"...คำพิพากษาระบุชัดเจนว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม จำเลยที่ 10 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ขณะที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีพฤติการณ์ไม่ได้มุ่งหมายให้การดำเนินคดีอยู่ภายในกรอบเวลาการฟ้องคดีภายในวันที่ 10 กันยายน 2566 โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 6 ถึงที่ 10 เกินระยะเวลา 15 ปี นับแต่วันที่กล่าวหาว่ากระทำความผิด คดีโจทก์จึงขาดอายุความ..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)รายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2567 นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินทางไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อฟังคำตัดสินคดีออกใบอนุญาตสร้างโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ หาดพัทยา จ.ชลบุรี โดยศาลฯ ได้ระบุคำตัดสิน ยกประเด็นขาดอายุความในกรณีออกใบอนุญาตกรณีต่อใบอนุญาต ศาลระบุเจ้าหน้าที่มีความผิด ส่วนผู้บริหารยกฟ้อง ทำให้นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม ไม่ต้องถูกลงโทษจำคุก จึงได้เดินทางกลับหลังฟังคำพิพากษา
ต่อไปนี้ เป็นเนื้อหาโดยสรุป คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 อ.เมือง จ.ระยอง ที่ตัดสินคดีนี้ โดยคำพิพากษาระบุชัดเจนว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม จำเลยที่ 10 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ขณะที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีพฤติการณ์ไม่ได้มุ่งหมายให้การดำเนินคดีอยู่ภายในกรอบเวลาการฟ้องคดีภายในวันที่ 10 กันยายน 2566 โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 6 ถึงที่ 10 เกินระยะเวลา 15 ปี นับแต่วันที่กล่าวหาว่ากระทำความผิด คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
ปรากฏรายละเอียดดังต่อไปนี้
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.30 นาฬิกา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 อ่านคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 49/2566, อท 52/2566, อท 54/2566, อท 55/2866, อท 61/2566 ระหว่าง อัยการสูงสุด โจทก์ 1.นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ 2.นายอภิชาติ พืชพันธ์ 3.นายสุธีร์ ทับหนองฮี 4.นายชานนทร์ เกิดอยู่ 5.นายชัยวัฒน์ แจ้งสว่าง 6.นายวิทยา ศิรินทร์วรชัย 7.นายพิเชษฐ อุทัยวัฒนานนท์ 8.นายญัติพงค์ อินทรัตน์ 9.นายเอกพงษ์ บุญชาย และ 10.นายอิทธิพล คุณปลื้ม จำเลย สำนวนคดีทั้งห้าศาลสั่งรวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกันในสำนวนคดีอาญาหมายเลขดำ อท 49/2566 โดยโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 6 ถึง 10 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157 และขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
จำเลยทั้งสิบให้การปฏิเสธ
ศาลกำหนดประเด็นที่ต้องวินิจฉัย 3 ประการ
ประเด็นที่ 1 มูลคดีนายกเมืองพัทยาและพวกออกใบอนุญาตก่อสร้างโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ สวีท แอนด์เรสซิเดนซ์ ให้แก่บริษัทบาลีฮาย จำกัด โดยจำเลยที่ 6 ถึง 10 เป็นเจ้าพนักงานและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลพิจารณาพยานหลักฐานแล้ววินิจฉัยมีใจความโดยสรุปว่า บริษัทบาลีฮาย จำกัด มีวัตถุประสงค์จะใช้ประโยชน์จากการมีพื้นที่ว่างโดยอ้างว่าเป็นที่ครอบครองเพื่อไม่ให้พื้นที่โครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ สวีท แอนด์เรสซิเดนซ์ ติดทางสาธารณะ 2 ด้าน อันจะทำให้อาคารที่ขออนุญาตก่อสร้างไม่ถูกจำกัดความสูงในด้านที่ติดกับถนนสาธารณะภายในโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือท่องเที่ยวและถมทะเลบริเวณพัทยาใต้ จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ และไม่มีสิทธิยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างเพราะด้านที่ติดถนนในโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือดังกล่าว ซึ่งแคบกว่าถนนพัทยาสาย 3 ตัวอาคารมีความยาวเกินกว่ากฎหมายกำหนด คำขออนุญาตก่อสร้างยื่นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2551 จำเลยที่ 10 มีคำสั่งออกใบอนุญาตเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2551 จึงเชื่อว่ากระบวนการทำคำสั่งของจำเลยที่ 9 ที่ 8 ที่ 6 ที่ 7 และที่ 10 ตามลำดับชั้น มีการพิจารณารายละเอียดคำขออย่างครบถ้วน
แต่จำเลยที่ 6 ถึงที่ 10 กลับไม่แสดงให้เห็นเลยว่า มีการพิจารณารูปทรงอาคารที่ขออนุญาตก่อสร้างมีความเหมาะสมกับพื้นที่โครงการหรือไม่ อาคารที่สร้างมีขนาดใหญ่พิเศษ มีด้านกว้างในส่วนที่ใกล้กับโครงการก่อสร้างท่าเรือท่องเทียวและถมทะเลบริเวณพัทยาใต้ ขนาดความกว้างประมาณ 90 เมตร มีความสูงประมาณ 180 เมตร จึงเห็นได้โดยชัดว่าจะต้องบดบังเขาพัทยาอย่างแน่นอน แม้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจะไม่แสดงข้อมูลนี้อย่างชัดเจน เมืองพัทยามีหน้าที่ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จำเลยที่ 9 ที่ 8 ที่ 6 ที่ 7 เป็นพนักงานเมืองพัทยา จำเลยที่ 10 เป็นนายกเมืองพัทยา ย่อมต้องทราบสภาพแวดล้อมในพื้นที่เมืองพัทยาและต้องมีแผนงานและเป้าหมายให้การก่อสร้างอาคารสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมตามอำนาจหน้าที่ เมื่ออาคารที่ขออนุญาตก่อสร้างเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการบดบังเขาพัทยาที่จัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของเมืองพัทยา
จำเลยที่ 9 ที่ 8 ที่ 6 ที่ 7 และที่ 10 จึงปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นการกระทำร่วมกันโดยมุ่งหมายให้เป็นผลสำเร็จจนถึงวันที่จำเลยที่ 10 มีคำสั่งออกใบอนุญาต การกระทำของจำเลยทั้งห้ามีเจตนาให้เมืองพัทยาได้รับความเสียหายเพราะการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษตามคำขอย่อมมีผลกระทบต่อภูมิทัศน์แหล่งท่องเที่ยวของเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก และการอนุญาตให้บริษัทบาลีฮาย จำกัด ก่อสร้างอาคารโดยมีพื้นที่ใช้สอยมากเกินกว่าที่จะมีสิทธิยื่นคำขอโดยชอบตามกฎหมายควบคุมอาคารและกฎกระทรวง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามบทบัญญัติความผิดตามมาตรา 157 ในส่วนการกระทำโดยมีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่เมืองพัทยา การกระทำของจำเลยที่ 9 ที่ 8 ที่ 6 ที่ 7 และที่ 10 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ประเด็นที่ 2 ฟ้องโจทก์ประเด็นข้อ 1 สำหรับจำเลยที่ 6 ถึงที่ 10 ขาดอายุความหรือไม่ ศาลพิจารณาพยานหลักฐานแล้ววินิจฉัยมีใจความโดยสรุปว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีพฤติการณ์ไม่ได้มุ่งหมายให้การดำเนินคดีอยู่ภายในกรอบเวลาการฟ้องคดีภายในวันที่ 10 กันยายน 2566 โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 6 ถึงที่ 10 เกินระยะเวลา 15 ปี นับแต่วันที่กล่าวหาว่ากระทำความผิด คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
กรณีจึงไม่ต้องวินิจฉัยการนำบทบัญญัติกฎหมายที่แก้ไขใหม่มาใช้บังคับแก่คดีได้หรือไม่ตามข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งห้า เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป จำเลยที่ 6 ถึงที่ 10 กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 แต่คดีขาดอายุความแล้ว จึงต้องยกฟ้องโจทก์ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 วรรคหนึ่ง
ประเด็นที่ 3 มูลคดีที่รักษาการนายกเมืองพัทยาและพวกต่ออายุใบอนุญาตก่อสร้างโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ ให้แก่บริษัทบาลีฮายฯ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 เป็นเจ้าพนักงานและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลพิจารณาพยานหลักฐานแล้ววินิจฉัยมีใจความโดยสรุปว่า กรณีที่จำเลยที่ 5 ที่ 4 ที่ 3 และที่ 2 ซึ่งทำความเห็นเพื่อมีคำสั่งต่ออายุใบอนุญาต และจำเลยที่ 1 มีคำสั่งต่ออายุใบอนุญาต จึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้เมืองพัทยามีการตรวจสอบการก่อสร้างอาคารที่ไม่แล้วเสร็จในลักษณะการทบทวนเหตุผลที่จะออกใบอนุญาตฉบับใหม่ แม้บริษัทบาลีฮาย จำกัด จะอ้างเหตุประสบปัญหาทางเศรษฐกิจเพราะขาดเงินลงทุน แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะนำมาเป็นเหตุหลีกเลี่ยงกฎหมายที่มุ่งประสงค์จะคุ้มครองความปลอดภัยของการใช้อาคาร การกระทำของจำเลยที่ 5 ที่ 4 ที่ 3 ที่ 2 และที่ 1 จึงมีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายขึ้นแก่เมืองพัทยา และในส่วนของจำเลยที่ 6 รู้อยู่แล้วว่าการออกใบอนุญาตกระทำโดยไม่ชอบ การเสนอให้ต่ออายุใบอนุญาตจึงเป็นการกระทำที่มีเจตนาให้ใบอนุญาตนั้นมีผลใช้บังคับต่อไปอันเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่เมืองพัทยามาแต่ต้น
การกระทำของจำเลยที่ 5 ที่ 4 ที่ 6 ที่ 3 ที่ 2 และที่ 1 จึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่เมืองพัทยา หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเหตุให้เมืองพัทยาได้รับความเสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งหกนี้จึงเป็นการกระทำความผิดเพื่อให้มีผลเป็นการต่ออายุใบอนุญาตแก่บริษัทบาลีฮาย จำกัด แต่เนื่องจากการออกใบอนุญาตให้แก่บริษัทบาลีฮาย จำกัด กระทำโดยไม่ชอบ จึงต้องถือว่าไม่มีใบอนุญาตที่จะเป็นเหตุให้พนักงานเมืองพัทยาและนายกเมืองพัทยามีหน้าที่พิจารณาต่ออายุ ดังนั้น เฉพาะการกระทำของจำเลยที่ 5 ที่ 4 ที่ 3 ที่ 2 และที่ 1 ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างมาแต่ต้น
จึงกระทำโดยมุ่งต่อผลซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดตามฐานความผิดดังกล่าว แต่การกระทำนั้นไม่สามารถจะบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะไม่มีใบอนุญาตอันเป็นเหตุแห่งวัตถุที่มุ่งหมายกระทำ (ใบอนุญาตที่ออกให้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย) ซึ่งทำให้จำเลยดังกล่าวไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติ การกระทำของจำเลยที่ 5 ที่ 4 ที่ 3 ที่ 2 และที่ 1 จึงเป็นการพยายามกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81
พิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ตามสำนวนคดีที่หนึ่งมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานพยายามปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐพยายามปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ที่เป็นไปไม่ได้โดยแน่แท้ จำเลยที่ 6 ตามสำนวนคดีที่สอง มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
การกระทำของจำเลยทั้งหกเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ตามกฎหมายบทที่มีอัตราโทษหนักที่สุด ให้จำคุกจำเลยที่ 5 ไว้ 1 ปี ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 คนละ 50,000 บาท และให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 4 จำนวน 20,000 บาท การกระทำของจำเลยที่ 6 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามกฎหมายบททีมีอัตราโทษหนักที่สุด ให้จำคุกจำเลยที่ 6 ไว้ 1 ปี ข้อหาอื่นให้ยก และให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 6 ที่ 7 ที่ 8 ที่ 9 และที่ 10 ในสำนวนที่สาม ที่สี่ และที่ห้า
***********
ทั้งหมดนี้ คือ เนื้อหาโดยสรุปคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 อ.เมือง จ.ระยอง ที่ตัดสินคดีนี้ไปแล้ว
ส่วนกรณีการยื่นฟ้องเกินระยะเวลา 15 ปี นับแต่วันที่กล่าวหาว่ากระทำความผิดทำให้คดีขาดอายุความ ซึ่งก่อนหน้านี้นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เคยออกมายืนยันว่า คดีนี้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้อัยการเมื่อวันที่ 3 ส.ค. อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง 30 ส.ค.คดีอยู่ที่อัยการไม่ถึงเดือน
ขณะที่ ศาลฯ ชี้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีพฤติการณ์ไม่ได้มุ่งหมายให้การดำเนินคดีอยู่ภายในกรอบเวลาการฟ้องคดีภายในวันที่ 10 กันยายน 2566 โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 6 ถึงที่ 10 เกินระยะเวลา 15 ปี นับแต่วันที่กล่าวหาว่ากระทำความผิด คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีคำชี้แจงอย่างไร ต่อสังคม รวมไปถึงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
นับเป็นประเด็นสำคัญที่ไม่ควรถูกมองข้ามโดยเด็ดขาด
อ่านประกอบ:
- โดน ม.157! ป.ป.ช.ชี้มูล 'อิทธิพล คุณปลื้ม-พวก' ออกใบอนุญาตสร้างคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์
- เปิดตัว บ.บาลีฮาย ผู้ขอใบอนุญาตสร้างวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ ก่อน 'อิทธิพล คุณปลื้ม-พวก'โดนชี้มูล
- เชื่อหลบหนี! ศาลฯ สั่งออกหมายจับ 'อิทธิพล คุณปลื้ม' คดีอนุญาตสร้างคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์
- 10 ก.ย.คดีหมดอายุความ-หมายจับสิ้นผล! เผยเหตุ 'อิทธิพล คุณปลื้ม' หนี
- สั่งเพิกถอนโฉนดด้วย! ฉบับเต็ม มติป.ป.ช.ชี้มูลคดีคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์ ก่อน 'อิทธิพล' หนี
- ล่าหลักฐานหนีไปตปท.! ตำรวจ ปปป.บุกเมืองชลฯค้นบ้าน ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’
- ชัดๆ! พฤติการณ์ 'อิทธิพล'คดีคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์ เร่งรีบออกใบอนุญาต พิจารณา'วันเดียวจบ'
- ทนแรงกดดันไม่ไหว! ลูกน้อง 'อิทธิพล คุณปลื้ม' โผล่มอบตัวสู้คดีคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์
- นำตัวส่งอัยการแล้ว! ตม. รวบ ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’ หลังบินจากกัมพูชา คาสุวรรณภูมิ
- วางเงินสด1.2แสน! 'อิทธิพล' ได้ประกันตัวสู้คดีวอเตอร์ฟร้อนท์ หลังอ้างติดโควิดเข้าICUกัมพูชา