"...เทศบาลตำบลได้มีหนังสือแจ้งผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง. ว่าในส่วนของการดำเนินการทางแพ่ง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และจังหวัดได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด และได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้วโดยได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องซึ่งต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่เทศบาลตำบล รวมจำนวน 2.82 ล้านบาทและในส่วนของการดำเนินการทางวินัย ได้มีคำสั่งในการดำเนินการทางวินัยกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว โดยลงโทษให้ไล่ออก จำนวน 2 ราย ลงโทษตัดเงินเดือน จำนวน 1 รายและลงโทษภาคทัณฑ์ จำนวน 1 ราย..."
การเบิกจ่ายเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่ของเทศบาลตำบลแห่งหนึ่ง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ถึง พ.ศ. 2560 ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบว่า มีการถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของกองทุนฯ โดยไม่มีการดำเนินตามแผนงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ จำนวน 65 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านเศษ เบื้องต้นได้มีการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง โดยดำเนินการทางวินัยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ลงโทษให้ไล่ออก จำนวน 2 ราย ลงโทษตัดเงินเดือน จำนวน 1 ราย และลงโทษภาคทัณฑ์ จำนวน 1 ราย พร้อมเรียกเงินคืนด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สตง. ได้เผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ของเทศบาลตำบลแห่งหนึ่ง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ถึง พ.ศ. 2560
พบข้อตรวจพบที่สำคัญ ดังนี้
1. มีการถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของกองทุนฯ โดยไม่มีการดำเนินตามแผนงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ จำนวน 65 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3.22 ล้านบาท ซึ่งการถอนเงินดังกล่าวได้ใช้ใบถอนเงินแล้วนำไปถอนเงินสดจากบัญชีฝากธนาคารของกองทุนโดยไม่ได้จัดทำเป็นเช็คขีดคร่อมและไม่มีการดำเนินตามโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ และพบว่ามีการฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารของกองทุนฯ โดยไม่มีเหตุให้ต้องนำฝาก จำนวน 10 ครั้ง รวมเป็นเงิน 0.40 ล้านบาท
2. ไม่มีสมุดบัญชีการเงินให้ตรวจสอบ ไม่ได้บันทึกบัญชีในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกองทุนให้ครบถ้วน และไม่ได้จัดทำงบแสดงสถานะการเงินรายเดือนและรายไตรมาส
โดยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลชี้แจงว่า ยอมรับว่าได้เบิกจ่ายโดยไม่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่เทศบาลตำบลสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พิจารณาแล้วเห็นว่า การถอนเงินจำนวน 65 ครั้งดังกล่าว ไม่เป็นไปตามวิธีการจ่ายของกองทุนหลักประกันสุขภาพตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงเป็นการจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการและมีเจตนาปกปิดมิให้เจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมการกองทุนทราบถึงการกระทำดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการร่วมกันจัดทำหลักฐานเบิกจ่ายเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่เทศบาลตำบล เพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3.22 ล้านบาท
แต่เนื่องจากผู้กระทำผิดได้มีการนำเงินฝากคืนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกองทุนเนื่องจากเกรงกลัวความผิด รวมเป็นเงิน 0.40 ล้านบาท
จึงคงเหลือค่าเสียหายทั้งสิ้นจำนวน 2.82 ล้านบาท (3.22 – 0.40) และกรณีที่กองทุนฯ ไม่มีสมุดบัญชีการเงินให้ตรวจสอบ ไม่ได้บันทึกบัญชีในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกองทุนให้ครบถ้วนและไม่ได้จัดทำงบแสดงสถานะการเงินรายเดือนและรายไตรมาส ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ข้อ 3.3
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้แจ้งผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. แจ้งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติให้พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
2. แจ้งนายกเทศมนตรี ให้ดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงและดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องและดำเนินการเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายแก่กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่เทศบาลตำบล จำนวน 2.82 ล้านบาท
3. แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้มีหน้าที่และอำนาจในการบังคับบัญชาหรือควบคุมกำกับ ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
4. แจ้งเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในฐานะผู้มีหน้าที่และอำนาจตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ผลการแก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยรับตรวจ
เทศบาลตำบลได้มีหนังสือแจ้งผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง. ว่าในส่วนของการดำเนินการทางแพ่ง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และจังหวัดได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด และได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้วโดยได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องซึ่งต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่เทศบาลตำบล รวมจำนวน 2.82 ล้านบาทและในส่วนของการดำเนินการทางวินัย ได้มีคำสั่งในการดำเนินการทางวินัยกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว โดยลงโทษให้ไล่ออก จำนวน 2 ราย ลงโทษตัดเงินเดือน จำนวน 1 รายและลงโทษภาคทัณฑ์ จำนวน 1 ราย
ผลสัมฤทธิ์จากการตรวจสอบ
จากผลการตรวจสอบและการแจ้งข้อเสนอแนะให้หน่วยรับตรวจดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงการปฏิบัติงานดังกล่าว ส่งผลให้หน่วยรับตรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการลงโทษกับผู้ที่กระทำผิดในการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด และมีการดำเนินการเพื่อให้มีการชดใช้เงินในส่วนที่ทำให้ราชการเสียหายส่งคืนกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่เทศบาลตำบล
หมายเหตุ : ในรายงานผลการตรวจสอบเรื่องนี้ของ สตง. มิได้ระบุชื่อ เทศบาลตำบล ที่ถูกตรวจสอบพบปัญหาการเบิกจ่ายเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นดังกล่าว จึงทำให้ สำนักอิศรา ไม่สามารถติดต่อไปยังผู้บริหาร เทศบาลตำบล เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้านได้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/