ผู้สมรู้ร่วมคิด 1 ทำหน้าเป็นผู้อำนวยการบริษัทต่างชาติ 2 (บริษัทไทย)นั้นตอบคำถามอย่างไม่เป็นความจริง โดยเธอ (ในรายงานต้นฉบับระบุเพศสภาพชัดว่าเป็นผู้หญิง) ตอบไปว่าไม่ได้ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ ต่อมา ประมาณวันที่ 30 ม.ค. 2562 ผู้สมรู้ร่วมคิด 1 ได้ติดต่อกับนายรี ทั้ง 2 ตกลงกันว่าผู้สมรู้ร่วมคิด 1 ควรเดินทางไปที่เกาหลีเหนือด้วยวัตถุประสงค์ในการรับเงินสด
สืบเนื่องจากที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวว่าอดีตเจ้าหน้าที่ทูตของประเทศเกาหลีเหนือประจำประเทศไทย ถูกดำเนินคดีในข้อหาว่ามีการใช้บริษัทบังหน้าหลายประเทศรวมถึงในประเทศไทย เพื่อเอื้อประโยชน์ในการลักลอบส่งของจำพวกน้ำตาลเข้าไปยังเกาหลีเหนือ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับตระกูลคิมและโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ
จากกรณีดังกล่าวสำนักข่าวอิศราได้มีการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่ามีการยื่นคำฟ้องในคดีนี้ต่อศาลแขวงโคลัมเบีย เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2566 ระบุชื่อโจทก์คือสหรัฐอเมริกาและจำเลยคือนายนายรี มยอง โฮ หรือนายมยอง โฮ รี อดีตนักการทูต มีรายละเอียดดังนี้
@ฝ่ายจำเลย บุคคลอื่นและนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเปรียบเสมือนตัวละครในคดีประกอบด้วย
1.จำเลยได้แก่นายมยอง โฮ รี (MYONG HO RI) ที่ต่อไปนี้จะถูกเรียกว่านายรี เป็นพลเมืองของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีหรือเกาหลืเหนือ ซึ่งเคยดํารงตําแหน่งนักการทูตโดยเฉพาะในตำแหน่ง "เลขาธิการเศรษฐกิจและการค้าคนที่สาม" ในสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือใน กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย.
2.บริษัทต่างชาติ 1 เป็นบริษัทที่มีที่อยู่สาธารณะในกรุงเปียงยาง เกาหลีเหนือ โดยก่อนหน้านี้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระบุเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบขนสินค้าเข้าเกาหลีเหนือ
3.นายรีที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ติดต่อสำหรับบริษัทต่างชาติ 1 ในกรุงเทพ ประเทศไทย
4.บริษัทต่างชาติ 2 เป็นบริษัทซัพพลายเออร์จัดส่งน้ำตาลตั้งอยู่ในกรุงเทพ โดยบริษัทต่างชาติ 2 ดูแลบัญชีธนาคารในประเทศไทยและสิงคโปร์
5.บริษัทต่างชาติ 3 เป็นบริษัทเกาหลีเหนือ ซึ่งตามรายงานของคณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติระบุว่าบริษัทนี้ "มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการอํานวยความสะดวกในการร่วมทุน" กับบริษัทจีน ''เพื่อวัตถุประสงค์ในการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร
6.บริษัทต่างชาติ 4 เป็นบริษัทเกาหลีเหนือที่ส่งออกและนำเข้ายุทโธปกรณ์สำหรับกองทัพเกาหลีเหนือ ตามรายงานของสำนักงานข่าวกรองสหรัฐฯ หรือซีไอเอ
7.บริษัทต่างชาติ 5 เป็นบริษัทเกาหลีเหนือที่คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ระบุว่าถูกใช้โดยอุตสาหกรรมด้านอาวุธของเกาหลืเหนือในการสร้างรายได้และมีส่วนร่วมในการจัดซื้อในโครงการอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
8.ผู้สมรู้ร่วมคิด 1 พบว่าเป็นผู้อำนวยการของบริษัทต่างชาติ 2 ตั้งอยู่ในประเทศไทย
9.ธนาคารสหรัฐฯ 1-4 พบว่าเป็นสถาบันการเงินที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาและทำหน้าที่เป็นธนาคารตัวแทนเพื่ออํานวยความสะดวกในการโอนเงินผ่านธนาคารที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
10.สํานักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา (OFAC) ทำหน้าที่บริหารและบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าเพื่อสนับสนุนสหรัฐฯ
@พฤติการณ์ที่เกี่ยวข้อง
-ในช่วงต้นเดือน ก.พ. 2558 นายรีรับทราบดีถึงการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือที่เกิดขึ้น นายรีได้รับคำเตือนจากบริษัทขนส่งจีนเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2558 ว่าเกาหลือเหนืออยู่ภายใต้การคว่ำบาตร ส่วนบริษัทสัญชาติมาเลเซียแห่งหนึ่งเตือนนายรีผ่านอีเมลเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2558 ว่าพวกเขาไม่สามารถส่งสินค้าโดยตรงไปให้กับเกาหลีเหนือได้
นายมยอง โฮ รี (อ้างอิงรูปภาพจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ)
-ขณะที่นายรีได้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการกระทรวงเศรษฐกิจและการพาณิชย์คนที่ 3 ในสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจําประเทศไทย นายรีได้มีการเจรจาสัญญาในนามบริษัทต่างชาติ 1 กับบริษัทต่างชาติ 2 เพื่อให้มีการส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะเพื่อให้ประโยชน์กับบริษัทเกาหลีเหนือที่ถูกคว่ำบาตรโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และบริษัทเหล่านี้ยังมีส่วนในการจัดซื้อโครงการนิวเคลียร์หรือการนำเข้าสินค้าสำหรับกองทัพเกาหลีเหนือ
-นายรีได้ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการชำระเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับบริษัทต่างชาติ 2 โดยใช้บริษัทบังหน้าหลายแห่งเพื่อปกปิดความเชื่อมโยงใดๆกับเกาหลีเหนือ โดยเขาไม่เคยใช้ชื่อตัวเองหรือชื่อบริษัทต่างชาติ 1 ดำเนินการ
-ผู้สมรู้ร่วมคิดของนายรี จงใจปกปิดการตรวจสอบจากสถาบันการเงินที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งกระบวนการตรวจสอบนี้จะต้องเปการดำเนินงานขั้นสุดท้ายในการทำธุรกรรม โดยผู้สมรู้ร่วมคิด 1 ที่ว่ามานี้จงใจให้ข้อมูลที่เป็นเท็จและทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่สินค้าจะไปถึง
-เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2560 นายรีได้รับใบตราส่งสินค้าสำหรับการจัดส่งของ ระบุรายการสินค้าว่าเป็นน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ประเทศไทยจำนวน 5 พันถุง เพื่อส่งไปยังเมืองนัมโพ เกาหลีเหนือ โดยผู้รับระบุว่าบริษัทต่างชาติ 3
-วันที่ 22 ส.ค. 2561 นายรีทำสัญญาระหว่างบริษัทต่างชาติ 1 และบริษัทต่างชาติ 2 สำหรับการส่งน้ำตาลปริมาณ 150 เมตริกตัน จากประเทศไทยไปยังเมืองนัมโพ เกาหลีเหนือ สัญญาระบุว่ามีการชำระเงินให้กับบริษัทต่างชาติ 2 โดยบริษัทต่างชาติ 2 แจ้งว่าสามารถชำระเงินเข้าบัญชีธนาคารบริษัทต่างชาติ 2 ได้ทั้งที่บัญชีในประเทศไทยและบัญชีในสิงคโปร์
-จากวันที่ 28 ส.ค. 2561-7 ก.ย. 2561 บัญชีบริษัทต่างชาติ 2 ในสิงคโปร์ได้รับเงินไปประมาณ 342,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,687,028 บาท) การชำระเงินเหล่านี้กำกับโดยนายรีและผู้สมรู้ร่วมทำหน้าที่เป็นผู้แทนในนามของรัฐบาลเกาหลีเหนือ
-ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 2561 – 2 พ.ย. 2561 บัญชีธนาคารในประเทศไทยของบริษัทต่างชาติ 2 ได้รับเงินไปประมาณ 515,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ (19,069,002 บาท) โดยเป็นเงินในสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ การชำระเงินเหล่านี้กำกับโดยนายรีและผู้สมรู้ร่วมทำหน้าที่เป็นผู้แทนในนามของรัฐบาลเกาหลีเหนือ
-เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2561 นายรีได้รับใบตราสารส่งได้รับใบตราส่งสินค้าสําหรับจัดส่ง "น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ไทย" หนึ่งหมื่นถุง ไปยังเมืองนัมโพ ประเทศเกาหลีเหนือ โดยมีผู้รับระบุว่าเป็นบริษัทต่างชาติ 4
-ประมาณวันที่ 20 ธ.ค. 2561 นายรีได้รับใบตราส่งสินค้าสำหรับน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ประเทศไทยจำนวน 2 หมื่นถุง ไปยังเมืองนัมโพ โดยมีผู้รับคือบริษัทต่างชาติ 5
-ในช่วงเวลาประมาณเดือน ม.ค. 2562 ธนาคารสหรัฐฯ (ระบุว่าธนาคารที่ 1) ได้มีการส่งคำถามไปยังธนาคารของบริษัทต่างชาติที่ 2 โดยขอให้มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินและเปิดเผยความเกี่ยวข้องของเกาหลีเหนือ หรือการมีส่วนร่วมของบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร ซึ่งเกี่ยวกับการชำระเงินจำนวน 335,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ธนาคารของบริษัทต่างชาติ 2 ส่งคำขอไปยังผู้สมรุ้ร่วมคิด 1 ที่ทำงานในบริษัทต่างชาติ 2 หลังจากนั้นจึงมีการส่งคำขอไปให้กับนายรีต่อไป
-ผู้สมรู้ร่วมคิด 1 ทำหน้าเป็นผู้อำนวยการบริษัทต่างชาติ 2 (บริษัทไทย)นั้นตอบคำถามอย่างไม่เป็นความจริง โดยเธอ (ในรายงานต้นฉบับระบุเพศสภาพชัดว่าเป็นผู้หญิง) ตอบไปว่าไม่ได้ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ ต่อมา ประมาณวันที่ 30 ม.ค. 2562 ผู้สมรู้ร่วมคิด 1 ได้ติดต่อกับนายรี ทั้ง 2 ตกลงกันว่าผู้สมรู้ร่วมคิด 1 ควรเดินทางไปที่เกาหลีเหนือด้วยวัตถุประสงค์ในการรับเงินสด
-มีรายงานว่านายรีได้มีการจ่ายเงินให้กับบริษัทที่ 2 อีกเป็นจำนวน 4 ครั้ง คิดเป็นจำนวนเงินรวม 1,930,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (71,450,530 บาท) โดยเป็นการจ่ายเงินสดระหว่าง ต.ค. 2561-พ.ย. 2561
-ในระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค.2561 บริษัทต่างชาติ 2 นายรี และบริษัทชิปปิ้งได้มีการแลกเปลี่ยนใบตราส่งสินค้า, รายการบรรจุภัณฑ์ และเอกสารการจัดส่งอื่น ๆ สําหรับการจัดส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังต้าเหลียนประเทศจีน ซึ่งเมืองต้าเหลียนเป็นท่าเรือที่เกาหลีเหนือมักใช้ในการจัดส่งสินค้าเข้าออกจากประเทศ
-ประมาณวันที่ 14 พ.ย. 2561 และวันที่ 20 ส.ค.2561 บริษัทชิปปิ้งได้มีการส่งใบตราสารส่งสินค้ามาให้กับนายรีเผยให้เห็นว่ามีการจัดส่งสินค้าจากจีนไปยังท่าเรือเมืองนัมโพในเกาหลีเหนือ เนื้อหาการจัดส่งถูกอธิบายว่าเป็นน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จากประเทศไทย
ทิวทัศน์บริเวณเขื่อนนัมโพที่คาดว่าจะเป็นที่ตั้งของท่าเรือนัมโพ (อ้างอิงวิดีโอจาก awdawg77)
@การไม่ได้รับใบอนุญาต
ข้อกล่าวหามีการระบุชัดเจนว่าทั้งจำเลยและผู้สมรู้ร่วมคิดนั้นไม่ได้ครอบครองใบอนุญาตจาก OFAC ที่ตั้งอยู่ในเมืองโคลัมเบีย รัฐเซาท์แคโรไลนา โดยใบอนุญาตนั้นเพื่อส่งออกบริการทางการเงินจากสหรัฐฯไปเกาหลีเหนือได้
ส่วนความคืบหน้าในคดีนี้เพิ่มเติม รวมไปถึงว่าบริษัทในประเทศไทยที่มีส่วนในการค้าขายจนไปถึงกับเอื้อประโยชน์ให้กับโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือนั้นคือบริษัทอะไร ถ้าหากสำนักข่าวอิศราได้รับข้อมูลเหล่านี้เพิ่มเติม ก็จะได้นำเสนอรายงานในโอกาสถัดไป