"..สตง. พิจารณาแล้วเห็นว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ขององค์การบริหารส่วนตำบล ไม่จัดทำบัญชีและรายงานของกองทุนหลักประกันสุขภาพเป็นการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์แนบท้ายประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและการที่หัวหน้าสำนักงานปลัดฯ ได้นำเงินกองทุนฯ ที่รับมาจากคณะกรรมการกองทุนฯ เก็บไว้กับตัวเป็นเวลานาน เข้าข่ายลักษณะนำเงินไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัว.."
....................................
ปัญหาการเบิกจ่ายเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่ของเทศบาลตำบล ยังคงมีข้อมูลปรากฎให้เห็นอย่างต่อเนื่อง!
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อมูลมาเสนอไปแล้วว่า มีกรณีปัญหาการเบิกจ่ายเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่ของเทศบาลตำบลแห่งหนึ่ง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ถึง พ.ศ. 2560 ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบว่า มีการถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของกองทุนฯ โดยไม่มีการดำเนินตามแผนงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ จำนวน 65 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านเศษ เบื้องต้นได้มีการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง โดยดำเนินการทางวินัยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ลงโทษให้ไล่ออก จำนวน 2 ราย ลงโทษตัดเงินเดือน จำนวน 1 ราย และลงโทษภาคทัณฑ์ จำนวน 1 ราย พร้อมเรียกเงินคืนด้วย (อ่านประกอบ : ไล่ออก ขรก 2 ราย! เทศบาลตำบลปริศนา เบิกเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพไม่มีแผนงาน 65 ครั้ง)
ล่าสุดมีกรณีปัญหาการเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลอีกแห่งหนึ่ง ในปีงบประมาณ 2561 ถูก สตง.ตรวจสอบพบที่สำคัญ ดังนี้
1. ในปีงบประมาณ 2561 กองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ขององค์การบริหารส่วนตำบลไม่จัดทำบัญชีและรายงานของกองทุนหลักประกันสุขภาพ เป็นการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์แนบท้ายประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 เรื่อง หลักเกณฑ์การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน การจ่ายเงิน การจัดทำบัญชีและรายงาน
2. จากการตรวจสอบรายรับ-รายจ่ายกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ขององค์การบริหารส่วนตำบล ปีงบประมาณ 2561 มียอดคงเหลือ ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 จำนวน 122,347.19 บาท แต่เมื่อตรวจสอบยอดคงเหลือของเงินตามที่ธนาคารรับรอง พบว่ามีจำนวนเพียง 16,726.19 บาท ทำให้มีผลต่างไม่ตรงตามยอดคงเหลือตามธนาคารรับรองจำนวน 105,621.00 บาท
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล ชี้แจงว่าสาเหตุที่ไม่มีการจัดทำบัญชีและรายงานของกองทุนหลักประกันสุขภาพ เนื่องจากมีภาระงานเพิ่มขึ้น และสาเหตุที่มีผลต่างของเงินคงเหลือไม่ตรงตามยอดที่ธนาคารรับรอง เกิดจากมีการถอนเงินสดโดยผู้มีอำนาจของคณะกรรมการกองทุนฯ จำนวน 2 คน ใน 4 คน นำมาให้หัวหน้าสำนักปลัดฯ เป็นผู้เก็บรักษาไว้ เพื่อจ่ายให้กับหน่วยงานที่ขอรับเงินจากกองทุนฯ
สตง. พิจารณาแล้วเห็นว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ขององค์การบริหารส่วนตำบล ไม่จัดทำบัญชีและรายงานของกองทุนหลักประกันสุขภาพเป็นการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์แนบท้ายประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและการที่หัวหน้าสำนักงานปลัดฯ ได้นำเงินกองทุนฯ ที่รับมาจากคณะกรรมการกองทุนฯ เก็บไว้กับตัวเป็นเวลานาน เข้าข่ายลักษณะนำเงินไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
สตง. ได้แจ้งผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะ ให้ผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการดังนี้
1. ให้สั่งการเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจัดทำบัญชีและรายงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์โดยเร็ว
2. ให้สั่งการหัวหน้าสำนักงานปลัดฯ นำเงินจำนวน 105,621.00 บาท คืนกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ขององค์การบริหารส่วนตำบล หากละเลยไม่ปฏิบัติให้ดำเนินการทางวินัยต่อไป
ต่อมา องค์การบริหารส่วนตำบล มีหนังสือแจ้งว่า ได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ดังนี้
1. ในปีงบประมาณ 2562 ได้จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องแล้ว
2. ดำเนินการให้ผู้รับผิดชอบทำสัญญาชดใช้เงินและนำเงินคืนกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ขององค์การบริหารส่วนตำบล
สตง. ระบุว่า จากผลการตรวจสอบและการแจ้งข้อเสนอแนะให้หน่วยรับตรวจดำเนินการแก้ไข ข้อบกพร่องและปรับปรุงการปฏิบัติงานดังกล่าว ส่งผลให้หน่วยรับตรวจมีการปรับปรุงแก้ไข การปฏิบัติงานในด้านบัญชี การเงิน และการเบิกจ่ายกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ขององค์การ บริหารส่วนตำบลให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีการดำเนินการเพื่อให้มีการนำเงินในส่วนที่ทำให้ราชการเสียหายส่งเงินคืนกองทุน หลักประกันสุขภาพฯ ขององค์การบริหารส่วนตำบลต่อไป
หมายเหตุ : ในรายงานผลการตรวจสอบเรื่องนี้ของ สตง. มิได้ระบุชื่อ องค์การบริหารส่วนตำบล ที่ถูกตรวจสอบพบปัญหาการเบิกจ่ายเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นดังกล่าว จึงทำให้ สำนักอิศรา ไม่สามารถติดต่อไปยังผู้บริหาร องค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้านได้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/