*หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ประมวลภาพบรรยากาศและสรุปประเด็นการปราศรัยบางส่วนจากแกนนำหลากหลายกลุ่มของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่มีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย.2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ก่อนเคลื่อนสู่ท้องสนามหลวง
.................................
เวลา 11.30 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง พร้อมด้วยนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ 2 แกนนำ ได้เข้าเจรจาเพื่อขอให้มีการเปิดประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่การเจรจาไม่เป็นผล
ต่อมาเวลา 12.05 น. เจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจเปิดประตูให้กลุ่มผู้ชุมนุมนำโดยนายภาณุพงศ์ เดินทางเข้าไปในมหาวิทยาลัย โดยใช้ประตูฝั่งสนามหลวง ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของผู้ชุมนุม ก่อนจะมีการตั้งเวทีปราศรัยบริเวณสนามฟุตบอล
13.30 น. ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา สัมภาษณ์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ถึงวิธีการเข้ามาในมหาวิทยาลัย โดย น.ส.ปนัสยายืนยันว่า ได้พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแล้ว แต่การเจรจาไม่สำเร็จ ทำให้ประชาชนช่วยกันพังประตูเข้ามา
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่รับผิดชอบหน้าประตูทางเข้า ได้รับการเปิดเผยว่าในขณะที่มีการเจรจาเจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดประตูให้ผู้ชุมนุมเข้ามาในมหาวิทยาลัย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมผลักประตูจนแม่กุญแจหลุด ทำให้สามารถเดินทางเข้ามาในมหาวิทยาลัยได้ โดยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดให้เข้ามาแต่อย่างใด
น.ส.ปนัสยาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราเพิ่มเติม เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์ภาพรวมของการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.ต่อเนื่องถึงวันที่ 20 ก.ย.ว่า เนื่องจากวันที่ 19 ก.ย.2549 เปรียบเหมือนจุดเริ่มต้นของปัญหา เราพยายามช่วงชิงความหมายเพื่อกลับมาเป็นของประชาชน การใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นพื้นที่ที่เราต้องการใช้เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของการเรียกร้องประชาธิปไตย
น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า การชุมนุมในครั้งนี้ มีกลุ่มแนวร่วมที่หลากหลายจากทั้งภาคอิสาน ภาคใต้ แสดงถึงความหลากหลายของประชาชน การปราศรัยของแต่ละกลุ่มยังคงเน้นประเด็นที่ไม่มีใครรับฟังพวกเขา ไม่มีพื้นที่ให้เขา การชุมนุมครั้งนี้จึงเป็นการปะทุของความเดือดร้อนของประชาชน
น.ส.ปนัสยากล่าวด้วยว่า การชุมนุมในครั้งนี้ จะยังคงยืนยันใน 10 ข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และจะลงลึกในรายละเอียดยิ่งขึ้นกว่าเดิม ยืนยันว่าการชุมนุมจะยังเน้นเรื่องข้อเรียกร้องทั้ง 10 ส่วนการเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ คือวันที่ 20 ก.ย.นั้น ขอให้ติดตามผ่านเวทีปราศรัย และกล่าวทิ้งท้ายว่าเมื่อยึดพื้นที่สนามหลวงได้จะตีกลองสะบัดชัย ทั้งนี้ เดิมทีผู้ตีกลองจะเดินทางมาจากเชียงใหม่ แต่เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่สกัดไม่ให้มาร่วมชุมนุมจึงหาคนตีกลองเป็นคนในพื้นที่การชุมนุมที่สามารถตีกลองได้
13:45 น.น.ส.ธนพร วิจันทร์ ตัวแทนจากเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชา กล่าวยืนยันจุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
14:00 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย อดีตผู้ต้องหาตามความผิดมาตรา112 กล่าวว่านี่คือการเปิดศักราชใหม่ และจะผลักดันเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องให้มี ส.ส.ร.หรือสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง นายสมยศวิพากษ์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารของรัฐบาลที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยว่า หลังรัฐประหาร 2557 เศรษฐกิจตกต่ำอย่างมาก บัณฑิตจบใหม่ ตกงานไม่น้อยกว่า 50,000 คน นอกจากนี้ นายสมยศได้กล่าวถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในแง่มุมทางประวัติศาสตร์ที่ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองมาหลายยุคหลายสมัย
14:25 น.นายปฏิภาณ ลือชา หรือหมอลำแบงค์ กล่าวว่าตนเองเป็นอดีตผู้ต้องขังใน คดีอาญามาตรา 112 ถูกจับเข้าไปในคุกลาดยาว 2 ปี ชีวิตหลังออกจากคุกเต็มไปด้วยความลำบาก สังคมเราไม่เคยเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
นายปฏิภาณกล่าวด้วยว่าจะผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เป็นธรรมและเป็นฉบับเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ นายปฏิภาณ ได้กล่าวว่าจากนี้ขอทวงคืนสีเหลืองมาเป็นของประชาชน เพราะความหมายของสีเหลืองในทางสากลนั้นเป็นสีที่เป็นสัญลักษณ์ของการนิรโทษกรรม และนายปฏิภาณได้ขอให้เจ้าหน้าที่เดินแจกริบบิ้นสีเหลืองให้แก่ผู้ฟังการปราศรัย และขอเชิญชวนให้จากนี้ ร่วมรณรงค์ผูกริบบิ้นขาวและริบบิ้นเหลืองเพื่อแสดงสัญลักษณ์
14:45 น. ตัวแทนจากนนทบุรีขึ้นกล่าวปราศรัย มีประเด็นที่ระบุถึงการอนุรักษ์อนุสาวรีย์จอมพล ป.พิบูลสงคราม และระบุว่าวันนี้เดินทางมาโดยทางเรือ จึงเรียกกลุ่มของตนเองว่าเป็นทัพเรือ จากนั้น เลขาธิการคนรุ่นใหม่นนทบุรีขึ้นอ่านแถลงการณ์ ระบุถึงสภาพปัญหาที่ประชาชนประสบภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดนี้
15:00 น. ตัวแทนแนวร่วมนิสิต มมส.หรือมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขึ้นกล่าวปราศรัย ระบุว่ามาเพื่อทวงคืนสิทธิของเรา ได้เวลาทวงคืนอนาคต
15:30 น. พิธีกรบนรถเวทีปราศรัย กล่าวให้ประชาชนเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อเตรียมเคลื่อนไปยังสนามหลวง โดยพิธีกรเน้นย้ำคำว่า สนามราษฎรแทนคำว่าสนามหลวง และขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบเรียบร้อยโดยฟังสัญญาณและเสียงจากเวทีปราศรัยเท่านั้น
เมื่อประชาชนผู้ร่วมชุมนุมลุกขึ้นยืนพร้อมเพรียงกันแล้วรถเริ่มวนซ้ายรอบสนามฟุตบอล และเคลื่อนออกทางด้านข้างสนามฟุตบอล ผ่านด้านข้างหอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนออกทางประตูด้านหน้ามหาวิทยาลัย มุ่งสู่ท้องสนามหลวง โดยขบวนรถแกนนำผู้ปราศรัยนำหน้ามวลชน และมีประชาชนเดินเคลื่อนตามไปอย่างช้าๆ
16:05 น. หลังจากรถปราศรัยเคลื่อนขบวนมาปักหลักที่ท้องสนามหลวงฝั่งตรงข้ามวัดพระแก้วได้สำเร็จ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ กล่าวปราศรัย ระบุว่าวันนี้เรามารวมกัน เราได้พื้นที่ของสนามหลวงแล้วครึ่งหนึ่ง เราเพียงมาเรียกร้องความหวังของประชาชน วันนี้เสียงของประชาชนเรียกร้องประชาธิปไตยทุกพื้นที่ วันนี้เรามาที่นี่อีกครั้ง มายืนตรงนี้อีกครั้งเพื่อทวงสิทธิ์ของเรา สนามหลวงคือที่ของประชาชนใช้ร่วมกัน เพื่อจะใช้เป็นพื้นที่รองรับพี่น้องของเราที่จะมาจากทุกพื้นที่ทั่วไทย จากนั้นนายสิรวิชญ์ได้กล่าวว่าจะเคลื่อนรถไปยังบริเวณที่เป็นสนามหญ้าของสนามหลวง
ขณะที่ นายภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง หนึ่งในแกนนำ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราว่า สาเหตุที่เคลื่อนมวลชนออกมาจากพื้นที่มหาวิทยาลัย เพราะพื้นที่ด้านในไม่เพียงพอกับการรองรับผู้ชุมนุม โดยเบื้องต้นตัดสินใจใช้สนามหลวงเป็นเวทีปราศรัย ส่วนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะใช้รองรับมวลชน อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้ยังยืนยันว่าจะมีการเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาลตามแผน แต่ยังไม่เปิดเผยเส้นทางและเวลา ส่วนข้อเสนอตอนนี้ ทุกกลุ่มเห็นร่วมกันตามแนวทางเดิมคือ 3 ข้อเรียกร้อง และ 1 ความฝัน โดยส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลต้องรีบแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด ในส่วนข้อเสนอหลักจะมีการปรึกษาประชุมกันและขอฉันทามติจากผู้ชุมนุมในวันนี้
นายภานุพงศ์ กล่าวว่า ตนไม่กังวลเรื่องที่ตำรวจแจ้งให้ออกจากพื้นที่ภายใน 1 ชม. เนื่องจากไม่มีการขออนุญาติชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ปี 2558 เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นของประชาชน
16:10 น. รถปราศรัยได้เคลื่อนไปยังบริเวณสนามหญ้า
16:20 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ปราศรัยอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และอันเชิญดวงวิญญาณวีรชน 14 ต.ค. 2516 วีรชน 6 ต.ค.2519 วีรชน พ.ค.2535 และ วีรชนผู้เสียชีวิตในการสลายการชุมนุมปี 2553
นายพริษฐ์ กล่าวว่าขออันเชิญดวงวิญญาณท่านเหล่านั้นมาสถิตย์อยู่กับสนามหลวงของเราแห่งนี้ ครั้งนี้เรามาโดยสันติ ปราศจากอาวุธ และเรามาลั่นกลองเพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของเรา จากนั้นนายพริษฐ์ได้ประกาศให้ประชาชนก้าวเดินเพื่อทวงคืนพื้นที่ ก้าวเดินไปเพื่อทวงคืนสนามหลวง
16:25 น. รถปราศรัยได้เคลื่อนเข้าไปยังบริเวณสนามหญ้าของสนามหลวงและปักหลักอยู่ที่บริเวณดังกล่าว ท่ามกลางบรรยากาศที่ผู้ชุมนุมพักผ่อน ผ่อนคลายอิริยาบทต่างๆ หลังการทวงคืนสนามหลวง โดยระหว่างที่รถเคลื่อนไปยังสนามหญ้านั้น พิธีกรของการชุมนุมได้กล่าวว่าพื้นที่นี้คือพื้นที่ของประชาชนที่ในอดีตเคยเป็นที่พักของคนไร้บ้าน เคยมีคนมาขายลูกชิ้นปิ้ง เคยเป็นพื้นที่ที่เป็นของประชาชน วันนี้เราจึงมาทวงสิทธิ์ของเรา
16:30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจถอยแนวกั้นไปถึงริมฝั่งสนามหญ้าหน้าวัดพระแก้ว ห่างจากวัดพระแก้วประมาณ 150 เมตร โดยมีการตั้งกำแพงกั้นพร้อมวางกำลังตามแนวและมีรถฉีดน้ำอยู่ด้านหลังเพื่อป้องกันผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่และมีป้ายติดแจ้งเตือนห้ามจัดการชุมนุมสาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศ์ ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป ตามมาตรา 7 วรรค 1 ในพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไท่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
17:00 น. บริเวณรอบนอกสนามหลวง ด้านที่เยื้องกับโรงแรมรัตนโกสินทร์ มีกลุ่มมวลชนคนลำลูกกาปทุมธานี เปิดเพลงสันทนาการ และกล่าวให้กำลังใจแก่นิสิต นักศึกษาผู้ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรารายงานว่าเวลาประมาณ 18 : 00 น. มีการตีกลองสะบัดชัยเป็นเวลานานประมาณ 2 นาที
ภาพจากแฟนเพจเฟซบุ๊ก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
ทั้งนี้ ในช่วงค่ำ แฟนเพจเฟซบุ๊ก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้เผยแพร่ภาพมุมสูงที่ปรากฏผู้มาร่วมชุมนุมจำนวนมาก เต็มพื้นที่ท้องสนามหลวง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เวลา 20.45 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์รักษาความสงบเรียบร้อยและความคืบหน้ากรณีการชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวงว่า หลังจากผู้ชุมนุมเข้ามาชุมนุมในพื้นที่สนามหลวง นอกเขตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งไม่ได้รับรองไว้ในกฎหมายชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปแจ้งต่อผู้ชุมนุมเมื่อเวลา 16.30 น. เกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 และได้มีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่ภายใน 1ชม.แต่ผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตาม ซึ่งหลังจากเวลา 1 ชม. ผ่านไปแล้ว เจ้าพนักงานตำรวจได้ไปยื่นคำร้องขอต่อศาลแพ่งให้มีคำสั่งการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย แต่เนื่องด้วยเป็นวันหยุดราชการ เจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจพหลโยธิน และต้องรอศาลแพ่งเปิดทำการ ถึงจะรู้ว่าจะมีคำสั่งดำเนินการอย่างไร ขอนำเรียนว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า ในส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ เป็นการตั้งกำลังพลไว้ตามกฎหมายระบุว่า ตำรวจมีอำนาจที่จะจัดกำลังพลตามความจำเป็นของสถานการณ์ เพื่อรักษาความสงเรียบร้อย และจะไม่มีการใช้กำลังสลายการชุมนุมในวันนี้
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า สำหรับการใช้พื้นที่ท้องสนามหลวงของผู้ชุมนุมผิดกฎหมายหรือไม่นั้น กรุงเทพมหานคร(กทม.) ซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่ ขณะนี้ได้ให้นักกฎหมายดูอยู่ว่ามีความผิดอะไรบ้าง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเปิดให้ประชาชนเข้าไปใช้บริการถึง 22.00 น. หลังจากนั้นถ้าผู้ชุมนุมไม่ออกจากพื้นที่ กทม.ก็จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
อ่านประกอบ :
ตร.ตรึงกำลังห้ามเข้าใกล้ทำเนียบ! 'ม็อบ19 กันยา' ปราศรัยใหญ่สนามหลวง-เคลื่อนขบวนพรุ่งนี้
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage