'ม็อบ 19 กันยา' ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่กลางท้องสนามหลวง - มวลชนอีกกลุ่มเคลื่อนขบวนออกจาก มธ.ไปสมทบด้วย ขณะที่ ผกก.สน.ชนะสงคราม ประกาศแจ้งให้ออกจากพื้นที่ใน 1 ชม. เหตุไม่ได้ขออนุญาตจัดการชุมนุมล่วงหน้า ส่วน 'ไมค์ ระยอง' ยืนยัน จะเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลพรุ่งนี้ แต่ยังไม่เปิดเผยเวลาเส้นทาง ด้านตร.ตรึงกำลังคุมเข้มสถานที่สำคัญ - ห้ามเข้าใกล้ทำเนียบฯ
--------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. บรรยากาศการชุมนุมบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เริ่มมีผู้ชุมนุมทยอยเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่
เมื่อเวลา 16.00 น. นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ กล่าวปราศรัยว่า วันนี้เรามารวมตัวกันและได้พื้นที่สนามหลวงมาแล้วครึ่งหนึ่ง เราเพียงมาเรียกร้องความหวังของประชาชน วันนี้เสียงของประชาชนเรียกร้องประชาธิปไตยทุกพื้นที่ วันนี้เรามาที่นี่อีกครั้ง เพื่อทวงสิทธิ์ของเรา เพราะสนามหลวงคือที่ของประชาชนที่ใช้ร่วมกัน เพื่อจะใช้เป็นพื้นที่รองรับพี่น้องของเราที่จะมาจากทุกพื้นที่ทั่วไทย
ขณะที่ นายภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง หนึ่งในแกนนำ ให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่เคลื่อนมวลชนออกมาจากพื้นที่มหาวิทยาลัย เพราะพื้นที่ด้านในไม่เพียงพอกับการรองรับผู้ชุมนุม โดยเบื้องต้นตัดสินใจใช้สนามหลวงเป็นเวทีปราศรัย ส่วนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะใช้รองรับมวลชน อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้ยังยืนยันว่าจะมีการเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาลตามแผน แต่ยังไม่เปิดเผยเส้นทางและเวลา ส่วนข้อเสนอตอนนี้ ทุกกลุ่มเห็นร่วมกันตามแนวทางเดิมคือ 3 ข้อเรียกร้อง และ 1 ความฝัน โดยส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลต้องรีบแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด ในส่วนข้อเสนอหลักจะมีการปรึกษาประชุมกันและขอฉันทามติจากผู้ชุมนุมในวันนี้
นายภานุพงศ์ กล่าวว่า ตนไม่กังวลเรื่องที่ตำรวจแจ้งให้ออกจากพื้นที่ภายใน 1 ชม. เนื่องจากไม่มีการขออนุญาติชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ปี 2558 เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นของประชาชน
@ตั้งเวที-ปักหลักปราศรัยกลางสนามหลวง
โดยเมื่อเวลา 15.30 น ในการปราศรัยของแกนนำที่บริเวณสนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แจ้งให้มวลชนเคลื่อนย้ายออกไปที่สนามหลวง ที่จะใช้ชื่อเรียกว่า สนามราษฎร ขณะที่บรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวง เริ่มมีการตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ และกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มเข้ามาจับจองพื้นที่กันอย่างต่อเนื่อง
ต่อมา พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้เข้ามาแจ้งกับผู้ชุมนุมขอให้ออกจากพื้นที่สนามหลวงภายใน 1 ชม. เนื่องจากไม่มีการแจ้งขอใช้พื้นที่ชุมนุมก่อนทำกิจกรรมก่อน 24 ชม. ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะปี 2558 ม.10 และขอให้เฝ้าระวังมือที่สามที่จะแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่
@พังประตูบุกเข้าพื้นที่ธรรมศาสตร์
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง พร้อมด้วยนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ 2 แกนนำ ได้เข้าเจรจาเพื่อขอให้มีการเปิดประตู แต่การเจรจาไม่เป็นผล
ต่อมาเวลา 12.05 น. เจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจเปิดประตูให้กลุ่มผู้ชุมนุมนำโดยนายภาณุพงศ์ เดินทางเข้าไปในมหาวิทยาลัย โดยใช้ประตูฝั่งสนามหลวง ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของผู้ชุมนุม โดยคาดว่าจะมีการตั้งเวทีปราศรัยบริเวณสนามฟุตบอล ซึ่งตามกำหนดการเดิมจะเริ่มมีการปราศรัยในเวลา 14.00 น. วันนี้
เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา สัมภาษณ์ น.ส.ปนัสยา ถึงวิธีการเข้ามาให้มหาวิทยาลัย โดย น.ส.ปนัสยายืนยันว่า ได้พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแล้ว แต่การเจรจาไม่สำเร็จ ทำให้ประชาชนช่วยกันพังประตูเข้ามา
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่รับผิดชอบหน้าประตูทางเข้า ได้รับการเปิดเผยว่า ในขณะที่มีการเจรจาเจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดประตูให้ผู้ชุมนุมเข้ามาในมหาวิทยาลัย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมผลักประตูจนแม่กุญแจหลุด ทำให้สามารถเดินทางเข้ามาในมหาวิทยาลัยได้ โดยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดให้เข้ามาแต่อย่างใด
@ ตรึงกำลังตร.คุมเข้มสถานที่สำคัญ - ห้ามเข้าใกล้ทำเนียบฯ
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สำหรับบรรยากาศบริเวณทำเนียบรัฐบาลตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ในสังกัด กก.4บก.ส.3 และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (บก.น.9) ประจำการและเตรียมความพร้อม ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาและมีการประชุมหารือเป็นระยะๆ ตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ โดยเมื่อช่วงบ่าย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เดินทางเข้ามาตรวจเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจภายในทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และ พล.ต.ท.สุรพล อยู่นุช ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.) ประสานงานทำเนียบรัฐบาล พูดคุย
ต่อมาเวลา 17.20 น. พล.ต.ท.สุรพล เปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดในการดูแลพื้นที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ว่า สถานการณ์ในขณะนี้โดยภาพรวมยังเป็นปกติ ทุกอย่างเรียบร้อยเป็นปกติดี และยังไม่มีรายงานว่าจะมีเหตุแทรกซ้อนอะไรเกิดขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เข้ามาตรวจเยี่ยมภายในทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า ผบช.น.มาประสานงานกัน พร้อมสอบถามว่าขาดเหลืออะไร หรือไม่ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
จากนั้นเวลา 18.00 น. หลังเคารพธงชาติ ได้มีการซ้อมแผนของตำรวจนครบาลที่ประจำการอยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ซึ่งคาดว่าจะเป็นการสับเปลี่ยนกำลัง จากนั้นได้มีการเคลื่อนขบวนรถตู้ ประมาณ 10 คันรถ พร้อมรถผู้ต้องขัง ที่ภายในบรรจุโล่ตำรวจไว้เต็มคันรถด้วย
ทั้งนี้ในส่วนทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตู 4 ฝั่งตรงข้ามสำนักงาน ป.ป.ช.เดิม นอกจากปิดประตูรั้วอย่างแน่นหนาแล้ว ได้มีการนำรถน้ำของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ไปปิดช่องทางไว้อีกชั้นหนึ่ง ขณะบริเวณพื้นที่รอบนอกทำเนียบรัฐบาลได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลประจำจุดโดยรอบ และมีการวางกำลังต่าง ๆ ไว้บริเวณถนนราชดำเนินนอก โดยเฉพาะจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ จนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า โดยได้มีการปิดถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชย์บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ไปจนถึงแยกมิสกวัน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กพร้อมไฟและกำลังเจ้าหน้าที่ ให้สัญญาณเพื่อไม่ให้มีการผ่านในเส้นทางดังกล่าวอย่างเด็ดขาด ซึ่งถือเป็นการกันพื้นที่ไม่ให้มีการสัญจรผ่านทำเนียบรัฐบาล แต่ในส่วนของถนนราชดำเนินนอกยังไม่มีการปิดการจราจร ส่วนบริเวณหน้ากองทัพภาคที่ 1 ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารในการดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบ เช่นเดียวกับบริเวณกองบัญชาการตำรวจนครบาล และหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ได้มีรถตู้พร้อมกำลังตำรวจตรึงพื้นที่อย่างหนาแน่น ขณะที่แยกต่างๆซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญ ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ประจำทุกจุด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage