"...ล่าสุดมีรายงานเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 28 ก.ค.ว่านายนาจิบมีความผิดใน 7 ข้อหากรณีทุจริตกองทุน 1MDB ที่ทำให้เขาต้องพ้นจากตำแหน่งและถูกดำเนินคดี....ต่อมาในช่วงเย็นของวันเดียวกัน นายโมฮัมหมัด ผู้พิพากษาได้ขึ้นนั่งบัลลังก์อีกครั้ง เพื่อประกาศบทลงโทษต่ออดีตผู้นำมาเลเซียวัย 67 ปี ให้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 12 ปี และชำระค่าเสียหาย 210 ล้านริงกิต ( 1,555.95 ล้านบาท ) ตามความผิดทั้ง 7 ข้อหา แบ่งเป็น 3 ข้อหาเกี่ยวกับการละเมิดอำนาจ เกี่ยวกับการฟอกเงิน 3 ข้อหา และอีก 1 ข้อหาฐานใช้อำนาจมิชอบ..."
วันที่ 28 ก.ค. ถือได้ว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของประเทศมาเลเซีย เพราะว่านายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย วัย 67 ปีจะต้องขึ้นศาลสูงกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อฟังคำตัดสินคดีแรกจากหลายคดีที่โยงกับการทุจริตในกองทุนพัฒนามาเลเซีย (1MDB) ที่เขาก่อตั้งขึ้นในเดือน ก.ค. 2552
และล่าสุดมีรายงานเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 28 ก.ค.ว่านายนาจิบมีความผิดใน 7 ข้อหากรณีทุจริตกองทุน 1MDB ที่ทำให้เขาต้องพ้นจากตำแหน่งและถูกดำเนินคดี
โดยนายโมฮัมหมัด นาซลัน โมฮัมหมัด กาซาลี ผู้พิพากษาศาลสูงกรุงกัวลาลัมเปอร์ได้กล่าวว่ามีหลักฐานอันเชื่อได้ว่านายนาจิบมีความผิดเกี่ยวข้องกับการโอนเงินรวม 9.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(309,341,900 บาท) จาก กองทุน 1MDB ไปยังบัญชีธนาคารส่วนตัวของเขาระหว่างเดือนธ.ค. 2557 และก.พ.2558 เมื่อครั้งที่เขายังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ต่อมาในช่วงเย็นของวันเดียวกัน นายโมฮัมหมัด ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์อีกครั้ง เพื่อประกาศบทลงโทษต่ออดีตผู้นำมาเลเซียวัย 67 ปี ให้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 12 ปี และชำระค่าเสียหาย 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( 1,555.95 ล้านบาท ) ตามความผิดทั้ง 7 ข้อหา แบ่งเป็น 3 ข้อหาเกี่ยวกับการละเมิดอำนาจ เกี่ยวกับการฟอกเงิน 3 ข้อหา และอีก 1 ข้อหาฐานใช้อำนาจมิชอบ
อย่างไรก็ตาม นายนาจิบยืนยันความบริสุทธิ์ทุกข้อกล่าวหา
ซึ่งจากกรณีขึ้นศาลและพิพากษาดังกล่าวนั้น ทางสำนักข่าวอัลจาซีร่าของกาตาร์ได้ประมวลเหตุการณ์เป็นช่วงเวลาเอาไว้ว่ามีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำมาเรียบเรียงและนำเสนอ เพื่อขมวดปมประเด็นทุจริตกันอีกครั้งหนึ่ง โดยมีรายละเอียดดังนี้
ก.ค. 2552
นายนาจิบ ราซัคได้เริ่มโครงการกองทุน 1MDB ในฐานะกองทุนพัฒนาทางยุทธศาสตร์ เพื่อหาทั้งแหล่งทุน ทรัพยากร และแนวคิดใหม่ๆในการสนับสนุนการเจริญเติมโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย
ก.ย. 2552
กองทุน 1MDB ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือกังบริษัทเปโตรซาอุดิ อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อจะสร้างบริษัทร่วมทุนกับทางเปโตรซาอุดิ โดยกองทุน 1MDB จะลงทุนทั้งสิ้น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (31,510,000,000 บาท) คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของการลงทุน และบริษัทเปโตรซาอุดิจะสนับสนุนในด้านของน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติคิดเป็นมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (47,265,000,000 บาท)
นายฮาเวียร์ คุสโต อดีตผู้อำนวยการบริษัทปิโตร ซาอุดิ ผู้เปิดโปงกรณีทุจริตในกองทุน 1MDB เข้าให้ปากคำกับหน่วยงานป้องกันและปราบปรามทุจริตของมาเลเซีย
มี.ค. 2555
นายนาจิบได้เริ่มโครงการ Tun Razak Exchange (TRX) ซึ่งมีฐานจากกองทุน 1MDB โดยโครงการนี้จะสร้างพื้นที่ทางด้านการเงินและเศรษฐกิจในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และคาดว่าในขั้นตอนแรกของโครงการจะสามารถดึงนักลงทุนจากต่างประเทศให้มาพัฒนาโครงการได้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 856.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (26,980,632,000 บาท)
พ.ค.-ต.ค. 2555
วาณิชธนกิจสหรัฐฯชื่อว่าโกลด์แมน แซค (Goldman Sacks) ช่วยเหลือกองทุน 1MDB เพื่อในด้านการขายพันธบัตรเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (110,215,000,000 บาท) โดยวัตถุประสงค์ของการช่วยเหลือคือเพิ่มจำนวนเงินของกองทุนในการซื้อสินทรัพย์ด้านพลังงาน
โกลด์แมน แซค (Goldman Sacks) วาณิชธนกิจสหรัฐฯ (อ้างอิงรูปภาพจากhttps://www.nst.com.my)
มี.ค. 2556
โกลด์แมนแซคช่วยเหลือแก่กองทุน 1MDB อีก 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (94,470,000,000 บาท) เพื่อจะเพิ่มมูลค่าการขายพันธบัตรของกองทุน โดยครั้งนี้จะเป็นการช่วยเหลือเพื่อให้มีเงินครอบคลุมในด้านยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างมาเลเซีย และกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
ธ.ค. 2556
ภาพยนตร์เรื่อง The Wolf of Wall Street ที่นำแสดงโดยลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ออกฉายในประเทศสหรัฐฯ โดยมีรายงานว่าเงินสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้จำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,152,250,000 บาท) มาจากบริษัท Red Granite Pictures ซึ่งบริษัทแห่งนี้ถูกก่อตั้งโดยนายริซา อาซิส (Riza Aziz) ลูกเลี้ยงของนายนาจิบ ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ โดยมีชื่อท้ายเครดิตของภาพยนตร์แสดงความขอบคุณไปยังนายโลว์ แท็ก โจ หรือโจ โลว์ นักธุรกิจชาวมาเลเซียซึ่งมีส่วนในการสนับสนุนกองทุน 1MDB (อ่านประกอบ:ส่องคดีทุจริตโลก: ย้อนรอยโกง 1MDB ก่อนสหรัฐคืนเงินค่าทำหนัง 1.7 พันล้าน ให้มาเลย์ฯ)
นายริซา อิซิส (คนซ้าย) ลูกเลี้ยงนายนาจิบ และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street ราซัค ถ่ายรูปคู่กับลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ และมาร์ก็อต ร็อบบี้ ดารานำแสดง ในงานเปิดตัวภาพยนตร์ที่กรุงลอนดอน
ม.ค. 2558
กองทุน 1MDB ผิดนัดชำระเงินกู้เป็นเงินมูลค่า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (17,341,500,000 บาท)
มี.ค.2558
จากความกดดันของภาคส่วนสาธารณชน รัฐบาลมาเลเซียจจึงได้ตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อสืบสวนกองทุน 1MDB
ก.ค.2558
สำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นัลของสหรัฐฯและสำนักข่าวซาราวักรีพอร์ตของมาเลเซียได้รายงานว่ามีเงินจำนวนเกือบ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(22,085,000,000 บาท) ถูกโอนเข้าสู่บัญชีส่วนตัวนายนาจิบ และในเดือนเดียวกันนายนาจิบได้ออกคำสั่งปลดอัยการสูงสุดที่ทำหน้าที่สอบสวนกองทุนนี้และปรับคณะรัฐมนตรีหลายคนที่วิจารณ์เรื่องการใช้จ่ายในกองทุนรวมไปถึงมูห์ยิดดิน ยัสซิน (นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนปัจจุบัน) รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ เวลานั้น ออกจากตำแหน่ง
และยังมีการแต่งตั้งนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลสังกัดพรรคอัมโนซึ่งเป็นประธานกรรมการสอบสวนกรณีกองทุน 1MDB ของรัฐสภาขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นรองรัฐมนตรี
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นส่งผลกระทบทำให้กระบวนการสืบสวนในประเทศมาเลเซียเกี่ยวกับกองทุน 1MDB ต้องยุติลง
ม.ค. 2559
อัยการสูงสุดคนใหม่ได้เปิดเผยว่านายนาจิบบริสุทธ์ในทุกกรณี โดยระบุว่าเกินจำนวนเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นจำนวน 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (21,478,740,000 บาท) เป็นเงินบริจาคจากเจ้าชายซาอุดิอาระเบีย และนายนาจิบยังได้คืนเงินบริจาคจำนวน 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(19,554,800,000 บาท)ไปแล้ว
ก.ค. 2559
กระทรางยุติธรรมสหรัฐฯได้ดำเนินการทางกฎหมายในการยึดทรัพย์สินที่ถูกกล่าวหาว่าได้ซื้อ โดยอาศัยเงินจากการยักยอกเงินกองทุน 1MDB และในเอกสารยึดทรัพย์ยังได้ระบุอีกว่ามีการยักยอกเงินจำนวนกว่า 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปสู่บัญชีของผู้บริหารกองทุนรายหนึ่ง ซึ่งในภายหลังทั้งสหรัฐฯและมาเลเซียก็ระบุว่าผู้บริหารกองทุนรายนี้ก็คือนายนาจิบ
มิ.ย. 2560
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯประกาศว่ามีเหตุเชื่อได้ว่ามีการฟอกเงินจำนวน 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (141,990,750,000 บาท) จากกองทุน 1MDB โดยเป็นฝีมือของผู้บริหารกองทุน
ส.ค. 2560
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ดำเนินการสอบสวนเส้นทางการเงินของกองทุน โดยอัยการสหรัฐฯที่ทำหน้าที่สอบสวนได้วิจารณ์ว่าการทุจริตกองทุนนั้นเป็นรูปแบบของโจราธิปไตย (รูปแบบการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่การปกครองเป็นไปเพื่อทวีทรัพย์สินส่วนตัวและอำนาจทางการเมืองของพนักงานในรัฐบาลและของชนชั้นปกครอง)
พ.ค. 2561
ประเด็น 1MDB ทำให้นายนาจิบและพรรคอัมโนแพ้การเลือกตั้ง และ 2 วันหลังจากลงจากตำแหน่งนายนาจิบและ นางรอสมาห์ มานซอร์ (Rosmah Mansor) ภรรยาถูกสั่งห้ามออกนอกประเทศ
นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย (คนซ้าย) และนางนางรอสมาห์ มานซอร์ ภรรยา (คนขวา) (อ้างอิงรูปภาพจากเซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์)
มิ.ย. 2561
เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียบุกอสังหาริมทรัพทย์ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับนายนาจิบ และยึดเครื่องเพชร เครื่องประดับ นาฬิกาและเงินสดได้อีกจำนวน 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (8,676,250,000 บาท)
ก.ค. 2561
มีการตั้งข้อหาครั้งแรกเกี่ยวกับนายนาจิบในด้านความเกี่ยวข้องกับกองทุน 1MDB
ต.ค. 2561
นางรอสมาห์ถูกตั้งข้อหาว่าหนีภาษี
ธ.ค. 2561
ทางการมาเลเซียตั้งข้อหาวาณิชธนกิจโกลด์แมน แซค ว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตกองทุน 1MDB
เม.ย. 2562
นายนาจิบขึ้นให้การต่อศาลสูงในกรุงกัวลาลัมเปอร์และถูกตั้งข้อหา 7 ข้อหาด้วยกันในข้อหาว่าเกี่ยวข้องกับการใช้บริษัท SRC International ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ 1MDB ในการผ่องถ่ายทรัพย์สิน
พ.ค. 2562
มาเลเซียประกาศว่าสามารถประมูลเรือซุปเปอร์ยอชต์ชื่อ Equanimity ของนายโจ โลว์ โดยมูลค่าประมูลอยู่ที่ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (7,887 ล้านบาท)
รายละเอียดเรือซุปเปอร์ยอชต์ Equanimity (อ้างอิงรูปภาพจากสเตรทไทม์)
ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายโจโลว์ได้ยักยอกเงินจากกองทุน 1MDB เพื่อนำไปใช้ซื้อเรือซุปเปอร์ยอชต์ดังกล่าว และขณะนี้คาดการณ์ว่านายโจโลว์กำลังหนีหมายจับจากทางตำรวจสากล และขณะนี้กำลังกบดานอยู่ในประเทศจีน
นายโลว์ แท็ก โจ หรือโจ โลว์ นักธุรกิจชาวมาเลเซียที่มีส่วนในการสนับสนุนโครงการ 1MDB ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่านายโจ โลว์กำลังกบดานหนีคดีอยู่ในประเทศจีน (อ้างอิงรูปภาพจากเซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์)
ส.ค.2562
นายนาจิบถูกสอบสวนในกรุงกัวลาลัมเปอร์กับความเกี่ยวข้องกับกองทุน 1MDB โดยนายโกปาล ศรี ราม(Gopal Sri Ram) อัยการมาเลเซียที่สอบสวนคดีนี้กล่าวว่านายนาจิบได้ใช้กระบวนการที่ซับซ้อนโดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนสำคัญเพื่อเสริมความมั่งคั่งให้ตัวเอง
ธ.ค. 2562
นายนาจิบได้อ้างตนเองเป็นพยานเพื่อต่อสู้คดี SRC International
มี.ค. 2563
นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมกับข้อวิจารณ์ในกรณี 1MDB เนื่องจากนายมูห์ยิดดินอยู่พรรคอัมโนซึ่งเป็นพรรคที่นายนาจิบยังคงมีอิทธิพลเป็นอย่างยิ่ง
พ.ค. 2563
อัยการมาเลเซียได้ยุติคดีฟอกเงินกับนายริซ่า อาซิส อดีตลูกเลี้ยงของนายนาจิบ หลังจากที่มีการจ่ายเงินยุติดคีทั้งสิ้น 107.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,387,729,250 บาท)
และล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2563 ‘โกลด์แมน แซคส์’ ได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลมาเลเซีย จ่ายเงิน 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.23 แสนล้านบาท เพื่อยุติคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินในกองทุน 1MDB
อ้างอิงเนื้อหาจาก:https://www.aljazeera.com/news/2019/02/timeline-malaysia-1mdb-financial-scandal-unfolded-190211085205283.html
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage