"...ล่าสุดมีรายงานว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าไปตรวจสอบกรณีการลักลอบนำของเหลว เจลและสเปรย์ ที่ยึดจากผู้โดยสารแล้วนำไปขายตลาดนัด และได้รับการยืนยันจากพยานว่า ได้ซื้อสินค้าที่เป็นของเหลว เจลและสเปรย์ดังกล่าวแล้วนำออกมาขายจริง โดยดีเอสไอได้แจ้งเรื่องให้กับทางทอท.ทราบแล้ว เพื่อให้ทอท.ดำเนินการต่อไป..."
แม้จะไม่ปรากฏเป็นข่าวครึกโครมบนหน้าสื่อ แต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
หลังจากเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเข้าค้นรถตู้ทึบต้องสงสัย ยี่ห้อ ‘เชฟโรเร็ต’ กำลังวิ่งออกจากสนามบินสุวรรณภูมิมุ่งหน้าถนนบางนา-ตราด
ผลการตรวจค้นปรากฎว่าพบ (1) ถุงเครื่องสำอางค์ 8 ถุง (2) ถุงขวดน้ำมีน้ำ 12 ถุง (3) ถุงอาหารกระป๋องและนม 7 ถุง อยู่ภายในรถคันดังกล่าว โดยผู้ขับขี่รถตู้ฯ ยอมรับว่า ได้รับจ้างขนของดังกล่าวมาจากโรงคัดแยกขยะในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมระบุว่า ได้รับการว่าจ้างจากหญิงคนหนึ่ง ‘เพื่อจะนำไปทิ้ง’
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นผมเข้าเวรและเป็นผู้เขียนบันทึกประจำวันเอง” ร.ต.อ.อมรเทพ สุขันธ์ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)
ทำให้เกิดคำถามว่าเหตุใด เครื่องสำอางค์ ขวดน้ำ อาหารและนม เกือบ 30 ถุง จึงหลุดรอดจาก 'โรงคัดแยกขยะ' ในสนามบินสุวรรณภูมิ ออกไปยังภายนอกได้อย่างไร
ทั้งๆที่สัญญาจ้างเอกชนดำเนินการบริหารจัดการขยะในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ว่าจ้างเอกชนดำเนินการนั้น
กำหนดให้ผู้รับจ้างต้อง ‘นำของเหลว เจลและสเปรย์ และสิ่งของที่ไม่อนุญาตนำขึ้นเครื่อง ที่เก็บรวมรวบได้ในแต่ละวัน มาบริหารจัดการตามขั้นตอนที่ ทอท.กำหนดหรืออนุมัติ และส่งไปกำจัดโดยวิธีฝังกลบ’
แม้ว่าการตรวจค้นรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพบว่ามีการลักลอบขนเครื่องสำอางค์ ขนมและนม ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิดังกล่าวนั้น จะมีปริมาณไม่มากนัก เมื่อเทียบกับเครื่องสำอางค์ น้ำหอม เหล้า ยาสีฟัน เจลและสเปรย์ต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน ‘ตรวจค้นและยึด’ จากผู้โดยสาร ซึ่งแต่ละวันมีเป็นจำนวนมาก
แต่ทว่า 'ของใช้' ของผู้โดยสารที่ทอท.ตรวจยึดได้นั้น กลับสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นั่นก็คือมีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้าที่มีการระบุว่า 'เป็นของยึดได้จากผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง' เช่น ยาสีฟัน เจล และครีมต่างๆ ออกไปเร่ขายตามตลาดนัดต่างๆ
กระทั่งมีการร้องเรียนเรื่องนี้ไปยัง ทอท. แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันว่า 'ของใช้' ดังกล่าว เป็นของใช้ที่เจ้าหน้าที่ยึดจากผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่องบินที่สนามบินของทอท.หรือไม่
"ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ไม่ทราบว่าท่านมีภาพประกอบหรือข้อมูลเพิ่มเติมที่สามารถบ่งบอกได้ว่าสินค้าดังกล่าวรับมาจากท่าอากาศยานของทอท.เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไปค่ะ' เพจทางการของทอท. ‘AOT Official’ ระบุ
สำนักข่าวอิศราได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขบวนการลักลอบนำของเหลว เจลและสเปรย์ ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วนำไปขายในตลาดนัดต่างๆ โดยเฉพาะก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีการลักลอบซื้อขายของใช้เหล่านี้ ซึ่งตามปกติแล้วจะต้องถูกนำไปทำลาย ออกไปขายนอกสนามบินเป็นมูลค่าสูงถึงวันละ 2 แสนบาท
ส่วนวิธีการนำของเหลว เจลและสเปรย์ออกจากสนามบินนั้น จะมีตัวแทนนายหน้า 2 กลุ่ม ทำหน้าที่กระจายสินค้า โดยนำรถเข้าไปรับถุงบรรจุของเหลว เจลและสเปรย์ที่บริเวณหน้าโรงคัดแยกขยะ จากนั้นสินค้าจะถูกส่งไปให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัดต่อไป โดยแต่ละวันมีการขนถุงบรรจุของเหลวต่างๆเหล่านี้ 60-80 ถุง และบางวันอาจมีมากถึง 100 ถุง
สำนักข่าวอิศราพยายามติดต่อไปยัง 'น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณรัตน์' ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท. เพื่อสอบถามข้อเท็จริงในเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสนามบินและอาคาร (ฝศอ.) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้แต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลักลอบนำของเหลว เจลและสเปรย์ออกไปขาย พร้อมทั้งตั้งคณะทำงานเพื่อเข้ามาตรวจสอบขั้นตอนการบริการจัดการของเหลว เจลและสเปรย์ เพื่อความโปร่งใสในการทำงาน รวมทั้งแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้ผู้รับจ้างเป็นข้อมูลแล้ว
ล่าสุดมีรายงานว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าไปตรวจสอบกรณีการลักลอบนำของเหลว เจลและสเปรย์ ที่ยึดจากผู้โดยสารแล้วนำไปขายตลาดนัด และได้รับการยืนยันจากพยานว่า ได้ซื้อสินค้าที่เป็นของเหลว เจลและสเปรย์ดังกล่าวแล้วนำออกมาขายจริง โดยดีเอสไอได้แจ้งเรื่องให้กับทางทอท.ทราบแล้ว เพื่อให้ทอท.ดำเนินการต่อไป
สำนักข่าวอิศราจะตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และนำเสนอต่อสาธารณชนต่อไป
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage