"...ตอนเขาเข้ามาสมาคมฯ เราก็ตรวจสอบประวัติดูทั้งจากที่ไทยและที่จีน ก็ไม่มีประวัติความผิดอะไร ทีนี้บทบาทของสมาคมฯ เราทำงานช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือน้ำท่วม แต่นายหวังไม่ได้ไปช่วยเหลือสังคมตามเจตนาของสมาคมฯเลย เราก็เลยเชิญเขาออกจากสมาคมฯ ไปแล้วเมื่อประมาณสามเดือนก่อน...การเชิญออกนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวในสำนักข่าวรอยเตอร์สแต่อย่างใด..."
สืบเนื่องจากสำนักข่าวรอยเตอ์ส รายงานข่าวนายหวัง (ขอสงวนชื่อเต็ม) นักธุรกิจจีนในไทย มีส่วนเชื่อมโยงกับกรณีบัญชีสกุลเงินดิจิทัล (คริปโต) ฉ้อโกงคิดเป็นเงินไทยนับพันล้านบาท โดยนายหวังทำงานให้กับสมาคมชาวจีนแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีภาพเคยมอบดอกไม้ให้กับนายตำรวจระดับผู้บังคับการในหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์
ขณะที่พล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่าปัจจุบันนายตำรวจนายนี้ ถูกแต่งตั้งไปทำงานเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) แล้ว ส่วนการตรวจสอบคงต้องให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินการ
- ต้องให้ สตช.สอบ! ผบช.สอท.แจงข่าวนักธุรกิจจีนเอี่ยวฉ้อโกงคริปโตพันล.รู้จักตำรวจไทย
- สื่อนอกเปิดโปงนักธุรกิจจีน ใกล้ชิดตำรวจ-นักการเมืองไทย โยงบัญชีฉ้อโกงคริปโต พัน ล.
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปยังสมาคมชาวจีนแห่งนี้ ซึ่งมีชื่อเป็นทางการว่า สมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย-เอเชีย เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารให้ชี้แจงข้อเท็จจริงตามรายงานข่าวสำนักข่าวรอยเตอ์ส
เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า เป็นอาคารพาณิชย์สูงสามชั้น มีป้ายชื่อและโลโก้ของสมาคมฯติดอยู่
อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาที่เดินทางไปถึง ไม่พบว่ามีผู้ใดอยู่ในสมาคมฯ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา จึงฝากนามบัตรติดต่อกลับเอาไว้กับแม่บ้าน
ผ่านไปไม่นานนัก มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกสมาคมฯคนหนึ่ง ได้ส่งรายละเอียดของนายกสมาคมฯ ให้สำนักข่าวอิศราติดต่อ
ผู้รับสาย คือนายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย-เอเชีย
นายกสมาคมฯ กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ว่า นายหวัง หรือชื่อเต็มว่าหวัง หยี่ เฉิง ที่ปรากฏเป็นข่าวในสำนักข่าวรอยเตอร์สนั้น เมื่อก่อนเคยทำงานให้สมาคมฯจริง เป็นรองประธานอยู่ช่วงหนึ่ง
"ตอนเขาเข้ามาสมาคมฯ เราก็ตรวจสอบประวัติดูทั้งจากที่ไทยและที่จีน ก็ไม่มีประวัติความผิดอะไร ทีนี้บทบาทของสมาคมฯ เราทำงานช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือน้ำท่วม แต่นายหวังไม่ได้ไปช่วยเหลือสังคมตามเจตนาของสมาคมฯเลย เราก็เลยเชิญเขาออกจากสมาคมฯ ไปแล้วเมื่อประมาณสามเดือนก่อน"
นายกสมาคมฯ ยังกล่าวย้ำว่า "การเชิญออกนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวในสำนักข่าวรอยเตอร์สแต่อย่างใด
“ส่วนตัวเขา (นายหวัง)ไปทำอะไร ผมก็ไม่รู้ เราไปเช็คประวัติดู (ตอนเข้าสมาคมฯ) ก็ไม่ได้มีการกระทำความผิดอะไร แต่หลัง ๆ เขาก็ไม่มีบทบาทอะไรเลย แต่ที่ผ่านมา ผมไปสวัสดีผู้ใหญ่ เขาก็ตามไป อะไรแบบนี้ แต่หลัง ๆ เราไปช่วยเหลือเหตุน้ำท่วม เขาก็ไม่ช่วยเหลือเรื่องเงินทอง เรื่องโควิดเขาก็ไม่ช่วย ปีหนึ่งเรากำหนดว่าจะต้องจ่ายเงินให้สมาคมฯเพื่อเอาไปทำกิจกรรมต่างๆเขาก็ไม่จ่าย สุดท้ายก็เลยให้ออก” นายกสมาคมฯกล่าว
เมื่อถามว่านายหวังเข้ามาสู่สมาคมฯได้อย่างไร นายกสมาคมฯกล่าวว่า มีอีกสมาคมคนจีนแนะนำนายหวังให้เข้ามา แต่พอเรารู้ว่ามีเรื่องเราก็ตำหนิไปทางสมาคมที่แนะนำนายหวังเข้ามาเหมือนกัน
เมื่อถามถึงกรณีที่สำนักข่าวรอยเตอร์ส กล่าวถึงนายตำรวจที่เคยอยู่ สอท.ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.และเคยรับมอบดอกไม้จากนายหวัง นายกสมาคมฯกล่าวว่า "ตำรวจคนนี้เขาเข้ามาในสมาคมฯตั้งแต่ก่อนจะมาอยู่ในหน่วยงาน สอท.แล้ว"
นายกสมาคมฯกล่าว ยังต่อว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนทาง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึง เขาก็มาขอหน้าหนังสือเดินทางของนายหวังกับทางเราเหมือนกัน เพื่อจะเอาไปตรวจสอบ ซึ่งก็ได้ให้พนักงานประสานงานส่งให้ไปแล้ว
เมื่อถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนายหวังว่ามีธุรกิจอะไร พอจะติดต่อได้อย่างไรบ้าง นายกสมาคมฯกล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก และไม่ได้ติดต่อหลังจากที่เชิญออกจากสมาคมฯ แต่พอรู้ว่าเขามีครอบครัวเป็นคนไทย มีที่อยู่ในเมืองไทย และมีบริษัทค้าขายอยู่
เมื่อถามว่าทางสำนักข่าวรอยเตอร์สได้เคยมาติดต่อสอบถามเรื่องนี้บ้างหรือยัง นายกสมาคมฯกล่าวว่า "ยังไม่ได้ติดต่อมาเลย"
“ต้องขอเรียนว่าสมาคมฯนั้นตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคมตั้งแต่เมื่อปี 2019 ไม่ได้มีเจตนาตั้งขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจแต่อย่างใด คนจีนที่อยู่ในไทย กับคนไทยก็เหมือนกับเป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยเหลือกัน” นายกสมาคมฯกล่าวทิ้งท้าย
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สำหรับประวัติโดยคร่าวๆของสมาคมฯ ถูกระบุบนเว็บไซต์ว่าเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2562 วัตถุประสงค์ในการก่อตั้งคือ เพื่อทํางานร่วมกันและแสวงหาการพัฒนาร่วมกัน เพื่อสร้างสะพานเชื่อมระหว่างไทยและจีน
ขณะที่ในรูปภาพที่ปรากฎบนรายงานข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์สนั้น ปรากฎภาพแคปหน้าจอระบุว่านายหวัง หยี่ เฉิง เป็นอุปนายกบริหารของสมาคม แต่ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของสมาคมฯ ล่าสุดไม่มีภาพของนายหวัง หยี่ เฉิง ปรากฏให้เห็นแล้ว
ภาพแคปหน้าจอในสำนักข่าวรอยเตอร์สที่ระบุว่านายหวังเป็นอุปนายกบริหารของสมาคมฯ
ภาพล่าสุดของบอร์ดบริหารของสมาคมฯที่ไม่ปรากฎชื่อนายหวัง หยี่ เฉิง แล้ว
ส่วนประวัติของนายหวัง หยี่ เฉิง เป็นใคร และพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการโกงคริปโตเป็นอย่างไรนั้น สำนักข่าวอิศราจะนำเสนอรายละเอียดในครั้งถัดไป
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีนี้ ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าหน่วยงานตำรวจในไทย ได้มีการสอบสวนเรื่องนี้เป็นทางการแล้วหรือไม่
นายหวัง หยี่ เฉิง และผู้เกี่ยวข้องยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่