ในช่วงเดือน พ.ค.ทางด้านของน.ส.ยาดาร์นา หม่อง โฆษก JFM ได้ออกมาแถลงแสดงความกังวลว่านายกุลเชษฐ์จะความเชื่อมโยงไปถึงคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับหุ้นส่วนทางธุรกิจในเมียนมา ซึ่งรวมไปถึงแหล่งเงินทุนและสมาชิกครอบครัวของบุคคลในกองทัพ ดังนั้นจึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไทยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเมียนมา
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเสนอข่าวกรณีนายพอล แชมเบอร์ส นักรัฐศาสตร์จากสหรัฐอเมริกา อาจารย์และที่ปรึกษาพิเศษด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยข้อมูลลูกชายของรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นผู้อำนวยการบริษัทชื่อว่าบริษัทหลั่งแสง (Hlaing Sang Company) โดยบริษัทนี้เกี่ยวข้องกับกองทัพเมียนมา
จากข่าวดังกล่าว ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้สืบค้นข้อมูลบริษัทชื่อหลั่งแสง โดยใช้คีย์เวิร์ดชื่อว่า Hlaing Sang Company พบข้อมูลเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
ในฐานข้อมูลเว็บไซต์บริษัทในเมียนมา www.myco.dica.gov.mm/corp/search.aspx พบข้อมูลคำค้นเกี่ยวกับบริษัท Hlaing Sang เพียงเดียวชื่อว่าบริษัท HLAING SANG HOLDINGS LIMITED
บริษัทแห่งนี้ ระบุกิจกรรมการประกอบธุรกิจว่า การค้าส่ง ยกเว้นยานยนต์และรถจักรยานยนต์ กิจกรรมเกี่ยวกับคลังสินค้า กิจกรรมสนับสนุนการขนส่ง จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2561 ระบุว่าเป็นบริษัทที่มีขนาดเล็ก
เมื่อสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมต่อไปเกี่ยวกับบริษัทชื่อว่า HLAING SANG HOLDINGS LIMITED พบว่า บริษัทนี้มีเว็บไซต์ชื่อว่าhttps://www.hlaingsangholdings.com/ อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าไปดูเว็บไซต์ดังกล่าวพบว่า ไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวจึงใช้เว็บไซต์ https://web.archive.org เพื่อดูข้อมูลเว็บไซต์ต่างๆย้อนหลังก็พบว่า เว็บไซต์ www.hlaingsangholdings.com มีประวัติย้อนหลังไปถึงช่วงเดือน มี.ค.2564 ซึ่งเป็นช่วงไม่กี่เดือนหลังเหตุรัฐประหารเมียนมา
ข้อมูลบนเว็บไซต์ระบุว่า บริษัท HLAING SANG HOLDINGS LIMITED เป็นบริษัทโฮลดิ้งเพื่อการลงทุนที่ก่อตั้งขึ้นในนครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เปิดโอกาสให้ผู้มาลงทุนได้สํารวจวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และน่าหลงใหลของพม่า
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ Management Team หรือทีมบริหารจัดการของบริษัทพบว่ามีสามคนได้แก่
1.นายตาน สเว (Than Swe)หรือ เอ็ดดี้ เป็นกรรมการบริษัท
2.นายกุลเชษฐ์ เสงี่ยมพงษ์ (Kulachet Sangiampongsa) หรือเชน เป็นกรรมการบริษัท
และ 3.น.ส.นาง โม โม ยิน (Nang Moe Moe Yin) หรือแจนนี่ ครีเอทีฟหรือฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ของบริษัท
ขณะที่ข้อมูลจากองค์กร Justice For Myanmar หรือ JFM ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาได้เคยรายงานข้อมูลในช่วงเดือน พ.ค.2567 ระบุเพิ่มเติมเกี่ยวกับนายตาน สเวว่า เป็นศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัย Victoria University of Wellington กรุงเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ และศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นกรรมการผู้ถือหุ้นบริษัทอีกแห่งชื่อว่า Onon Holdings Limited ในนครย่างกุ้ง ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และมีความเชื่อมโยงกับบริษัทเมียนมาชื่อว่าบริษัท Crane Cross Company
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับนายตาน เสว หรือเอ็ดดี้ จากการสืบค้นข้อมูลบนเว็บไซต์ต่างประเทศ ยังไม่พบรายละเอียดว่ามีความเกี่ยวข้องกับบุคคลในกองทัพเมียนมาแต่อย่างใด
สำหรับนายกุลเชษฐ์นั้นองค์กร JFM ยังได้มีการระบุว่าเป็นลูกชายของนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.2567
โดยในช่วงเดือน พ.ค. น.ส.ยาดาร์นา หม่อง โฆษก JFM ได้ออกมาแถลงแสดงความกังวลว่านายกุลเชษฐ์จะมีความเชื่อมโยงไปถึงคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับหุ้นส่วนทางธุรกิจในเมียนมา ซึ่งรวมไปถึงแหล่งเงินทุนและสมาชิกครอบครัวของบุคคลในกองทัพ ดังนั้นจึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไทยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเมียนมา
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับนายกุลเชษฐ์นอกเหนือจากองค์กร JFM แล้ว ทางเว็บไซต์รัฐบาลประเทศตรินิแดดและโตเบโก ก็ได้มีการระบุว่านายกุลเชษฐ์เป็นลูกชายของนายมาริษด้วยเช่นกัน
ขณะที่ข้อมูลบนเว็บสมัครงานอย่าง Linkedin ระบุว่า ปัจจุบันนายกุลเชษฐ์ทำงานเป็นนักวิเคราะห์ให้กับธนาคารกรุงเทพ
เบื้องต้นสำนักข่าวอิศราได้ส่งอีเมลสอบถามคำถามไปยังนายกุลเชษฐ์แล้วผ่านทางอีเมลที่ใช้สำหรับทำงาน และถามไปยังเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยถามคำถามที่เกี่ยวข้อง 3 ข้อด้วยกันได้แก่ 1.ขอสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท หลั่งแสงหรือ HLAING SANG HOLDINGS LIMITED ที่เมียนมาว่าเป็นบริษัทเกี่ยวกับอะไร 2.ข้อเท็จจริงที่ว่าบริษัทแห่งนี้เกี่ยวข้องกับกองทัพเมียนมา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรบ้าง และ 3.นายตาน เสวมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพเมียนมาหรือไม่ แต่ว่าในช่วงเย็นก็ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา
ทั้งหมดก็คือข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหลั่งแสง หรือว่า HLAING SANG HOLDINGS LIMITED ซึ่งสำนักข่าวอิศราสามารถสืบค้นได้ ณ เวลานี้
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 