สื่อจากฮ่องกงยังได้ระบุทิ้งท้ายด้วยว่าการพบปะครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงข้อพิสูจน์ถึงมิตรภาพอันยาวนาน แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงการผสมผสานที่ซับซ้อนของพลวัตส่วนบุคคลและการเมืองที่เป็นลักษณะเฉพาะของภูมิทัศน์ทางการเมืองของภูมิภาคนี้
ข่าวในกระแส ณ เวลานี้ ในประเทศไทย คงหนีไม่พ้นกรณีของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมตรีที่ถูกพักการลงโทษเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากเข้าเกณฑ์เป็นผู้ต้องขังอาวุโสและเจ็บป่วยเรื้อรัง ซึ่งหลังจากกลับมาพักที่บ้านจันทร์ส่องหล้าในวันที่ 18 ก.พ. ต่อมาในวันที่ 21 ก.พ. ก็มีข่าวว่าสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นแขกจากต่างชาติรายแรกที่เข้าเยี่ยมอดีตนายกทักษิณ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)จึงได้ประมวลเอาความเห็นจากทั้งบุคคลและสื่อในต่างประเทศว่าได้วิจารณ์ในกรณีนี้อย่างไรบ้าง มีรายละเอียดดังนี้
เริ่มกันที่เฟซบุ๊กของสมเด็จฮุนเซนได้มีการรูปภาพตอนเข้าเยี่ยมนายทักษิณ พร้อมกับข้อความว่าผมมาที่กรุงเทพ มาเยี่ยมนายทักษิณที่แม้ว่าจะเจ็บป่วย มีเราเป็นพี่น้องกัน โดยมีอุ๊งอิ๊ง (แพทองธาร ชินวัตร) ลูกสาวคนเล็กและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ให้การต้อนรับ เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างกันผมได้เชิญอุ๊งอิ้งไปเยือนกัมพูชาในวันที่ 14-15 มี.ค. โดยอดีตนายกฯสองประเทศไม่ได้พูดเรื่องการเมือง นั่นทำให้ความทรงจำเดิมๆกลับมา มิตรภาพตลอด 32 ปี เราสองคนนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962 ขอบคุณพี่ชายและหลานสาว
ส่วนบนทวิตเตอร์หรือว่า X นายฟิล โรเบิร์ตสัน จากกลุ่มรณรงค์ฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) ได้ทวีตข้อความตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 20 ก.พ.ระบุว่าคำเตือนว่าอาจจะมีการปราบปรามข้ามชาติ อดีตนายกฯ ฮุน เซน บินไปกรุงเทพ พบทักษิณ ชินวัตร ต้องจับตาดูว่าตำรวจไทยจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างจับกุมผู้ลี้ภัยกัมพูชาที่ขอความคุ้มครองประเทศไทยหรือไม่
ต่อมานายโรเบิร์ตสันได้ทวีตข้อความอีกเป็นภาพของสมเด็จฮุนเซนกำลังนั่งเครื่องบินส่วนตัว พร้อมข้อความประกอบระบุว่าฮุนเซนในลุคแก๊งสเตอร์บนเครื่องบินส่วนตัวไปกรุงเทพไปพบกับผู้ต้องหาทางอาญา (ขณะนี้ถูกกักบริเวณในบ้าน) อดีตนายกฯไทย ทักษิณ ชินวัตร นี่มันมากเกินไปสำหรับหลักธรรมาภิบาลหรือสิทธิมนุษยชนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
ด้านนายมาร์ค เอส โคแกน รองศาสตราจารย์ด้านสันติภาพและความขัดแย้งศึกษา ที่มหาวิทยาลัย Kansai Gaidai ประเทศญี่ปุ่นได้ทวีตข้อความอ้างอิงทวิตเตอร์ของนายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอตซ์ ประเทศไทยที่โพสต์ภาพนายทักษิณกอบกับสมเด็จฮุนเซน โดยเป็นเนื้อเพลง Lovin' You" ของ มินนี่ ริเพอตัน เพลงดังในช่วง ค.ศ. 1975
มีเนื้อเพลงว่า Lovin' you is easy cause you're beautiful Makin' love with you is all I wanna do Lovin' you is more than just a dream come true And everything that I do is out of lovin' you La la la la la, la la la la la
La la la la la, la la la la la Do do do do do, ooh หรือแปลไทยว่า รักเธอน่ะมันง่าย เพราะเธอนั้นช่างงดงาม ร่วมรักกับเธอมันเป็นสิ่งที่ฉันอยากทำที่สุดเลยการได้รักเธอมันเป็นอะไรที่มากกว่าฝันเป็นจริงและทุกๆสิ่งที่ฉันทำ มันก็เพราะฉันรักเธอนี่แหละ (อ้างอิงคำแปลเพลงจากเว็บ https://aelitaxtranslate.com/2015/02/minnie-riperton-lovin-you.html)
ต่อมานายโคแกนได้ทวีตนายทักษิณและสมเด็จฮุนเซนอีกและทวีตข้อความว่าในหลาย ๆ ด้านสองคนนี้ยังคงมีขนาดที่ใหญ่ ปราศจากภาระจากสิ่งที่เรียกว่า "หลักนิติธรรม" ซึ่งบังคับใช้กับคนธรรมดาหรือชนชั่นล่าง
ด้านนายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชาได้ทวีตข้อความอ้างอิงทวิตเตอร์นายโรเบิร์ตสันที่โพสต์ลุคของสมเด็จฮุน เซน โดยนายสมทวีตว่าครอบครัวระบอบฮุนเซนมีเงินสำหรับเที่ยวบินส่วนตัว แต่ไม่สามารถจะจัดหาความต้องการบริการพื้นฐานให้กับประชาชนกัมพูชาได้
ส่วนพาดหัวและรายงานจากสื่อต่างประเทศมีรายละเอียดดังนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์สได้มีการพาดหัวว่านายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลได้รับการเยี่ยมเยียนจากพันธมิตรเก่าอย่างฮุนเซนจากกัมพูชา
ส่วนสำนักข่าวพนมเปญโพสต์ของกัมพูชาพาดหัวข่าวว่าฮุนเซนไปเยี่ยมพี่ทูนหัว ‘ทักษิณ’ ที่กรุงเทพ
ขณะที่สำนักข่าว BNN Breaking จากฮ่องกงได้มีการทำรายงานข่าวในหัวข้อว่าความผูกพันที่อยู่เหนือการเมือง อดีตผู้นำฮุน เซน และทักษิณ ชินวัตร กลับมาพบกันอีกครั้งที่กรุงเทพ
โดยในบทความนี้ยังได้มีการเจาะลึกถึงความสัมพันธ์ของอดีตนายกฯทั้งสองคนว่าเริ่มตั้งแต่ ค.ศ.1992 และวิเคราะห์ต่อไปว่าการกลับมาพบกันอีกครั้งนั้นถูกเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดจากผู้สังเกตการณ์เพื่อหาสัญญาณของพันธมิตรหรือกลยุทธ์การเมืองที่เปลี่ยนไป โดยมีฉากหลังเป็นภูมิทัศน์ทางการเมืองที่ซับซ้อนของประเทศไทย
สื่อจากฮ่องกงยังได้ระบุทิ้งท้ายด้วยว่าการพบปะครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงข้อพิสูจน์ถึงมิตรภาพอันยาวนาน แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงการผสมผสานที่ซับซ้อนของพลวัตส่วนบุคคลและการเมืองที่เป็นลักษณะเฉพาะของภูมิทัศน์ทางการเมืองของภูมิภาคนี้