ภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ทรงพระดำเนิน เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯเนื่องแน่นอย่างใกล้ชิด เมื่อค่ำวันที่ 1 พฤศจิกายน หลังจากทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝน เป็นเครื่องทรงฤดูหนาวถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง ปรากฏเป็นข่าวไปทั่วโลกผ่านสื่อต่างประเทศที่เฝ้าติดตามสถานการณ์การเมืองในเมืองไทยอยู่ในขณะนี้
---------------------
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : กรณีที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงจากฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาวถวายแด่พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จสิ้น จากนั้นทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จฯอย่างใกล้ชิด ตลอดเส้นทาง ในการนี้ยังพระราชทานสัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 ของอังกฤษ โดยมีผู้สัมภาษณ์คือนายโจนาธาน มิลเลอร์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 4
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รวบรวมข้อมูลจากสื่อต่างประเทศหลายแห่งที่รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวโดย สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ในช่วงเวลาที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย และมีการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าฯเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตรัสเรียกประเทศไทยว่า “เป็นดินแดนแห่งการประนีประนอม”(Thailand is the land of compromise) ซึ่งนี่อาจะเป็นทางออกไปสู่การแกไขปัญหาทางตันทางการเมืองของประเทศที่กินเวลานานนับเดือน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประเทศไทยได้ทรงพระราชทานสัมภาษณ์เป็นครั้งแรกถึงการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนประชาธิปไตยที่ดำเนินมาเป็นระยะเวลานานถึง 4 เดือน กับซีเอ็นเอ็นและสถานีโทรทัศน์ข่าวช่อง 4 ของอังกฤษที่พระบรมมหาราชวังเมื่อช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
เมื่อผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นกราบบังคมทูลถามเกี่ยวกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าฯเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตรัสว่า ไม่มีความเห็น ก่อนที่จะตรัสเพิ่มเติมว่า “เรารักทุกคนเหมือนกันหมด” เป็นจำนวน 3 ครั้ง
และเมื่อกราบบังคมทูลถามต่อว่า มีพื้นที่สำหรับการประนีประนอมกับผู้ชุมนุมหรือไม่โดยเฉพาะในประเด็นที่ผู้ชุมนุมได้เรียกร้องให้มีการลดพระราชอำนาจลง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวตรัสว่า ประเทศไทยเป็น “ดินแดนแห่งการประนีประนอม”
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าฯเจ้าอยู่หัว ทรงให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศนับตั้งแต่ปี 2522 ซึ่งขณะนั้น พระองค์ยังทรงดำรงพระอริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้รายงานเพิ่มเติมว่า ทางสำนักพระราชวัง ได้เชื้อเชิญให้สื่อต่างชาติได้มีโอกาสไปอยู่ท่ามกลางประชาชนที่จงรักภักดี ที่มารอรับเสด็จฯเป็นจำนวนมาก ซึ่งปกติแล้วจะมีแค่ทีมข่าวในพระราชสำนักเท่านั้นที่ได้รับโอกาสให้เข้าไปทำข่าวในพระราชพิธีของสำนักพระราชวัง
โดยนี่อาจเป็นสัญญาณว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวอาจทรงมีพระราชดำริที่จะให้พระราชกรณียกิจของพระองค์เผยแพร่ไปสู่สายตาของนานาชาติ
ขณะที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ประทานสัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่สงบ และตรัสว่า “เรารักคนไทยทุกคนไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นี่คือความรักที่แท้จริง”
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนนับหลายสิบรายได้ถูกจับกุมเนื่องจากกระทำการฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร(ที่ออกตามพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน )ซึ่งห้ามชุมนุมเกิน 5 คน แต่ปรากฏว่า ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่มีลักษณะเป็นแฟลชม็อบในลักษณะรายวันทั้งในพื้นที่กรุงเทพและตามจังหวัดอื่นๆ
สำหรับข้อหาที่นำไปสู่การจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นมีหลายระดับและมีอัตราโทษที่แตกต่างกันออกไป อาทิ การกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ .การกระทำความผิดในโทษฐานขัดขวางขบวนเสด็จของสมเด็จพระราชินี จนเป็นเหตุทำให้มีผู้ประท้วงจำนวน 2 รายถูกจับกุมในข้อหาอาฆาตมาดร้ายสมเด็จพระราชินี ซึ่งมีอัตราโทศสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต
อนึ่ง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำ’กลุ่ม ไทยภักดี’ ได้เผยแพร่บรรยากาศผ่านบัญชีเฟซบุ๊กที่ชื่อ Warong Dechgitvigrom โดยโพสต์ภาพขณะเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จพระราชดำเนินไปในการเปลี่ยนเครื่องทรงถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร จากฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาว ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ว่า
"ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ท่านตรัสกับผมว่า 'ต้องช่วยกันเอาความจริงออกมา'
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage