2 ประเด็นวินิจฉัยหลัก หุ้น บ.วี-ลัค มีเดีย ‘ธนาธร’ ก่อนชี้ชะตา 20 พ.ย.62

เดิมพันอนาคตทางการเมือง! ขมวด 2 ประเด็นวินิจฉัยหลัก คดีถือหุ้นสื่อ บ.วี-ลัค มีเดีย ‘ธนาธร’ ก่อนศาลรัฐธรรมนูญพิพากษา 20 พ.ย.62 ไฮไลท์ 8 ม.ค. VS 21 มี.ค.62

pictaraaa000

20 พ.ย.2562 ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้อง กรณีถือครองหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ประกอบธุรกิจสื่อ เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามการลงสมัคร ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ ? ซึ่งถ้ามีความผิดจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และอาจจบชีวิตทางการเมืองชั่วคราว?

ในช่วงที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลดังกล่าวมารายงานไปแล้ว คดีนี้มีประเด็นพิจารณาหลัก 2 ประเด็น คือ 1.ขณะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. นายธนาธรถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด หรือไม่ 2. บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ทำธุรกิจสื่อหรือไม่?

กระนั้นขอขมวดให้เห็นอย่างชัดๆอีกครั้ง

@ ประเด็นแรก ขณะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. นายธนาธรถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด หรือไม่

ข้อเท็จจริงจากเอกสาร

บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด เดิมชื่อ บริษัท โซลิดมีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งวันที่ 10 ม.ค. 2551 ทุนล่าสุด 45 ล้านบาท ที่ตั้งอาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ เลขที่ 1768 หมู่ที่ 16 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร มีผู้ถือหุ้น 8 คน นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้นใหญ่ 3,375,000 หุ้น จากทั้งหมด 4,500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท

นับตั้งแต่จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2551- 21 มี.ค.2562 มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น 5 ครั้ง โดยการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4 วันที่ 12 ม.ค.2558 นายธนาธรเข้าถือหุ้น จำนวน 675,000 หุ้น น.ส.รวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยาเข้ามาถือหุ้น 225,000 หุ้น ตามลำดับ พร้อมกับ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายณรงค์ศักดิ์ โอปิลันธน์ นายอรัญ วงศ์งามนิล และ นางกมลฉัตร จึงรุ่งเรืองกิจ

ต่อมาวันที่ 21 มี.ค.2562 มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท ( ครั้งที่ 5) นายธนาธร นางรวิพรรณ ภรรยา นายณรงค์ศักดิ์ โอปิลันธน์ นายอรัญ วงศ์งามนิจ และ นางกมลฉัตร จึงรุ่งเรืองกิจ รวม 5 คน ถอนหุ้นออกจากการเป็นผู้ถือหุ้น และหุ้นจำนวนทั้งหมดของบุคคลดังกล่าวถูกโอนไปให้นางสมพรจนถึงปัจจุบัน

หากพิจารณาจากเอกสารการจดทะเบียนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัทฯได้นำส่ง บอจ.5 เพื่อแสดงให้แก่ บุคคลภายนอกได้รับทราบถึงการโอนหุ้นดังกล่าว เมื่อ 21 มี.ค.2562 หรือมีการโอนหุ้นเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2562 หลังสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.

คำชี้แจงของนายธนาธร นางสมพร และนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ

1. นายธนาธรเดินทางกลับจากการหาเสียงในจ.บุรีรัมย์ กลับมาโอนหุ้นที่บ้านเมื่อตอนเย็นวันที่ 8 ม.ค.2562 โดย มีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยนางสมพร 2 คน นายธนาธร นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายณัฐนนท์ อภินันท์ ทนายความ ทนายความโนตารี ทำการประชุมและลงนามโอนหุ้นกันในห้องหนังสือที่บ้านของนายธนาธร

2. นางสมพรมอบเช็คเงินค่าหุ้นให้นายธนาธรกับ นางรวิพรรณ ภรรยา จำนวน 2 ใบ 6,750,000 บาท และ 2,250,000 บาท (รวม 2 คน 9 ล้าน)

3. ยังไม่ได้จดทะเบียนแจ้งต่อนายทะเบียนกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น (อบจ.5) ในวันเดียวกันทันที นางสมพรอ้างว่า บริหารบริษัท 40 กว่าแห่ง ปกติการยื่น บอจ.5 จะเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนยื่นงบดุล

4. เป็นการโอนหุ้นภายในกันเอง จึงไม่มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เนื่องจากทุกคนงานยุ่ง นายธนาธรก็เตรียมตัวมาเล่นการเมือง มีความต้องถอนหุ้นออกจากเครือไทยซัมมิททั้งหมด

5. ในวันดังกล่าวมีการเซ็นโอนหุ้นในเครือไทยซัมมิทหลายบริษัท แต่มีการชำระเงินเฉพาะบริษัท วี-ลัคมีเดีย ส่วนหนึ่งเพราะต้องการปิดบริษัทนี้ และการนำเงินจำนวนมากมาชำระค่าหุ้นหลาย 10 บริษัทต้องใช้เวลาเตรียมการนานพอสมควร

6.หลังจากโอนหุ้นวันที่ 8 ม.ค.2562 ต่อมาวันที่ 14 ม.ค.2562 นางสมพรโอนหุ้นต่อให้หลานชาย 2 คน เข้ามาศึกษาการทำธุรกิจของบริษัทฯและติดตามหนี้สินค้างชำระ แต่พอหลานเข้ามาแล้วเห็นว่าทำต่อไม่ไหว หลานชายคนจึงได้โอนหุ้นกลับให้นางสมพรเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2562

7.นายธนาธรมอบเช็คเงินค่าโอนหุ้นให้นางวริพรรณแต่นางรวิพรรณมิได้นำไปขึ้นเงินในทันที เนื่องจากไม่สะดวก เลี้ยงลูกอ่อน ปกติจะรวบรวมหลายๆฉบับแล้วไปขึ้นเงินครั้งเดียว โดยเช็คฉบับนี้นำมาขึ้นเมื่อเมื่อเดือน พ.ค. (16 พ.ค.2562)

pictaraaa

@ ประเด็นที่สอง บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ทำธุรกิจสื่อหรือไม่?

ข้อเท็จจริงจากเอกสาร

ข้อมูลวัตถุประสงค์ (แบบ ว.)

บริษัทฯแจ้งวัตถุที่ประสงค์ (แบบ ว.) 31 ข้อ แบ่งเป็นวัตถุที่ประสงค์ทั่วไป 6 ข้อ (ข้อ 1-ข้อ 6) วัตถุที่ประสงค์ประกอบธุรกิจบริการ 25 ข้อ (ข้อ 7-ข้อ 31)

ข้อ (23) ประกอบกิจการออกหนังสือพิมพ์ โรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย

ข้อ (25) ประกอบกิจการโฆษณาด้วยสื่อการโฆษณาทุกอย่าง เช่น โฆษณาในหนังสือพิมพ์ แผ่นป้ายโฆษณา สิ่งพิมพ์ ใบปลิว กระจายเสียงผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ โทรเลข เคเบิลทีวี โทรสาร การสื่อสารด้วยระบบดาวเทียม และสื่ออื่นใด

ข้อ (26) รับออกแบบโฆษณา พิมพ์ภาพหรือแบบโฆษณา รับทำการโฆษณาด้วยภาพหรือทางเสียง

ข้อ (31) ประกอบกิจการให้บริการ ดำเนินการและส่งเสริมบริการระบบเครือข่ายโทรคมนาคมในประเทศ ระหว่างประเทศ รวมถึงระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายโทรคมนาคมอื่นๆ รวมทั้งผลิตเว็บเพจ โฮมเพจ เว็บไซต์ ข้อมูลข่าวสารและสื่อต่างๆ เพื่อเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ทั้งนี้ โดยได้รับสิทธิหรืออนุญาตจากส่วนราชการ รัฐวิสหกิจหรือบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ แบบ สสช.1 หรือ แบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัท ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับที่ 83 (พ.ศ.2515) ยื่นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท เมื่อวันที่ 10 ม.ค.25551 หมวดกิจกรรม ระบุ การขายส่ง การขายปลีก และอื่นๆ

ระบุสินค้า/บริการที่ประกอบการ 1 ข้อ

1.ประกอบกิจการออกหนังสือพิมพ์ โรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย

ข้อมูลงบการเงิน

งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.2560 รอบปี 2560 สินทรัพย์ 22,761,568.70 บาท รอบปี 2559 สินทรัพย์ 22,868,646.34 บาท งบกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2560

ปี 2560 รายได้จากการขายและบริการ 18,536,225.33 บาท รายได้อื่น 290,175.73 บาท รายได้รวม 18,826,401.06 บาท

ปี 2559 รายได้จากกการขายและบริการ 38,456,452.26 บาท รายได้อื่น 558,902.64 บาท รวมรายได้ 39,015,354.90 บาท

หมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.2560

ข้อ 1 ข้อมูลทั่วไป ระบุ “ประกอบธุรกิจผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม”

ข้อ 3 นโยบายการบัญชีที่สำคัญ “ข้อ 3.1 การรับรู้รายได้และค่าใช้จ่าย บริษัทบันทึกการรับรู้รายได้จากการขายนิตยสารเมื่อผู้รับฝากขาย ขายนิตยสารได้แล้ว บริษัทบันทึกรับรู้รายได้ค่าโฆษณา ค่าสมาชิก รายได้อื่น และค่าใช้จ่ายตามเกณฑ์คงค้าง”

เมื่อพิจารณาจากเอกสาร เห็นได้ว่า บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ประกอบธุรกิจสื่อชัดเจน

ข้อมูลการจดทะเบียนเลิกกิจการ

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2562 บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด โดยนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจได้มอบอำนาจให้นายฉัตรชัย เตชะมนตรีกุล ยื่นคำขอจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชี บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ต่อสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร โดยแนบเอกสารรายงานการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2562 ณ ที่บ้านเลขที่ 43/10 หมู่ที่ 6 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ยื่นแสดงเป็นหลักฐาน

รายงานการประชุมผู้วิสามัญผู้ถือหุ้นฉบับดังกล่าวระบุว่า มีผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะเข้าร่วมประชุม จำนวน 5 คน นับจำนวนหุ้นได้ 4,500,000 หุ้น นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานที่ประชุม วาระพิจารณาให้เลิกบริษัท นางสมพรแถลงว่าเนื่องจากบริษัทมีผลประกอบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ที่ประชุมพิจารณาว่าจะเลิกบริษัทหรือไม่ ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้เลิกบริษัทตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.2562

(อ่านเรื่องประกอบ:หลักฐาน กกต. VS คำชี้แจง‘ธนาธร’ ประเด็น ‘วี-ลัค มีเดีย’ ทำสื่อหรือไม่ ?)

ประเด็นนี้เห็นได้ว่า บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด เพิ่งจดทะเบียนเลิกกิจการเมื่อ 14 มิ.ย.2562 หลังจากนายธนาธรได้รับเลือกตั้ง เป็น ส.ส.แล้ว

คำชี้แจงจากนายธนาธร

บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ผลิตนิตยสารWHO ฉบับสุดท้ายเดือนต.ค.2559 ส่วนหนังสือจิ๊บจิ๊บ บริษัทวี-ลัคฯ เป็นแค่ผู้ผลิต ผู้เป็นเจ้าของหนังสือดังกล่าวคือบริษัทนกแอร์ ส่วนหนังสือ Wealth บริษัทวี-ลัคฯเป็นผู้ผลิต แต่ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นเจ้าของ และปิดกิจการตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 2561 ยุติการดำเนินการ ไม่มีพนักงานและไม่มีรายได้ตั้งแต่ 26 พ.ย.2561 เมื่อบริษัทฯยุติกิจการและไม่มีผลิตภัณฑ์แล้ว จึงไม่เป็นสื่อมวลชน

ข้อมูลแนวคำวิจฉัยของศาลฎีกาคดี 10 ผู้สมัคร ส.ส. ถือครองหุ้นสื่อ

อย่างก็ตามประเด็นข้อต่อสู้ของนายธนาธรในเรื่องบริษัทปิดกิจการไปแล้วนั้นแนวคำวินิจฉัยในศาลฎีกา (คดีของนายธนาธรขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ) คดีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ไม่ประกาศรายชื่อเป็นผู้สมัคร เนื่องจากขาดคุณสมบัติ กรณีเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นสื่อมวลชน ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา จำนวนทั้งสิ้น 10 คดี (เท่าที่ตรวจสอบพบ) แบ่งเป็นคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเห็นชอบกับคำวินิจฉัยของ กกต. 9 คดี (ราย) และ เป็นคดีที่ศาลฎีกาพิพากษาว่าผู้สมัครไม่ขาดคุณสมบัติ ให้ กกต.ประกาศรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส. 1 คดี (ราย) 3 ใน 9 ราย ได้แก่ คดีนายอนุสรณ์ เกษมวรรณ เจ้าของหนังสือพิมพ์ ชื่อสื่อกลางสภาไทย คดี นายสุวัฒน์ชัย สวัสดี เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ โคราชการเมือง และ คดี นายทวีป ขวัญบุรี เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สื่อกลางรายวัน ทั้งสามคนอ้างว่า เป็นเจ้าของจริงแต่หยุดตีพิมพ์มาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว แต่ ไม่ได้จดทะเบียนยกเลิกต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วันตามพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ศาลฎีกาวินิจฉัยถือว่าบุคคลดังกล่าวยังเป็นเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส.

นอกจากนี้ยังมีคดีนายติณณ์ ศรีงาม เจ้าของหนังสือพิมพ์สื่อ ศิลป์เมืองกําแพง ผู้สมัครเป็นเจ้าของสื่อ แต่แจ้งยกเลิกภายหลังการสมัคร ส.ส. , คดีนายวิวิธชิตวัน สุวรรณรัตน์ เจ้าของหนังสือพิมพ์อ่าวไทย วอยซ์ อ้างว่า ได้ลาออกจากการเป็นบรรณาธิการ และ เจ้าของหนังสือพิมพ์ ก่อนยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แต่ไม่มีหลักฐานการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลของเจ้าหน้าที่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ายังคงอยู่ในฐานะเป็นเจ้าของกิจการ

จากข้อมูลทั้งหมด ประเด็นไฮไลท์น่าจะอยู่ที่ ขณะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. นายธนาธรยังถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด หรือไม่? ศาลรัฐธรรมนูญจะรับฟังตามคำเบิกความของฝ่ายนายธนาธรว่าได้โอนหุ้นแล้วเมื่อ 8 ม.ค.2562 หรือ รับฟังตามคำร้องตามที่ปรากฏในเอกสารทางราชการของ กกต.ว่า มีการโอนหุ้น 21 มี.ค.2562 ถ้าวินิจฉัยว่าโอนหุ้นไปแล้ว อาจไม่ต้องวินิจฉัยในประเด็นที่สอง?

รอดูไม่กี่อึดใจ

อ่านเรื่องประกอบ:

@เรื่องที่เกี่ยวข้องกับบัญชีทรัพย์สิน

บ.ในลาว 20 ล.‘ธนาธร’ชื่อเดียว‘วัน โอ ซี ฯ’ใน จ.ปทุมธานี ปิดตัวแล้ว-ยังไม่ชำระบัญชี

เปิดตัว 2 บ.ในลาว‘ธนาธร-เมีย’ ทำปศุสัตว์-ปรุงแต่งน้ำยาง ทุนรวม 5 แสนดอลฯ

หุ้นส่วนธุรกิจ ‘ธนาธร-ไทยซัมมิท’ คือ ญี่ปุน-สหรัฐ ไม่มีชาวจีน

‘ธนาธร’ปี 61 เสียภาษี 2.9 ล. -บัญชีทรัพย์สิน ไม่มีรายได้จากโอนหุ้น 14 บริษัทปี 62

INFO: ‘ธนาธร’ กับการโอนหุ้น 14 บริษัท

ถ้าไปขอดูจะเห็นเอง! 'ธนาธร' ยันแจ้งรายได้โอนหุ้น 'แม่-น้อง-ไทยซัมมิท' ป.ป.ช.หมดแล้ว

โอนหุ้น วี-ลัค มีเดีย -14 บริษัท 650 ล. ไฉน! ‘ธนาธร’ไม่แจ้ง มีรายได้ ต่อ ป.ป.ช.?

ไม่ใช่แค่ วี-ลัค มีเดีย! 8 ม.ค.62 ‘ธนาธร’ต้องได้รับเช็คค่าโอนหุ้นอีก 10 ใบ 387 ล.?

ย้อนข้อมูล‘ธนาธร’โอนหุ้น 14 บริษัทให้‘น้องชาย-ครอบครัว’ หลังแถลงทำ Blind Trust