"...‘บิ๊กเนมค่ายแดง’ หลายคนเห็นพ้องตรงกันว่า ‘ก้าวไกล’ ไม่น่าจะโดนยุบ เพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมน่าจะอยากให้ภาพลักษณ์การแก้ไขมาตรา 112 ติดตัว ‘ก้าวไกล’ จะส่งผลดีมากกว่าไปยุบพรรค ที่สำคัญคะแนนเสียงในสภาฯของพรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้นำโด่ง มิใช่ยุค ‘ปริ่มน้ำ’ เหมือนรัฐบาลก่อน จึงไม่จำเป็นต้องหา ‘งูเห่า’ มาเติมตอนนี้ ..."
เรียกว่าได้วาดลวดลายอวดฝีมือกันพอหอมปากหอมคอ สำหรับ ‘ก้าวไกล’ ในฐานะแกนนำ ‘พรรคร่วมฝ่ายค้าน’ ในเวทีอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2567 วาระ 2-3 ที่ผ่านมา โดยสังเกตได้ว่ามีแกนนำแถว 2-3 ถูกผลักดันขึ้นมาอภิปราย และมีบทบาทสำคัญในการหาข้อมูลชำแหละการตั้งวงเงินงบประมาณของรัฐบาล
แม้ว่า ‘ก้าวไกล’ จะกำลังเผชิญวิกฤติหนักทั้งในและนอกพรรค ไม่ว่าจะเป็น ‘คดียุบพรรค’ กรณีถูกกล่าวหาว่า ‘ล้มล้างการปกครอง’ สืบเนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่ง ‘ก้าวไกล’ ยุติการกระทำในการออกนโยบายหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ในมือของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
เบื้องต้นศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ กกต.ทำเอกสารเพิ่มเติมและชัดเจนภายใน 7 วัน ดังนั้นคาดว่าในช่วงปลาย มี.ค.-ต้น เม.ย.น่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมา
อย่างไรก็ดี แกนนำก้าวไกล เชื่อมั่นว่าพรรคจะไม่ถูกยุบ เนื่องจากประเมินฉากทัศน์ทางการเมืองแล้วเห็นว่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะ ‘ได้ไม่คุ้มเสีย’
แต่อาจเลือก ‘เชือด’ 44 สส.ก้าวไกล ที่ไปร่วมเข้าร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มากกว่า
เช่นเดียวกับ ‘บิ๊กเนมค่ายแดง’ หลายคนเห็นพ้องตรงกันว่า ‘ก้าวไกล’ ไม่น่าจะโดนยุบ เพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมน่าจะอยากให้ภาพลักษณ์การแก้ไขมาตรา 112 ติดตัว ‘ก้าวไกล’ จะส่งผลดีมากกว่าไปยุบพรรค ที่สำคัญคะแนนเสียงในสภาฯของพรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้นำโด่ง มิใช่ยุค ‘ปริ่มน้ำ’ เหมือนรัฐบาลก่อน จึงไม่จำเป็นต้องหา ‘งูเห่า’ มาเติมตอนนี้
ตัดเรื่องถูกยุบพรรคออกไป ในพรรคก็กำลังระส่ำระส่ายไม่น้อย เพราะบรรดา ‘สส.นกแล’ หลายคน ไม่โอเคอย่างมากกับคดีถูกร้องยุบพรรค ต้องถูกตราหน้าว่าอยู่พรรค ‘ล้มล้างการปกครอง’ พ่วงกับการแก้ไขมาตรา 112 แม้ สส.นกแล บางคนตอนสมัครรับเลือกตั้ง จะพยายามสร้างโพรไฟล์ให้ดูดี หวัง ‘เกาะกระแสส้ม’ กรุยทางสู่เส้นทางการเมืองก็ตาม
แต่เมื่อเข้ามาแล้ว มิได้หวังตั้งใจยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรคมากนัก แค่ต้องการเอาพรรคไว้ต่อยอด-สร้างคอนเนกชั่น-หาผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น
จึงไม่แปลกที่จะมีการ ‘ปล่อยข่าว’ ออกมาว่า สส.นกแล กลุ่มนี้ไปดีลต่อสายคุยกับสารพัดพรรคการเมืองขั้วรัฐบาล เพื่อหวังโยกย้ายไปซบ หาก ‘ก้าวไกล’ เจออุบัติเหตุทางการเมือง ถูกยุบพรรคซ้ำรอย ‘อนาคตใหม่’ โดย สส.นกแล กลุ่มนี้มีราว 10 คน ยังไม่นับ สส.ในพรรคอีกจำนวนหนึ่ง ที่ยังลังเลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ แต่เบื้องต้นพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคยัง ‘แบ่งรับแบ่งสู้’ เรื่องนี้ เนื่องจากเสียงขั้วรัฐบาลจะมีเยอะมาก จนไม่จำเป็นต้องใช้ ‘งูเห่า’ เดินเกม
นอกจากนี้มีความพยายามจาก ‘บิ๊กเนมสีส้ม’ หลายคนออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ แต่หากพบว่า สส.กลุ่มนี้มีอยู่จริง จะดำเนินการทางวินัยอย่างแน่นอน ขณะที่ ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนปัจจุบัน ตอบคำถามเรื่องนี้ว่า “เรามั่นใจว่าผู้แทนราษฎรที่ดี ก็คือผู้แทนราษฎรที่ดี เรื่องนี้ไม่สามารถมีใครไปบังคับใจกันได้ พรรคมีหน้าที่ต้องเตรียมทุกทางออกให้กับสมาชิก”
@ ชัยธวัช ตุลาธน
ที่ผ่านมา ‘พรรคส้ม’ ไล่เรียงมาตั้งแต่ยุค ‘อนาคตใหม่’ จนถึง ‘ก้าวไกล’ มี ‘สส.งูเห่า’ เกิดขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 รอบ และมีจำนวนราว 20 คน อย่างไรก็ดีบรรดางูเห่าเหล่านี้ ในการเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมา ‘สอบตก’ กราวรูดทุกคน ไม่มีใครได้เข้าสภาฯแม้แต่คนเดียว เหลือแค่ ‘คารม พลพรกลาง’ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการปูนบำเหน็จได้นั่งเก้าอี้ ‘รองโฆษกรัฐบาล’
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิด ‘งูเห่า’ ขึ้นใน ‘พรรคก้าวไกล’ มีอย่างน้อย 2 สาเหตุสำคัญ
1.กระบวนการคัดสรร สส. แม้ว่าเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ‘ชัยธวัช’ เมื่อครั้งเป็น ‘แม่บ้านพรรค’ จะพยายามกำชับให้กระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ทั้งระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด มีความเข้มงวดกวดขัน และทำอย่างละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังมี ‘งูเห่า’ จำนวนหนึ่งเล็ดรอดออกมาอยู่ดี เนื่องจากกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นแถว 2-3 รู้ดีว่า ไม่สามารถอาศัยใต้ร่มโพธิ์พรรคใหญ่เข้าสภาฯได้ จึงต้องเบนเข็มมาเริ่มต้นกับ ‘ก้าวไกล’ ก่อน เพื่อให้กระแสนำเข้าสภาฯ หลังจากนั้นค่อยว่ากัน
2.ภาพลักษณ์เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งติดตัว ‘ก้าวไกล’ มาตั้งแต่ยุค ‘อนาคตใหม่’ โดยมีเงาของ ‘กลุ่มเพื่อนเอก’ ทาบทับเอาไว้ ทำให้ สส.ที่มิได้มีอุดมการณ์เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 อย่างเข้มข้น ไม่สามารถปรับตัว หรืออยู่ในพรรคได้ จนต้องทยอยย้ายสังกัด หรือทำตัวเป็น ‘งูเห่า’ หรือแม้แต่ลาออกจากพรรคมาตั้งพรรคใหม่ในช่วงเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมา
วิธีแก้ปัญหาระยะสั้นของ ‘ก้าวไกล’ หลังจากนี้ ว่ากันว่าจะใช้การ ‘นิ่งสงบ’ รอดู ‘ทิศทางลม’ การเมืองไทย โดยเฉพาะประเด็นอ่อนไหว ไม่ว่าจะเป็น ‘นิรโทษกรรม’ หรือ ‘มาตรา 112’ โดยคาดกันว่าหลังจากนี้ ‘ก้าวไกล’ อาจจะใช้กลไก หรือกระบวนการทางอื่น ในการรณรงค์เรื่องเหล่านี้ เพื่อมิให้ สส.ของพรรคต้องอึดอัดใจ เช่น การ ‘ปักธงความคิด’ ในทุกจังหวัดผ่านกลไกต่าง ๆ ทั้งตัวพรรคเองที่มี ‘กลุ่มเพื่อนเอก’ คนหนึ่งกรุยทางไว้แล้ว หรือผ่าน ‘คณะก้าวหน้า’ เป็นต้น
แต่เรื่องนี้ก็สร้างความกระอักกระอ่วนให้กับ ‘อดีตแกนนำ’ และ สส.บางคน เพราะเห็นว่า ในช่วงเวลาหลายปีมานี้ ต่อสู้มาอย่างโชกโชนจน ‘ทะลุเพดาน’ ไปแล้ว ไม่ควรลดเพดานลงมาต่ำอีก จนอาจสร้างรอยร้าวภายในพรรคให้เกิดขึ้นอีกครั้งก็เป็นไปได้
ส่วนระยะยาว ‘ก้าวไกล’ จะพยายามเฟ้นหา ‘ดีเอ็นเอสีส้ม’ ในการคัดสรรตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา แต่ยังมี สส.นกแล จำนวนหนึ่งเล็ดรอดเข้าพรรค และกรุยทางเข้าสภาฯได้สำเร็จ
ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งถัดไป ‘ก้าวไกล’ จะแก้พิษสงของ ‘งูเห่า’ ได้สำเร็จ พร้อม ๆ ไปกับการ ‘รื้อโครงสร้าง’ การเมืองไทย ได้สำเร็จหรือไม่ ต้องติดตาม