“...เมื่อไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว ได้ร่วมกับเครือญาติก่อตั้งบริษัทขึ้นมาหนึ่งแห่ง ทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำส่งไวน์ โดยที่หมายจับจากประเทศไทยไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ไม่ได้มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย…”
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานแล้วว่า มีนักธุรกิจรายหนึ่งเข้าร้องเรียนว่า มีอดีตผู้แทนการค้าไทยรายหนึ่ง ชื่อย่อว่า ‘Mr.V’ หลองให้ร่วมลงทุนในธุรกิจต่างประเทศเป็นเงินกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ค่าเงินขณะนั้นประมาณ 35 ล้านบาท) ต่อมาไม่ยอมจ่ายเงินจึงติดตามทวง สุดท้าย ‘Mr.V’ ยอมจ่ายเช็คมา 6 ใบ รวม 60 ล้านบาท แต่เบิกเงินได้แค่ใบแรก อีก 5 ใบ มูลค่า 50 ล้านบาทเบิกไม่ได้ จึงฟ้องต่อศาล ท้ายที่สุดศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 5 กระทง กระทงละ 6 เดือน นอกเหนือจากกรณีนักธุรกิจรายนี้แล้ว ยังมีกลุ่มผู้เสียหายในลักษณะใกล้เคียงกันอีกกว่า 70 ราย
อย่างไรก็ดี ‘Mr.V’ หลบหนีคำพิพากษาคดีดังกล่าวไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ทำงานกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง โดยในใบอนุญาตทำงาน (Workpermit) ระบุว่ามีสัญชาติกัวเตมาลา (อ่านประกอบ : ปูด‘อดีตผู้แทนการค้าไทย’หนีคดีตีเช็คเปล่า 5 ใบไป ตปท.หลังหลอกนักธุรกิจลงทุนสูญ 50 ล.)
เพื่อให้สาธารณชนเห็นภาพชัดขึ้น สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำหมายจับตัว ‘Mr.V’ มานำเสนอ ดังนี้
หมายจับดังกล่าวเป็นของศาลแขวงพระนครเหนือ ลงวันที่ 26 เม.ย. 2560 กรณีมีหลักฐานตามสมควรว่า ‘Mr.V’ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 โดยมีอายุความ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2560
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนที่ ‘Mr.V’ จะหลบหนีคำพิพากษาของศาล ว่ากันว่ามีการผ่องถ่ายทรัพย์สินจำนวนมากให้กับเครือญาติ โดยเฉพาะหุ้นในบริษัทเอกชน และอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง ต่อมามีการเตี๊ยมกับลูกหนี้รายหนึ่งให้ฟ้องล้มละลายตัวเอง เพื่อให้กลายเป็นบุคคลล้มละลาย หลังจากนั้นจึงหลบหนีไปที่ประเทศสิงคโปร์ และเปลี่ยนสัญชาติเป็นกัวเตมาลา
เมื่อไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว ได้ร่วมกับเครือญาติก่อตั้งบริษัทขึ้นมาหนึ่งแห่ง ทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำส่งไวน์ โดยที่หมายจับจากประเทศไทยไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ไม่ได้มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ทรัพย์สินของ ‘Mr.V’ ที่ถูกผ่องถ่ายให้กับเครือญาตินั้น กลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกันไปร้องเรียนต่อกรมบังคับคดี โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า กรมบังคับคดีได้เข้าไปอายัดทรัพย์สินบางส่วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในบริษัทเอกชนบางแห่ง และอสังหาริมทรัพย์ ก่อนจะนำมาขายทอดตลาด แต่ไม่มีใครซื้อ เนื่องจากเห็นว่าเป็นทรัพย์สินจำนวนน้อย
ทั้งหมดคือเบื้องหลังก่อนที่ ‘Mr.V’ จะหลบหนีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไปอยู่ที่สิงคโปร์ เปลี่ยนสัญชาติใหม่ แต่ยังคงทำธุรกิจเหมือนเดิม ?
อนึ่ง เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2563 สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเบอร์ติดต่อ ‘Mr.V’ จากระบบค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ 1133 พบว่า ใช้หมายเลข 02-719-90xx เมื่อติดต่อไปยังหมายเลขดังกล่าว มีหญิงสาวรายหนึ่งรับสาย ระบุว่า ‘Mr.V’ ไม่อยู่บ้าน หลังจากนั้นจึงให้ผู้ชายอีกรายมารับสายแทน ตอบเช่นเดียวกันว่า ‘Mr.V’ ไม่อยู่ และไม่ทราบเหมือนกันว่าไปที่ไหน เพราะไม่ได้บอกไว้
อย่างไรก็ดีหาก 'Mr.V' ประสงค์จะติดต่อชี้แจงสำนักข่าวอิศรา สามารถติดต่อมาได้ทางอีเมล์ [email protected] หรือเบอร์โทรศัพท์ 0-2241-3160 ได้ตลอดเวลา
อ่านประกอบ :
ปูด‘อดีตผู้แทนการค้าไทย’หนีคดีตีเช็คเปล่า 5 ใบไป ตปท.หลังหลอกนักธุรกิจลงทุนสูญ 50 ล.
เปิดตัว‘Mr.V’อดีตผู้แทนการค้าไทยหนีคดีตีเช็คเปล่า 50 ล.ไปสิงคโปร์-ใช้สัญชาติกัวเตมาลา
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage