
"...เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 13.30 นาย อ. (สงวนชื่อ-นามสกุล) ได้นำเลื่อยโซ่ยนต์ไปทำการตัดต้นไม้จามจุรีที่สระน้ำสาธารณะ ได้ถูก ร.ต.อ. วิพากย์ คงโนนกอก กับพวก เข้าตรวจยึดเลื่อยโซ่ยนต์ดังกล่าว และควบคุมตัวนาย อ. ไปที่สถานีตำรวจภูธรบ้านเป้า ก่อนจะเรียกและรับเงิน จำนวน 5,000 บาท จากนาย อ. เพื่อแลกกับการไม่ถูกจับกุมดำเนินคดีและยึดเลื่อยโซ่ยนต์ดังกล่าวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดทางอาญา และวินัยร้ายแรง ร.ต.อ. วิพากษ์ คงโนนกอก เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านเป้า อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ กับ พวกรวม 6 ราย กรณีเรียกรับเงินจำนวน 5 ,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดีตามกฏหมาย
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีและส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลเพิ่มเติมว่า คดีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 6 ราย ได้แก่
1. ร.ต.อ. วิพากย์ คงโนนกอก ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1
2. ร.ต.อ. ณภัทร ยุทธิยา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2
3. ร.ต.ท. อนุชา เหล่าภักดี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3
4. ร.ต.ท. บุญส่ง บุญสวน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4
5. ร.ต.ต. วิชาญชัย คงโนนกอก ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5
6. ดาบตำรวจ บุญธรรม ทบวอร์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6
สำหรับพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคดีนี้ ระบุว่าว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 13.30 นาย อ. (สงวนชื่อ-นามสกุล) ได้นำเลื่อยโซ่ยนต์ไปทำการตัดต้นไม้จามจุรีที่สระน้ำสาธารณะ ได้ถูก ร.ต.อ. วิพากย์ คงโนนกอก กับพวก เข้าตรวจยึดเลื่อยโซ่ยนต์ดังกล่าว และควบคุมตัวนาย อ. ไปที่สถานีตำรวจภูธรบ้านเป้า ก่อนจะเรียกและรับเงิน จำนวน 5,000 บาท จากนาย อ. เพื่อแลกกับการไม่ถูกจับกุมดำเนินคดีและยึดเลื่อยโซ่ยนต์ดังกล่าวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
@ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ในช่วงเดือนเมษายน 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ด้วยคะแนน 6 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะไต่สวน ว่า การกระทำของ ร.ต.อ. วิพากย์ คงโนนกอก และพวกรวม 6 ราย มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ และฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 79 (1) และ (5)
นอกจานนี้ ที่ประชุม คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังเห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีและส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา