"..ทางภาครัฐคาดการว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนที่มากกว่านี้ และอย่างไรก็ตามความยากลำบากประการหนึ่งในการตรวจหาโรคก็คือ มีผู้ที่ไปเที่ยนสถานบันเทิงที่ย่านอิแทวอนบางรายนั้นอาจจะไม่อยากให้มีการตรวจสอบว่าติดโรคหรือไม่ เนื่องจากในย่านอิแทวอนนั้นมีพื้นที่ที่ให้บริการกับกลุ่มรักร่วมเพศ ทั้งกลุ่มชายรักชาย กลุ่มไบเซ็กชวล หรือกลุ่มหญิงรักหญิงโดยเฉพาะ (กลุ่ม LGBTQ) ..."
ไนท์คลับในย่านอิแทวอน กำลังถูกจับตามอง!
เมื่อปรากฎข้อมูลในสื่อต่างประเทศว่า เป็นจุดแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัส แห่งใหม่ของประเทศเกาหลีใต้
โดยเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า เกาหลีใต้ มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ ถึง 34 ราย จากไนท์คลับในย่านอิแทวอน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศอยู่ที่ 10,874 ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 34 ราย นี้ ถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ทางการเกาหลีใต้ ต้องสั่งปิดไนท์คลับทั้งหมดในทันที
ล่าสุด สำนักข่าววอชิงตันโพสต์ของสหรัฐอเมริกา ได้ประมวลเหตุการณ์เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศเกาหลีใต้ครั้งนี้ไว้ มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
@ ตามรอยว่าใครอยู่ที่นั่นบ้าง?
ในขณะนี้เกาหลีใต้กำลังทำงานแข่งกับเวลาเพื่อที่จะดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสในย่านท่องเที่ยว ณ ใจกลางกรุงโซล และได้มีการออกมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทั้งประเทศได้มีลดระดับการเฝ้าระวังลงไปแล้ว
โดยสิ่งที่ทางการเกาหลีใต้กำลังดำเนินการ ณ เวลานี้ คือ การตามรอยว่าใครอยู่ที่นั่นบ้าง?
หลังจากปรากฎข่าวว่า เมื่อประมาณวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานการติดเชื้อใหม่ในย่านอิแทวอนจำนวนกว่า 34 รายซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา
ซึ่งขณะนี้หน่วยงานควบคุมโรคติดต่อเกาหลีใต้ ได้สืบทราบแล้วว่ามีชาวเกาหลีใต้อย่างน้อย 79 ราย ที่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการเหตุการณ์การแพร่เชื้อที่ไนท์คลับและบาร์ ซึ่งเป็นสถานที่ผู้ป่วยใหม่รายแรก หรือที่เรียกกันว่าผู้ป่วยหมายเลข 0 ได้เดินทางไปเที่ยว
โดยจุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดครั้งใหม่นี้นั้น เริ่มต้นมาจากการที่ผู้ป่วยซึ่งเป็นชายวัย 29 ปีได้เดินทางไปเที่ยวที่บาร์และไนท์คลับในย่านอิแทวอน ไม่กี่วันก่อนหน้าที่เขาจะเข้ารับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคโควิด 19 ในช่วงวันที่ 6 พ.ค. ซึ่งกรณีการติดเชื้อใหม่ของชายคนนี้ นับเป็นการติดเชื้อใหม่ในประเทศเป็นครั้งแรกของเกาหลีใต้ หลังจากที่ 4 วันก่อนหน้านั้นเกาหลีใต้ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นแม้แต่รายเดียว
มีการยืนยันข้อมูลว่า ปัจจัยช่วงเวลาก็เป็นอีกประการสำคัญของเหตุการณ์นี้ คือ ในช่วงวันที่ 6 พ.ค.ที่เกาหลีใต้ตรวจพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ เป็นวันเดียวกันกับที่เกาหลีใต้ได้ผ่อนปรนมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม และประกาศให้มีการเริ่มต้นการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ในช่วงวิกฤติไวรัสโควิด 19 ระบาด เพื่อที่จะให้ประเทศกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างฉับพลันนั้นส่งผลเป็นอย่างยิ่งต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลเกาหลีใต้ในการเตรียมการที่จะเปิดให้ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ต่างประเทศได้ให้การยอมรับเกาหลีใต้ว่ามีศักยภาพในการควบคุมโรคติดต่อในระยะแรกเริ่มเป็นอย่างมาก
ขณะที่นายมูนแจอึน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ออกแถลงการณ์ถึงประชาชนทั้งประเทศว่า ให้เตรียมรับการระบาดครั้งที่ 2 ในประเทศ และเตือนว่าการทำสงครามไวรัสนั้นเป็นสงครามที่ยาวนาน
@ความยากลำบากในการตรวจหาผู้ติดเชื้อ และผลกระทบที่ต่อกลุ่มรักร่วมเพศในเกาหลีใต้
เบื้องต้น ทางการเกาหลีใต้ คาดการณ์ว่า น่าจะมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนที่มากกว่านี้ และความยากลำบากประการหนึ่งในการตรวจหาโรคก็คือ ผู้ที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงที่ย่านอิแทวอนบางรายนั้นอาจจะไม่อยากให้มีการตรวจสอบว่าติดโรคหรือไม่ เนื่องจากในย่านอิแทวอนนั้นมีพื้นที่ที่ให้บริการกับกลุ่มรักร่วมเพศ ทั้งกลุ่มชายรักชาย กลุ่มไบเซ็กชวล หรือกลุ่มหญิงรักหญิงโดยเฉพาะ (กลุ่ม LGBTQ)
ทั้งนี้ แม้ว่าการรักร่วมเพศในเกาหลีใต้จะไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่การต่อต้าน และกีดกันกลุ่มรักร่วมเพศยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้ เพราะการแต่งงานในระหว่างเพศเดียวกันนั้นยังเป็นสิ่งที่กฎหมายยังไม่ให้การยอมรับ และที่สำคัญกลุ่มรักร่วมเพศก็ได้รับการคุ้มครองที่น้อยมากในเกาหลีใต้
มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ ได้ดำเนินการติดตามการใช้ชีวิตของผู้ป่วยรายแรกในวัย 29 ปีรายนี้ ย้อนหลังไปก่อนที่เขาจะถูกวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อ พบว่าเขาได้เคยโพสต์ข้อความในสื่อสังคมถึงสถานที่ที่เดินทางไปเที่ยว และตำแหน่งไนท์คลับต่างๆจำนวน 5 แห่ง
ซึ่งสื่อเกาหลีใต้ที่มีความเกี่ยวข้องกับโบสถ์ในศาสนาคริสต์ชื่อว่า Kookmin Ilbo ได้ระบุว่า สถานที่ที่ผู้ป่วยรายแรกโพสต์ข้อความไว้ว่าได้เดินทางไปนั้น ก็คือบาร์เกย์ และคลับสำหรับกลุ่มรักร่วมเพศ
ทั้งนี้ หลังจากการแพร่ระบาด คำว่า เกย์คลับ เกย์โคโรน่าไวรัส ได้กลายเป็นหนึ่งในคำที่ถูกค้นหามากที่สุดในสื่อสังคมออนไลน์ ของเกาหลีใต้ และคนในโลกออนไลน์ ของเกาหลีใต้ ก็แสดงออกด้วยการใช้ถ้อยคำที่รุนแรงและกล่าวโทษว่าการรักร่วมเพศเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจโดยอ้างว่าเกย์บาร์กลายเป็นเหตุให้มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
เว็บไซต์สำนักข่าว Kookmin Ilbo พาดหัวข่าวรายงานข่าวการติดเชื้อโควิด 19 ที่บาร์ย่านอิแทวอน
บาร์ Trunk หนึ่งในสิบ คลับรักร่วมเพศย่านอิแทวอน (อ่านประกอบเพิ่มเติมได้ที่ https://nateetaste.com/2019/09/22/itaewon-homohill-gayclub-gaybar-list-seoul-korea-2019-review/)
ขณะนี้ที่กลุ่ม Chingusai ซึ่งเป็นกลุ่มกิจกรรมรักร่วมเพศในเกาหลีใต้ได้ออกมาแสดงความกังวลว่าการรายงานข่าวของสื่อเพื่อควบคุมการติดเชื้อโควิด 19 นั้นอาจจะทำให้เกิดการต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศตามมา และจะไม่เป็นผลดีกับการต่อต้านการระบาดของโรคด้วย
“ภัยจากการรายงานของสื่อนั้นทำให้การติดตามว่าใครเป็นผู้ที่ได้ติดต่อกับผู้ที่แพร่เชื้อนั้นเป็นสิ่งที่ยากขึ้น เพราะผู้ที่ได้ติดต่อกับผู้ที่แพร่เชื้อนั้นจะเกิดความเกรงกลัวที่จะไปรายงานตัวเนื่องจากกลัวว่าจะถูกกีดกันทางสังคม” ถ้อยคำตอนหนึ่งของแถลงการณ์จากกลุ่ม Chingusai ระบุ
@การติดตามผู้ติดเชื้อที่ยากลำบากกับประเด็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
สำหรับระบบติดตามหาตัวผู้ติดเชื้ออย่างเข้มข้นของเกาหลีใต้ ว่าไปที่ไหนมาบ้างนั้น ที่ผ่านมาระบบนี้ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดของไวรัส
แค่ปัจจุบัน ระบบนี้กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่
โดยนายปาร์ค วอน ซอน (Park Won-soon) นายกเทศมนตรีกรุงโซลของเกาหลีใต้ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า มีชาวเกาหลีใต้อย่างน้อยประมาณ 3,000-5,500 ราย ที่ได้ไปท่องเที่ยวในย่านอิแทวอน ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ปลอม หรือไม่ยอมรับโทรศัพท์จากทางการ
นายปาร์ค วอน ซอน (Park Won-soon) นายกเทศมนตรีกรุงโซล (อ้างอิงรูปภาพจาก:https://www.tellerreport.com/)
ซึ่งบุคคลที่ทางการติดต่อไม่ได้นั้น ทางการกรุงโซลจะติดตามข้อมูลการเดินทางของบุคคลเหล่านี้ต่อไป โดยใช้วิธีการสำรวจกล้องวงจรปิดต่างๆและสำรวจจากข้อมูลการใช้บัตรเครคิต และอาจจะต้องเดินทางไปหาถึงบ้านเพื่อที่จะสอบถามข้อมูลต่อไป
“เราต้องการที่จะให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับคลับที่ย่านอิแทวอนสมัครใจที่จะรับการตรวจ แต่ถ้าหากไม่ได้ เราก็จะต้องมีมาตรการการบีบบังคับให้มีการตรวจต่อไป ซึ่งเราขอยืนยันว่าทางการโซลนั้นมีมาตรการตรวจในรูปแบบนิรนาม สำหรับบุคคลที่มีความกังวลในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคล” นายปาร์คกล่าว
ขณะที่ นาย ช็อง เซ-กยุน นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ ได้ออกมาเรียกร้องเช่นกันว่า ให้ผู้ที่เดินทางไปยังคลับได้รับการตรวจหาไวรัสโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นของกรุงโซล
เพราะถ้าหากลังเลแม้แต่วันเดียวก็อาจจะทำให้หนทางในการกลับเข้าสู่สภาวะปกติของประเทศเกาหลีใต้นั้น ต้องล่าช้าไปอีก 1 เดือน
เรียบเรียงจาก: https://www.washingtonpost.com/world/asia_pacific/tracing-south-koreas-latest-virus-outbreak-shoves-lgbtq-community-into-unwelcome-spotlight/2020/05/11/0da09036-9343-11ea-87a3-22d324235636_story.html
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/