“...พฤติการณ์กรณีนี้ สำนักงาน พศ. จัดสรรงบประมาณอุดหนุนเพื่อใช้ในโครงการดังกล่าว หลังจากนั้นมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณฯ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงาน พศ. เป็นที่ปรึกษา และมีรองผู้อำนวยการสำนักงาน พศ. เป็นประธานกรรมการ หลังจากจะมีกลุ่มบุคคลติดต่อไปยังวัดต่าง ๆ ว่าจะมีการจัดสรรเงินอุดหนุนให้ แต่มีเงื่อนไขว่าวัดจะต้องคืนเงินส่วนหนึ่งแก่สำนักงาน พศ. ต่อมามีการดำเนินการตามขั้นตอนธุรการเพื่อขออนุมัติการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวให้ และโอนจ่ายเงินให้แก่วัดดังกล่าวที่ตกลง หลังจากนั้นวัดจะต้องคืนเงินให้แก่กลุ่มบุคคลที่ติดต่อไป เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต…”
.................................
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานเบื้องหลังคดี ‘เงินทอนวัด’ ตามมาตรการป้องกันการทุจริตเงินอุดหนุนวัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ที่จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมในการไต่สวนของ ป.ป.ช. รวมถึงวงเงินงบประมาณในช่วงปี 2555-2558 ที่เกิดเหตุการณ์ทุจริตมากที่สุดไปแล้ว (อ่านประกอบ : ผ่าขุมทรัพย์ 1.7 หมื่นล.! ‘งบอุดหนุน’สำนักพุทธฯปี 55-58 ก่อนทุจริตฉาวคดีเงินทอนวัด?)
คราวนี้มาดูในส่วนของ ‘พฤติการณ์’ ในการทุจริตกันบ้างว่าทำกันอย่างไร?
ตามข้อมูลในมาตรการป้องกันการทุจริตคดีเงินทอนวัดของสำนักงาน ป.ป.ช. แบ่งพฤติการณ์การทุจริตออกเป็น 3 รูปแบบ สรุปได้ ดังนี้
หนึ่ง กรณีงบประมาณเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์และการพัฒนาวัด
พฤติการณ์กรณีนี้มีการวางแผนและแบ่งหน้าที่กันกระทำความผิดเป็นขั้นตอน โดยจะมีกลุ่มบุคคลทำหน้าที่ติดต่อวัดต่าง ๆ โดยแจ้งว่าจะมอบเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดและการพัฒนาวัดให้แก่วัด แต่มีเงื่อนไขว่าวัดจะต้องมอบเงินกลับคืนเพื่อนำไปใช้ในกิจการของสำนักงาน พศ. ในการจัดสรรให้แก่วัดต่าง ๆ
ต่อมากลุ่มบุคคลดังกล่าวจะนำรายชื่อวัดที่เชื่อตามคำกล่าวอ้าง ไปจัดทำเอกสารการอนุมัติเงินอุดหนุนให้แก่วัด โดยไม่มีคำขอรับเงินอุดหนุนของวัดประกอบการพิจารณาอนุมัติเงินอุดหนุนให้แก่วัดตามขั้นตอน และระเบียบแบบแผนของราชการ เมื่อสำนักงาน พศ. ได้โอนเงินอุดหนุนเข้าบัญชีเงินฝากของวัดแล้ว กลุ่มบุคคลดังกล่าวจะแจ้งให้วัดโอนเงินหรือรับเงินคืนกลับมาแล้วนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต
สอง กรณีงบประมาณเงินอุดหนุนการส่งเสริมเผยแผ่พระพุทธศาสนา
พฤติการณ์กรณีนี้ สำนักงาน พศ. จัดสรรงบประมาณอุดหนุนเพื่อใช้ในโครงการดังกล่าว หลังจากนั้นมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณฯ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงาน พศ. เป็นที่ปรึกษา และมีรองผู้อำนวยการสำนักงาน พศ. เป็นประธานกรรมการ หลังจากจะมีกลุ่มบุคคลติดต่อไปยังวัดต่าง ๆ ว่าจะมีการจัดสรรเงินอุดหนุนให้ แต่มีเงื่อนไขว่าวัดจะต้องคืนเงินส่วนหนึ่งแก่สำนักงาน พศ. ต่อมามีการดำเนินการตามขั้นตอนธุรการเพื่อขออนุมัติการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวให้ และโอนจ่ายเงินให้แก่วัดดังกล่าวที่ตกลง หลังจากนั้นวัดจะต้องคืนเงินให้แก่กลุ่มบุคคลที่ติดต่อไป เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต
สาม กรณีงบประมาณเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม
พฤติการณ์กรณีนี้ สำนักงาน พศ. จะอนุมัติเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าว ให้กับวัดต่าง ๆ โดยมีบางวัดที่ไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมได้ด้วย โดยตามปกติวัดที่ได้รับเงินดังกล่าวจะต้องมีการคืนเงินแก่สำนักงาน พศ. แต่มีบางวัดไม่คืนเงิน แต่นำเงินไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น หรือนำไปฝากประจำเพื่อรับอัตราดอกเบี้ย
หรือบางกรณีวัดบางแห่งมีการแจ้งข้อมูลกับสำนักงาน พศ. เป็นเท็จ เช่น การแจ้งจำนวนนักเรียนน้อยกว่าความเป็นจริง และได้รับเงินงบประมาณส่วนเกิน เพื่อนำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น เป็นต้น
โดยกรณีนี้สำนักงาน พศ. มีหนังสือเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2560 แจ้งให้ทำการตรวจสอบรับรองข้อมูลสถิติพื้นฐานและข้อมูลรายบุคคล (e-Citizen) ของโรงเรียน และรับรองข้อมูลตามแบบรายงานสถิติ จัดส่งให้กองพุทธศาสนศึกษา สำนักงาน พศ. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบนักเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
ทั้งหมดคือ 3 พฤติการณ์ในการทุจริตเงินทอนวัดโดยสังเขป ตามการศึกษาของสำนักงาน ป.ป.ช. จนนำไปสู่มาตรการป้องกันการทุจริต ‘เงินทอนวัด’ จำนวน 5 ข้อ ที่ส่งให้คณะรัฐมนตรีรับทราบไปเมื่อปลายเดือน ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา (อ่านประกอบ : ครม.รับทราบข้อเสนอ ป.ป.ช.วาง 5 แนวทางป้องกันทุจริตเงินทอนวัด)
ส่วนจะช่วยแก้ไขปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน คงต้องติดตามผลกันต่อไป!
หมายเหตุ : ภาพประกอบพระสงฆ์จาก https://www.infoquest.co.th/
อ่านประกอบ :
ผ่าขุมทรัพย์ 1.7 หมื่นล.! ‘งบอุดหนุน’สำนักพุทธฯปี 55-58 ก่อนทุจริตฉาวคดีเงินทอนวัด?
ก่อนชง ครม.แก้! ฉากหลังคดีเงินทอนวัดฉบับ ป.ป.ช.‘ใจกลางปัญหา’อยู่ที่ ผอ.สำนักพุทธฯ
ครม.รับทราบข้อเสนอ ป.ป.ช.วาง 5 แนวทางป้องกันทุจริตเงินทอนวัด
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/