาทุจริตและประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ในการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน กรณีเรือของทางราชการสูญหาย แต่ถูกนำไปแปลงสภาพเพื่อนำไปใช้งานส่วนตัว
ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว
(อ่านประกอบ : ศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 8 จำคุก 6 ปี รองอธิบดี ทช.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ-ยื่น 6 แสนประกันตัว )
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้ พบว่า มีจุดเริ่มต้นอยู่ในช่วงก่อนเกิดเหตุภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 ซึ่งเป็นช่วงที่ นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าอุทยานสิมิลัน อ.คุระบุรี จ.พังงา (ข้าราชการระดับซี 7) มีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมและกำกับดูแลการเบิกจ่ายพัสดุครุภัณฑ์ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันให้เป็นไปตามกฎหมาย
มีหน้าที่จัดการดูแลรักษาเรือยนต์ตรวจการณ์ ชนิดเรือไฟเบอร์กลาส ขนาดความยาว 25 ฟุตพร้อมเครื่องยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า ขนาด 200 แรงม้า หมายเลขเครื่อง 200 AET 6G6 X100 1816Q และเรือยนต์ตรวจการณ์ชนิดเรือไฟเบอร์กลาส ขนาดความยาว 25 ฟุต พร้อมเครื่องยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า ขนาด 200 แรงม้า หมายเลขเครื่อง 200 AET 6G6 X100 1818Q
โดยก่อนเกิดเหตุภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ เรือยนต์ตรวจการณ์ลำหมายเลขเครื่อง 200 AET 6G6 X100 1818Q ได้ใช้ในราชการของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาสิมิลัน ประจำหน่วยพิทักษ์เกาะตาชัย
แต่ภายหลังเกิดเหตุคลื่นสึนามิ เรือยนต์ตรวจการณ์ลำที่ใช้ประจำที่หน่วยพิทักษ์เกาะตาชัยถูกคลื่นซัดเกยตื้น
ขณะที่นาย น.(ชื่อย่อ) ยืนยันว่า ภายหลังจากเกิดเหตุสึนามิประมาณ 5 วัน นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ ได้สั่งการให้ตนเอง พร้อมด้วยพวกอีก 2 ราย ไปชักลากเรือยนต์ตรวจการณ์ที่เกยตื้นอยู่ที่หน่วยพิทักษ์เกาะตาชัย
เมื่อพวกตนไปถึง พบบุคคลอีกประมาณ 3-4 คน อยู่ที่นั้น จึงได้ช่วยกันชักลากเรือยนต์ตรวจการณ์ที่เกยตื้นอยู่ ซึ่งสภาพของเรือไม่มีเครื่องยนต์และโครงหลังคา มายังท่าเทียบเรือบ้านทับละมุ พร้อมให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกรณีเรือสูญหายต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคุระบุรี เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2548 เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเรือดังกล่าว ได้สูญหายไปเนื่องจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ
หลังจากนั้น นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ ได้สั่งการให้ชักลากเรือต่อมาที่ท่าดินแดง และมีการชักลากเรือต่อไปยังบ้านของบุคคลคนหนึ่งต่อ
เบื้องต้น ในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้มีการดำเนินการกู้เรือยนต์ตรวจการณ์หรือสั่งให้ไปดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรือยนต์ตรวจการณ์
แต่จากการสอบปากคำพยานและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ชี้ให้เห็นว่า นายวิทยา น่าจะเป็นผู้สั่งการและทราบข้อเท็จจริง ในกรณีที่ผู้ใต้บังคับบัญชาไปทำการกู้เรือมาโดยตลอด มีเจตนาที่จะเบียดบังเอาเรือยนต์ลำตรวจการณ์ที่ใช้ประจำอยู่ที่เกาะตาชัยไปเป็นประโยชน์ของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต
ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ให้ข้อมูลยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า เกี่ยวกับคดีนี้สำนักงาน ป.ป.ท. เขต 8 เป็นผู้จัดทำสำนวนคดีและเป็นผู้เร่งรัดประสานอัยการให้สามารถยื่นฟ้องคดีได้ก่อนหมดอายุความ 3 วัน เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เขต 8 ต้องไปร่วมกับพนักงานอัยการเพื่อร่างคำฟ้องด้วย
"เรื่องนี้อยากชี้ให้สังคมเห็นว่า การทุจริตเกิดขึ้นตอนเป็น ซี7 แต่มาถูกลงโทษตอนเป็นรองอธิบดี จึงอยากให้ข้าราชการดูไว้ว่า ทุจริตวันนี้ ติดตัวไปอาจจะไปมีผลตอนตำแหน่งสูงได้ ผู้ที่คิดจะทำทุจริตควรพึงสังวรเอาไว้ " แหล่งข่าวจากป.ป.ท.ระบุ
อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
บทสรุปสุดท้ายคดีนี้จะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามดูกันต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage