สัญญาเช่าที่ดินเคเคพาร์คยังระบุชื่อของนายซอว์ วิน จอว์ (Saw Win Kyaw) ว่าเป็นกรรมการผู้จัดการ นายซอว์ จอว์ ทู เป็นกรรมการบริษัทมูไล อลิน ส่วนบริษัททรานส์พบว่ามีคนไทยชื่อว่านายจา (สงวนชื่อเต็ม) ชายไทยวัย 56 ปี เป็นผู้ลงนามสัญญา
ประเด็นปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์-คอลเซ็นเตอร์ริมชายแดนไทย-เมียนมาในพื้นที่ KK-Park นั้นถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ระดับภูมิภาคที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ อย่างไรก็กลุ่มทุนและโครงสร้างทางการเงินที่อยู่เบื้องหลังกิจกรรมเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่เป็นปริศนา
ล่าสุดสำนักข่าวอิรวดีซึ่งเป็นสื่ออิสระในเมียนมาได้มีการเปิดโปงรายละเอียดบริษัทในไทยที่มีความเชื่อมโยงกับกิจการเหล่านี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงได้นำเอารายงานข่าวนี้มานำเสนอ มีรายละเอียดดังนี้
สำนักข่าวอิรวดีได้มีการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการเคเคพาร์ค (KK Park) ซึ่งเอกสารเหล่านี้ รวมถึงสัญญาเช่าที่ดิน ภาพถ่ายสัญญาธุรกิจต้นฉบับและสําเนา
สำหรับสัญญาเช่าที่ดินในการดำเนินงานครั้งแรกพบว่าเป็นสัญญาระหว่างบริษัทชื่อว่ามูไล อลิน (Mulaei Alin) กับบริษัทชื่อว่าทรานส์ (ขอสงวนชื่อเต็ม) ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศไทย โดยสัญญาเช่าที่ดินลงวันที่ 17 ก.พ. 2563
ในสัญญาการเช่าที่ดินระบุว่าบริษัทมูไล อลินนั้นเป็นบริษัทที่มีเจ้าของคือองค์กรสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือ KNU ส่วนบริษัททรานส์ถูกระบุว่าเป็นบริษัทย่อยของบริษัท Huanya Holding Group
สัญญาเช่าที่ดินเคเคพาร์คยังระบุชื่อของนายซอว์ วิน จอว์ (Saw Win Kyaw) ว่าเป็นกรรมการผู้จัดการ นายซอว์ จอว์ ทู เป็นกรรมการบริษัทมูไล อลิน ส่วนบริษัททรานส์พบว่ามีคนไทยชื่อว่านายจา (สงวนชื่อเต็ม) ชายไทยวัย 56 ปี เป็นผู้ลงนามสัญญา
นายจาคนนี้ถูกระบุในสัญญาว่าเป็น "ผู้เช่าตัวแทนที่รับผิดชอบของบริษัท Huanya International Holding Group"
ในข้อตกลงดังกล่าวนายซอว์ วิน จอว์ และนายซอว์ จอว์ ทู จากฝั่งบริษัทมูไล อลิน และนายจาลงนามในสัญญาเช่าที่ในฐานะผู้เช่าในนามบริษัททรานส์
โดนประธาน KNU คนปัจจุบันได้แก่นาย Pado Saw Kwe Htoo Win และนาย Saw Roger Khin อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของกลุ่ม KNU พบว่าลงนามในฐานะผู้ให้เช่าในนามของคณะกรรมการการเงินของ KNU ด้วยเช่นกัน
ส่วนฝ่ายผู้เช่าพบว่ามีนาย Lin Pok Kan และนาย Chan Qi Ming บุคคลสัญชาติจีนลงนามในฐานะตัวแทนของบริษัททรานส์
ส่วนที่ดินที่ถูกเช่ามีขนาด 100 เอเคอร์ (40 เฮกตาร์) และสัญญาเช่ามีอายุ 30 ปีนับแต่วันลงนาม
ค่าเช่าถูกระบุว่ามีมูลค่าต่อปีอยู่ที่ 3,500 บาทต่อ 1 เอเคอร์ และ 3.5 ล้านบาทต่อ 100 เอเคอร์ โดยผู้เช่าที่สัญญาว่าจะจ่ายเงิน 1.75 ล้านบาทในทุกๆ 6 เดือน นอกจากนี้ ค่าบํารุงรักษาความปลอดภัยสําหรับพื้นที่ 30 เอเคอร์ ถูกกําหนดไว้ที่ 500,000 บาทต่อเดือน และค่าธรรมเนียมจะเพิ่มขึ้นเมื่อพื้นที่โครงการขยายตัว ส่วนการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่จะดำเนินการโดยกลุ่ม KNU
@ต่อสัญญาเช่า
เคเคพาร์ค
ตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมาหลังจากที่มีการลงนามในสัญญาเช่าที่ดินเบื้องต้นจำนวน 17 จุด ได้มีการลงนามในสัญญาฉบับแก้ไขสำหรับโครงการเมืองใหม่เคเค พาร์ค ในวันที่ 8 พ.ค. 2565
ในสัญญานั้นระบุว่าบริษัท Troth Star Company และบริษัททรานส์ได้เซ็นลงนามสัญญาเช่าที่ฉบับใหม่ บนความเข้าใจว่าข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่ลงนามก่อนวันที่ 8 พ.ค. 2565 เป็นโมฆะโดยอัตโนมัติเนื่องจาก "ความไม่สมบูรณ์"
ข้อตกลงฉบับแก้ไขภายใต้สัญญาฉบับใหม่ลงนามโดย Troth Star Company และบริษัททรานส์แทนและบริษัทมูไล อลิน
สัญญาฉบับใหม่ระบุว่านายอู อาย ลวิน (U Aye Lwin) ในฐานะกรรมการผู้จัดการของ Troth Star Company ลงนามเป็นเจ้าของที่ดิน และนายจาลงนามในฐานะผู้เช่าในนามของบริษัททรานส์
นายอู อาย ลวิน ตอนนี้ทำงานภายใต้บัญชาการของนายทหารใน KNU ชื่อว่า ซอว์ เน มิน ลวิน (Saw Nay Min Lwin) โดยคนนี้เป็นทีมรักษาความปลอดภัยและคนใกล้ชิดของอดีตประธาน KNU ชื่อว่านายพลซอ มูตูเซโพ (Saw Mutu Say Poe) รวมถึงยังได้แต่งงานกับน้องสาวของอดีตประธาน KNU และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพลจัตวาในวันที่ 20 ก.พ. 2566 กลางที่ประชุมสภา KNU
สำหรับสัญญาใหม่นั้นครอบคลุมพื้นที่ 76 เอเคอร์ กำหนดให้ผู้เช่าต้องจ่ายเงินค่าเช่า 10 ล้านบาทต่อปีและค่าเช่าจะเพิ่มมูลค่า 1 ล้านบาทในทุกๆ 3 ปี โดยจะเพิ่มสูงสุด 5 ครั้งนับแต่เดือน พ.ค.2565-พ.ค.2580
@โครงการเคเคพาร์คและเมืองใหม่ชเวก็อกโกของจีน
ที่ตั้งชเวก็อกโกและเคเคพาร์ค
บางหน่วยงานและบางสำนักข่าวได้มีการรายงานความเชื่อมโยงกันระหว่างโครงการเคเคพาร์คและโครงการชเวก๊อกโก (Shwe Kokko) โดยทั้งสองโครงการนี้ห่างกัน 24 กม. โครงการเคเคพาร์คตั้งอยู่ที่ทางใต้ของเมืองเมียวดี และโครงการชเวก็อกโกตั้งอยู่ทางเหนือ
ทั้งสองโครงการถูกระบุว่าเป็นที่ตั้งของกิจกรรมทางอาชญากรรมต่างๆ เช่น การฉ้อโกงทางการเงินทางออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการทรมาน
โครงการชเวก๊อกโกมีการดำเนินการภายใต้ข้อตกลงกับ พ.อ.ซอว์ชิตทู (Saw Chit Thu) ผู้นำกองกําลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) และนายเสอ จื้อเจียง ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของรัฐบาลจีนเนื่องจากเขามีส่วนร่วมในการดําเนินการการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย
มีรายงานว่านายเสอ จื้อเจียงมีความเกี่ยวข้องกับเคเคพาร์ค และอยู่ภายใต้หมายแดงของตำรวจสากลเนื่องจากมีส่วนร่วมในธุรกิจการพนัน รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรม
นายเสอ จื้อเจียงถูกจับเมื่อวันที่10 ส.ค. 2565 ที่กรุงเทพ และมีรายงานว่าทางการไทยมีกำหนดจะส่งตัวเขาให้กับทางรัฐบาลจีนแล้ว
@เคเคพาร์คกับกลุ่มอาชญากรจีน
โครงการเมืองใหม่ชเวก็อกโก
ในวันที่ 18 ส.ค. 2562 นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาตอนนั้นประกาศประกาศมาตรการต่อต้านธุรกิจการพนันออนไลน์ในประเทศ โดยนโยบายมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2563
การประกาศดังกล่าวนําไปสู่การปิดคาสิโนหลายแห่งในสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นเมืองคาสิโนชายฝั่งของกัมพูชา สื่อกัมพูชารายงานว่า มีพลเมืองจีนหลายหมื่นคนเดินทางไปเมียนมาและฟิลิปปินส์
สำหรับสัญญาเช่าที่ดินเพื่อดำเนินงานในโครงการเคเคพาร์คระหว่างบริษัทมูไลอลินและบริษัททรานส์นั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2563 หรือก็คือ 7 เดือนหลังจากที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศว่าจะปราบปรามการพนันออนไลน์
ในเดือน ก.ค.2563 มีรายงานจากสถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา (USIP) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของนักลงทุนสองคนในโครงการเคเคพาร์ค บุคคลที่เกี่ยวข้องกับ Huanya International Holdings Group และสมาคมธุรกิจจีนสีหนุวิลล์
ในบรรดานักลงทุนเหล่านี้พบว่ามีนายเฉินอัน (Chen An) และนายจาง จื่อหยง (Zhang Zhiyong) ทั้งสองมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และคาสิโนในสีหนุวิลล์
นายเฉินดํารงตําแหน่งประธานสมาคมธุรกิจจีนในสีหนุวิลล์ และเป็นบุคคลอาวุโสในสมาคมการค้าจีนในกัมพูชา (CCCA)
@นายหวันก๊กกอย ฉายาฟันหัก
ตามรายงานของ USIP โครงการเคเคพาร์ค โครงการ Saixigang Industrial Zone และโครงการเมืองใหม่ชเวก๊อกโก ล้วนเชื่อมโยงกับอาชญากรจีน
มีการระบุด้วยว่าบุคคลหลักที่อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการเหล่านี้ ได้แก่คือนายหวันก็กกอย Wan Kuok-koi หัวหน้ากลุ่มอาชญากรรม Triad 14k (หรือฉายาฟันหัก) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าได้ก่ออาชญากรรมเช่นการลักลอบขนยาเสพติด การฟอกเงินและการดําเนินการพนันออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหรัฐอเมริกาและนายเสอ จื้อเจียงซึ่งเป็นนักลงทุนหลักในโครงการเมืองใหม่ชเวก็อกโกก็เป็นที่ต้องการของรัฐบาลจีน
ในปลายปี 2563 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้มีการขึ้นบัญชีดำและคว่ำบาตรนายหวันซึ่งเป็นประธานของบริษัทตงเหมยกรุ๊ป โดยอ้างว่าเขามีส่วนในโครงการ Saixigang Industrial Zone
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้ความเห็นว่า เนื่องจากคดีการพนันและการฆาตกรรมจํานวนมากในสีหนุวิลล์ และการแทรกแซงการดําเนินงานของรัฐบาล พวกเขาจึงอพยพไปยังพื้นที่สามเหลี่ยมทองคําชายแดนไทย-เมียนมาและพื้นที่ควบคุมของ KNU
เรียบเรียงจาก:https://www.irrawaddy.com/news/investigation/contracts-reveal-knu-involvement-in-notorious-myanmar-scam-center.html
*หมายเหตุ: สืบเนื่องจากรายงานข่าวในสื่อต่างประเทศมีการระบุถึงชื่อและนิติบุคคลที่อยู่ในไทย ซึ่งสำนักข่าวอิศรายังไม่ได้ไปติดต่อสัมภาษณ์เพื่อฟังข้อมูลอีกด้าน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายสำนักข่าวอิศราจึงได้ปิดรายละเอียดชื่อบุคคลเล่านี้เอาไว้จนกว่าจะมีการชี้แจงอีกด้านหนึ่ง