
"...จำเลยที่ 1 เป็นผู้ริเริ่มนำเสนอโครงการตั้งแต่ต้น เป็นผู้อนุมัติในสัญญาจ้าง และได้เข้าร่วมการประชุมสัมมนาด้วยโดยตลอด จึงย่อมทราบ รายละเอียดของงานตามสัญญาจ้างจำเลยที่ 4 ผู้รับจ้างยังปฏิบัติไม่ถูกต้องครบถ้วน ตามสัญญาจ้างดังกล่าว จึงมีเจตนาพิเศษที่ต้องการจะเบิกจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมตามนโยบายหาเสียงของตน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ ทางราชการเทศบาลเมืองต้นเปา อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ และตามสัญญาจ้างดังกล่าว ..."
คดีกล่าวหา นายสุภคิน วงศ์ษา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่กับพวก ทุจริตโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า รายย่อยในเขตเทศบาลเมืองต้นเปา ปีงบประมาณ 2555 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 ศาลอุทธรณ์ ได้ยกคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 จากเดิม ยกฟ้อง แก้เป็น ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วมีคำพิพากษาหรือคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
หลังจากที่ก่อนหน้านั้น ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษายกฟ้อง อันเป็นผลสืบเนื่องจากในระหว่างการพิจารณาคดีนี้ จำเลยบางราย ได้ยื่นคำขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้น ในปัญหาข้อกฎหมายว่า เนื่องจากคดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งที่ 305/2558 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2558 แต่งตั้งองค์คณะพนักงานไต่สวนเพื่อดำเนินการ ไต่สวนข้อเท็จจริง และได้แจ้งรายงานและสำนวนการไต่สวนคำวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นผู้กระทำผิด และในการประชุมคณะไต่สวน ครั้งที่ 69/2564 ตามระยะเวลาการไต่สวนจนถึงวันที่รายงานการไต่สวน และมีความเห็นหรือวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาสองปี ตามมาตรา 48 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ประกอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบ และไต่สวน พ.ศ. 2561 จึงเป็นการสอบสวนไต่สวนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ขณะที่ ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น เพราะบทบัญญัติพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 48 วรรคหนึ่ง เป็นเพียงกำหนด ระยะเวลาดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อเร่งรัดให้การไต่สวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ไม่ใช่กำหนดอายุความฟ้องร้องคดีอาญาที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 จึงไม่มีผลกระทบต่ออำนาจฟ้องของโจทก์ ดังจะเห็นได้จากความในมาตรา 48 วรรคท้าย ที่บัญญัติว่า “ภายใต้กำหนดอายุความ เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสาม หรือตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้แล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังคงมีหน้าที่และอำนาจที่จะดำเนินการไต่สวน และมีความเห็น หรือวินิจฉัย หรือดำเนินการตามหน้าที่และ อำนาจต่อไป แต่ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสอบสวนและดำเนินการลงโทษ ผู้ที่เกี่ยวข้องตามควรแก่กรณีโดยเร็ว”
ดังนั้น เมื่อคดีนี้โจทก์เห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสี่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 151, 157, 162 (1) (4) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172,192 และโจทก์ฟ้องภายในอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 แล้ว
โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้
แต่เนื่องจาก ศาลชั้นต้นยังมิได้วินิจฉัยในเนื้อหาแห่งคดีว่า จำเลยทั้งสี่ กระทำความผิดตามฟ้อง หรือไม่ ดังนั้น เพื่อให้การวินิจฉัยเป็นไปตามลำดับชั้นศาล จึงให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยในประเด็นปัญหาอื่นต่อไป

- ศ.อุทธรณ์ สั่งย้อนสำนวนใหม่ คดีอดีตนายกเทศฯต้นเปา-พวก ทุจริตโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ
- เปิดคำพิพากษา ศ.อุทธรณ์ (1) ไฉนสั่งย้อนสำนวนใหม่คดีทุจริตอดีตนายกเทศฯต้นเปา-พวก
ต่อไปนี้เป็นพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้ ของ นายสุภคิน วงศ์ษา อดีตนายกเทศมนตรีเมืองต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่กับพวก ตามคำฟ้องโจทก์ ซึ่งมีประเด็นสำคัญอยู่ที่ โครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการของผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้า รายย่อยในเขตเทศบาลเมืองต้นเปา เป็นโครงการที่เกิดขึ้นตามนโยบายหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองต้นเปา ว่าจะสนับสนุนช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยในเขตเทศบาลเมืองต้นเปา แต่ในขั้นตอนการดำเนินงาน มีการจัดอบรม 2 ครั้ง แต่ในครั้งที่ 2 ซึ่งมีการจ่ายเงินให้ผู้เข้าร่วมการอบรมรายละ 3 ,000 บาท เกิดขึ้นภายหลังจากที่มีการเบิกจ่ายค่าจ้างงวดให้แก่ผู้รับจ้าง นอกจากนี้ ในการจัดงานดังกล่าว ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์โครงการและกิจกรรมการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ มาตรฐานคุณภาพสินค้าและบริการของผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย รวมถึงการจัดสัมมนาที่ปรึกษาไม่ได้ลักษณะการแบ่งกลุ่มอภิปรายหรือให้เข้าร่วมอบรมลงมือทำกิจกรรมใด ๆ ที่จะเรียกว่า เป็นการสัมมนาเชิงปฏิบัติการตามที่ระบุในสัญญาจ้าง อันเป็นการตรวจรับงานเท็จ ทำให้ราชการเสียหาย
ปรากฏรายละเอียดดังต่อไปนี้
หนึ่ง : รายชื่อจำเลย
จำเลยในคดีนี้ มี 4 ราย คือ นายสุภคิน วงศ์ษา จำเลยที่ 1 , นายชาย ถนอมสัตย์ จำเลยที่ 2 , นางสาวสิชาพัชร์ วงค์ใหม่รัตนกร หรือ นางสาวอภิญญา วงค์ใหม่ จำเลยที่ 3 และ นายชวชาติ สุคนธปฏิภาค จำเลยที่ 4
สอง : มูลคดี
มูลคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปีงบประมาณ 2555 เทศบาลเมืองต้นเปาดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการของผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้า รายย่อยในเขตเทศบาลเมืองต้นเปา เดิมโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่เกิดขึ้นตามนโยบายหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองต้นเปา จำเลยที่ 1 ว่าจะสนับสนุนช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยในเขตเทศบาลเมืองต้นเปา
ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองต้นเปา จึงได้กำหนดโครงการดังกล่าวไว้ในแผนพัฒนาสามปีของเทศบาลเมืองต้นเปาในชื่อ “โครงการสนับสนุน ส่งเสริมการค้าให้แก่พ่อค้ารายย่อยในตำบลต้นเปา อย่างน้อย 200 ราย ต่อปี”
ต่อมาวันที่ 14 มีนาคม 2555 ในการประชุมสภาเทศบาลเมืองต้นเปา สมัยสามัญ สมัยแรก ครั้งที่ 1 ประจำปี 2555 จำเลยที่ 1 ได้เสนอโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการของผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยต่อที่ประชุม เพื่อจ่ายขาดเงินสะสมเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว โดยกำหนดงบประมาณ 1,245,600 บาท ซึ่งที่ประชุมสภาเทศบาลเมืองต้นเปา มีมติเห็นชอบ
ภายหลังจำเลยที่ 1 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองงบประมาณโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการของผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย เพื่อดำเนินการสำรวจร้านค้า และพิจารณาคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ ตามคำสั่งเทศบาลเมืองต้นเปา ที่ 298/2555 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2555 ซึ่งคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองงบประมาณโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้า และบริการของผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยชุดดังกล่าว มีจำเลยที่ 1 เป็นประธาน พิจารณาได้ข้อสรุปว่าจะต้องมีการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานสินค้า และบริการของพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย และมีการกำหนดหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับ การสนับสนุนเงินตามโครงการ
ต่อมาจำเลยที่ 1 มอบหมายให้กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมทำการเขียนโครงการและข้อกำหนดของงาน (Term of Reference) โดยมีจำเลยที่ 3 พนักงานสาธารณสุขชุมชน 5 ได้เขียนข้อกำหนดของงานการว่าจ้าง ที่ปรึกษาโครงการดังกล่าวตามเอกสารตัวอย่าง ซึ่งจำเลยที่ 2 ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมรับมอบมาจากจำเลยที่ 4 นำมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
เมื่อดำเนินการเขียนโครงการและข้อกำหนดของงาน (Term of Reference) แล้วเสร็จ จำเลยที่ 3 ได้นำเสนอตามสายบังคับบัญชาโดยเสนอผ่านจำเลยที่ 2 เพื่อเสนอ นาย ช. (สงวนชื่อ-นามสกุล) ปลัดเทศบาลเมืองต้นเปา ซึ่งนายช. ทำความเห็นว่า ควรอนุมัติและแจ้งดำเนินการตามระเบียบ แล้วนำเสนอนาย พ. รองนายกเทศมนตรีเมืองต้นเปา ซึ่งนาย พ. ทำความเห็นว่า ควรอนุมัติตามเสนอ แล้วนำเสนอจำเลยที่ 1
โดยจำเลยที่ 1 ทำความเห็นว่า อนุมัติข้อกำหนดของงาน (Term of Reference) เพื่อใช้เป็นแนวทางประกอบการจัดจ้างต่อไป
จากนั้น จำเลยที่ 3 จัดทำบันทึกข้อความกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ที่ 63304/ลงวันที่ 5 เมษายน 2555 ขออนุมัติดำเนินการตามข้อกำหนดของงาน (Term of Reference) โครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย โดยเห็นควรทำการอนุมัติให้ทำการจัดจ้างผู้ที่มีความเหมาะสม เป็นที่ปรึกษาดำเนินการตามข้อกำหนดของงาน (Term of Reference) โครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยเสนอผ่านจำเลยที่ 2 และนาย ช. ซึ่งนาย ช. มีความเห็นว่า ควรอนุมัติแจ้งดำเนินการตามระเบียบ แล้วนำเสนอนาย พ. ซึ่งนาย พ. มีความเห็นว่า เห็นควรอนุมัติตามเสนอ แล้วนำเสนอจำเลยที่ 1
สาม : อนุมัติจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีตกลงเร่งด่วน
โดย จำเลยที่ 1 มีความเห็นว่า อนุมัติเพื่อประโยชน์ทางราชการ ดำเนินการจัดจ้าง ที่ปรึกษาโดยวิธีตกลงโดยเร่งด่วนด้วย
ต่อมาวันที่ 12 เมษายน 2555 เทศบาลเมืองต้นเปาโดยนาง ท. เจ้าหน้าที่พัสดุทำบันทึกข้อความงานพัสดุเทศบาลเมืองต้นเปา ที่ 63302/ ลงวันที่ 12 เมษายน 2555 ขออนุมัติดำเนินการจ้างที่ปรึกษาโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้า และบริการของผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย พร้อมทั้งขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีตกลง และคณะกรรมการตรวจการจ้าง เสนอผ่านนาย ว. หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ ผ่านนาย ย. และ จำเลยที่ 1
โดยจำเลยที่ 1 สั่งการให้ดำเนินการโดยด่วน
จากนั้นเทศบาลเมืองต้นเปา มีคำสั่งที่ 352/2555 ลงวันที่ 12 เมษายน 2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษา และทำหนังสือเชิญชวนเสนอเป็นที่ปรึกษา ไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา โดยจำเลยที่ 4 มีหนังสือที่ ศธ 0583.110/50 ลงวันที่ 18 เมษายน 2555 ขอยื่นข้อเสนอเป็นที่ปรึกษาโครงการดังกล่าวมายังเทศบาลเมืองต้นเปา
ต่อมาเทศบาลเมืองต้นเปาจัดทำบันทึก สำนักงานเทศบาลเมืองต้นเปา ที่ 63302/ ลงวันที่ 18 เมษายน 2555 รายงานผลการพิจารณาดำเนินการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีตกลงว่า เห็นควรจ้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา โดยจำเลยที่ 4 เป็นที่ปรึกษาตามโครงการส่งเสริมและ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการของผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ตามขอบเขตโดยละเอียดของงานจ้างที่ปรึกษา
จากนั้นวันที่ 20 เมษายน 2555 เทศบาลเมืองต้นเปาโดยจำเลยที่ 1 ทำสัญญาจ้างที่ปรึกษาเลขที่ 1/2555 กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา โดยจำเลยที่ 4 ได้รับมอบอำนาจจาก อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ซึ่งสัญญาจ้างที่ปรึกษากำหนด ตกลงจ่ายค่าจ้าง 1,245,600 บาท
กำหนดแบ่งจ่ายค่าจ้างเป็นงวด 2 งวด งวดที่ 1 เทศบาลเมืองต้นเปาจะจ่ายค่าจ้างเป็นเงิน 373,680 บาท เมื่อที่ปรึกษาได้ส่งมอบแผนการสัมมนาเชิงปฏิบัติการร่วมกับผู้ประกอบการค้าบริการ ร้านค้า ร้านชำ ร้านอาหาร แผงลอย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และในงวดที่ 2 เทศบาลเมืองต้นเปาจะจ่ายค่าจ้างเป็นเงิน 871,920 บาท เมื่อที่ปรึกษาได้ส่งมอบงานที่มีการดำเนินงานครบถ้วน โดยมีเนื้อหาประกอบด้วยรายงานสรุปผลการปฏิบัติการโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ ของผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) พร้อม CD-ROM ให้แล้วเสร็จ และจ่ายเงินโดยตรงแก่ที่ปรึกษาในนามจำเลยที่ 4
ต่อมาในงวดที่ 1 จำเลยที่ 4 ที่ปรึกษาในโครงการได้นำข้อมูลผู้ประกอบการ 218 ราย ที่คณะกรรมการกลั่นกรองงบประมาณฯ ได้ทำการพิจารณาคัดเลือกแล้ว นำไปแยกรายชื่อเป็นรายหมู่บ้านพร้อมจัดทำแผนการประชุมเชิงปฏิบัติการ และจัดทำหนังสือส่งมอบงานงวดที่ 1 ในวันที่ 23 เมษายน 2555 ลงนามโดยจำเลยที่ 4
โดยคณะกรรมการตรวจการจ้างตามคำสั่งเทศบาลเมืองต้นเปา ที่ 352/2555 ลงวันที่ 12 เมษายน 2555 พร้อมกับทำการตรวจการจ้างของคณะที่ปรึกษา โดยจัดทำใบตรวจการจ้างฉบับลงวันที่ 23 เมษายน 2555 ซึ่งระบุว่า คณะกรรมการตรวจการจ้างเห็นว่า จำเลยที่ 4 ได้ดำเนินการตามโครงการดังกล่าวถูกต้องตามสัญญาจ้างที่ปรึกษาแล้วเสร็จวันที่ 23 เมษายน 2555 เห็นสมควรจ่ายเงินงวดที่ 1 เป็นเงิน 373,680 บาท ให้แก่ที่ปรึกษาต่อไปได้
จากนั้นวันที่ 24 เมษายน 2555 เทศบาลเมืองต้นเปาโดยกองคลังจัดทำฎีกาเบิกจ่ายเลขที่ 1249/55 วันที่คลังรับ 24 เมษายน 2555 เสนอเพื่อพิจารณาอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้แก่จำเลยที่ 4 โดยมีจำเลยที่ 2 ลงนามในฐานะหัวหน้าหน่วยงานผู้เบิก นางสาว ข. เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ลงนามว่าทำการตรวจสอบยอดเงินคงเหลือและเอกสารประกอบถูกต้อง นาย ว. ผู้อำนวยการกองคลัง ลงนามตรวจสอบ นาย ช. ปลัดเทศบาลเมืองต้นเปา ลงนามอนุมัติให้จ่ายได้
โดยได้อนุมัติ เบิกเงินค่าจ้างงวดที่ 1 พร้อมหักเงินประกันผลงานตามสัญญาจ้างเป็นจำนวนเงิน ที่จ่ายสุทธิ 354,996 บาท โดยออกเช็คในนามจำเลยที่ 4 ซึ่งจำเลยที่ 4 ได้ นำส่งเงินรายได้เข้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาออกใบเสร็จรับเงิน เป็นหลักฐาน
ต่อมาจำเลยที่ 4 ได้ขอเบิกเงินที่เหลือส่งค่าธรรมเนียมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มาใช้จ่ายในการดำเนินการตามงวดแรก ซึ่งในการจัดประชุมครั้งแรก ได้มีการจัดประชุมผู้เข้าร่วมโครงการที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 23 เมษายน 2555 โดยมีการเลี้ยงอาหารว่างและอาหารกลางวันแจกเบี้ยเลี้ยงให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ คนละ 100 บาท และจัดรถรับส่งผู้ร่วมอบรมจากสำนักงานเทศบาลเมืองต้นเปา แห่งเก่ามายังโรงแรม โดยมีจำเลยที่ 1 และที่ 4 เข้าร่วมการประชุมสัมมนาด้วย
ในงานงวดที่ 2 ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 จำเลยที่ 4 ที่ปรึกษาโครงการ ได้ส่งมอบงานจ้างงวดที่ 2 โดยคณะทำงานที่ปรึกษาจัดทำและดำเนินการ กิจกรรมตามสัญญาจ้างเสร็จสิ้นครบถ้วนแล้ว โดยคณะกรรมการตรวจการจ้าง ตามคำสั่งเทศบาลเมืองต้นเปา ที่ 352/2555 พร้อมกันทำการตรวจการจ้างของ คณะที่ปรึกษา โดยจัดทำใบตรวจการจ้างฉบับลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 ซึ่งระบุว่า คณะกรรมการตรวจการจ้างเห็นว่า จำเลยที่ 4 ได้ดำเนินการตามโครงการ ดังกล่าวถูกต้องตาม เห็นสมควรจ่ายเงินงวดที่ 2 เป็นเงิน 871,920 บาท ให้แก่ที่ปรึกษาต่อไป
จากนั้นเทศบาลเมืองต้นเปาโดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมจัดทำบันทึกข้อความ สำนักงานเทศบาลเมืองต้นเปา ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2555 เรื่องขออนุมัติ จ่ายขาดเงินสะสม โดยจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อในฐานะผู้อำนวยการ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแล้วส่งมากองคลัง
ต่อมากองคลังจัดทำฎีกาเสนอเพื่อพิจารณาอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้แก่จำเลยที่ 4 โดยมีจำเลยที่ 2 ลงนามในฐานะหัวหน้าหน่วยงานผู้เบิก นางสาว ข. เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ลงนามว่าทำการ ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือและเอกสารประกอบถูกต้อง นาย ว. ผู้อำนวยการกองคลัง ลงนามตรวจสอบ นาย ช. ปลัดเทศบาลเมืองต้นเปา ลงนามอนุมัติให้จ่ายได้ โดยได้อนุมัติเบิกเงินค่าจ้าง งวดที่ 2 พร้อมทั้งคืนเงินประกันงวดที่ 1 และงวดที่ 2 เหลือจำนวนเงินที่จ่ายสุทธิ 890,604 บาท โดยออกเช็คในนามจำเลยที่ 4 ซึ่งจำเลยที่ 4 ได้นำส่งเงินรายได้เข้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ออกใบเสร็จรับเงิน เป็นหลักฐาน
ต่อมาจำเลยที่ 4 ได้ขอเบิกเงินที่เหลือค่าธรรมเนียมมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ในงวดที่ 2 มาจัดประชุมเข้าร่วมโครงการที่โรงแรม เชียงใหม่ภูคำครั้งที่ 2 ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2555
จากนั้นที่ปรึกษาโครงการ ได้ให้ผู้เข้าร่วมโครงการทั้ง 218 ราย ลงชื่อรับเงินสนับสนุนตามโครงการคนละ 3,000 บาท อันเป็นไปตามความต้องการของจำเลยที่ 4 ตามนโยบายหาเสียงของ จำเลยที่ 1
จากนั้นได้รับประทานอาหารกลางวันและเดินทางกลับโดยรถโดยสาร ที่คณะที่ปรึกษาจัดให้ โดยมีจำเลยทั้ง 4 เข้าร่วมประชุมสัมมนาด้วย และมีการส่งรูปเล่มฉบับสมบูรณ์ ภายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2555

อ้างอิงภาพจาก https://brickinfotv.com/
สี่ : ตรวจรับงานจ้างเป็นเท็จ
ทั้งที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 4 ที่ปรึกษาโครงการยังไม่ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมตามสัญญาจ้างและคณะกรรมการตรวจรับงานจ้างทำการตรวจรับงานจ้างเป็นเท็จดังนี้
1. ไม่มีการประชาสัมพันธ์โครงการและกิจกรรมการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ มาตรฐานคุณภาพสินค้าและบริการของผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยตามที่ ระบุในสัญญาจ้าง
2. การจัดสัมมนาที่ปรึกษาไม่ได้ลักษณะการแบ่งกลุ่มอภิปรายหรือให้เข้าร่วมอบรมลงมือทำกิจกรรมใด ๆ ที่จะเรียกว่า เป็นการสัมมนาเชิงปฏิบัติการตามที่ระบุในสัญญาจ้าง
3. จำเลยที่ 4 ที่ปรึกษา โครงการนี้ได้ส่งมอบงานงวดที่ 2 ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 โดยคณะกรรมการตรวจการจ้างทำการตรวจรับงานจ้างในวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 และเทศบาลเมืองต้นเปาทำการเบิกจ่ายเงินให้คณะทำงานที่ปรึกษาในวันที่ 11 พฤษภาคม 2555
ทั้งที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าที่ปรึกษาของโครงการทำการจัดประชุมสัมมนาผู้เข้าร่วม โครงการที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำครั้งสุดท้ายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2555 ดังนี้ จึงเป็นการดำเนินการในภายหลังจากที่มีการเบิกจ่ายค่าจ้างงวดที่ 2 ให้แก่ผู้รับจ้างแล้ว อันเป็นการตรวจรับงานเท็จ
การกระทำของจำเลยทั้ง 4 ราย จึงมีความผิดตามกฎหมาย ทำให้ราชการเสียหาย
ขณะที่การกระทำของจำเลยที่ 1 ในฐานะนายกเทศมนตรี เมืองต้นเปา ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด กลับใช้ อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอนุมัติให้เบิกจ่ายเงินให้แก่คณะที่ปรึกษาในโครงการในงวดที่ 2 เต็มตามจำนวนเงินในสัญญาจ้าง
ทั้งที่ คณะทำงานที่ปรึกษายังไม่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จตามสัญญาจ้างรวมทั้งการส่งมอบงาก่อนดำเนินการแล้วเสร็จ
โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ริเริ่มนำเสนอโครงการตั้งแต่ต้น เป็นผู้อนุมัติในสัญญาจ้าง และได้เข้าร่วมการประชุมสัมมนาด้วยโดยตลอด จึงย่อมทราบ รายละเอียดของงานตามสัญญาจ้างจำเลยที่ 4 ผู้รับจ้างยังปฏิบัติไม่ถูกต้องครบถ้วน ตามสัญญาจ้างดังกล่าว จึงมีเจตนาพิเศษที่ต้องการจะเบิกจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมตามนโยบายหาเสียงของตน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ ทางราชการเทศบาลเมืองต้นเปา อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ และตามสัญญาจ้างดังกล่าว
การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์สิน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหาย แก่ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
เบื้องต้น จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษายกฟ้อง ก่อนที่ศาลอุทธรณ์ ได้ยกคำพิพากษ แก้เป็น ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วมีคำพิพากษาหรือคำสั่งใหม่ตามรูปคดีตามที่ปรากฏเป็นข่าวข้างต้น
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีนี้ ปัจจุบันศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ยังไม่ได้มีคำพิพากษาชี้ขาด ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นตามฟ้อง จำเลยทั้งหมดจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ผลการต่อสู้คดีในชั้นศาลจะออกมาเป็นอย่างไร ติดตามดูกันต่อไป


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา