"...การทอดไมตรีครั้งนี้ของ ‘ธนาธร’ นอกจากสะท้อนความสัมพันธ์แนบแน่น ‘จึงรุ่งเรืองกิจ-ชินวัตร’ ที่อยู่ร่วมกันมาบนถนนการเมืองกว่า 20 ปีแล้ว ยังเป็นการหยิบยื่น ‘โอกาส’ ครั้งสำคัญให้กับ ‘ทักษิณ’ ฟื้นศรัทธาประชาชน โดยเฉพาะฝั่งที่อ้างตัวเป็นฝ่าย ‘ประชาธิปไตย’ ให้กลับมาเลือก ‘เพื่อไทย’ อีกครั้ง หากทำได้ตามเกมนี้จริง แน่นอนว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมคงอ่อนกำลังลงไปเยอะ และความนิยมในตัว ‘นายใหญ่’ จะกลับมาล้นพ้นอีกครั้งก็เป็นไปได้..."
จังหวะการเมืองช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาน่าสนใจ
20 พ.ย.ที่ผ่านมา มีประโยคสำคัญจากปาก ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันเป็นประธานคณะก้าวหน้า ยอมรับว่าเคยพบ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีจริง ที่ฮ่องกง ก่อนการเลือกตั้ง 2566
นับเป็นการยอมรับครั้งแรกตั้งแต่กระแสข่าวสะพัด สื่อหลายสำนักรายงาน พร้อมอ้างอิงเที่ยวบินที่ ‘ธนาธร’ เดินทางไปฮ่องกง ซึ่งขณะนั้น ‘นายใหญ่’ ปักหลักรอดีลจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ ‘บิ๊กเนมสีส้ม’ หลายคนออกมาปฏิเสธกันพัลวัน
การออกมาเปิดเผยของ ‘ธนาธร’ น่าสนใจ ทำไมต้องเป็นช่วงเวลานี้
ทั้งที่เมื่อ 17 พ.ย. หรือ 3 วันก่อนหน้านี้ ‘ศาสดาสีส้ม’ บรรยายสาธารณะ แซะรัฐบาลเรื่องการใช้เงิน 5 แสนล้านบาท พร้อมกับออกตัวสุดลิ่มค้านนโยบาย ‘แจกเงินดิจิทัล’ 1 หมื่นบาท
จับจังหวะทางการเมืองช่วงเวลานี้ รัฐบาล ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกฯคนที่ 30 กำลังถูกถล่มอย่างหนักกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล นักร้องจองกฐินยื่นเรื่องร้องเรียนตรวจสอบ เช่นเดียวกับองค์กรอิสระ ทั้งสำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เรียงคิวตรวจสอบยาวเป็นหางว่าว
ส่วนร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ฯ 5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลหวังใช้เป็นเม็ดเงินเพื่อดำเนินนโยบายนี้ก็ไม่แน่นอน ส่อแท้งได้ทุกเวลา ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
ย้อนกลับไปก่อนเลือกตั้ง เมื่อ ‘นายใหญ่’ พำนักฮ่องกง โรงแรมเพนนินซูล่า ฝั่งเกาลูน ระหว่าง 23-27 ก.ค. 2566 หน่วยงานความมั่นคงของไทยพบว่า เมื่อ 24 ก.ค.สะพัด ‘ธนาธร’ เดินทางไปพบ ‘ทักษิณ’ จริง ก่อนเดินทางกลับไทยเมื่อ 25 ก.ค.
ว่ากันว่า ‘ธนาธร’ เข้าพบ ‘ทักษิณ’ โดยตรงครั้งนี้ได้ จากการดีลของ ‘หญิงเหล็ก’ หลังม่านแห่งตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ ที่อยู่เบื้องหลังเส้นทางการเมืองของตระกูลตั้งแต่ยุคไทยรักไทยก่อร่างสร้างพรรค
บทสนทนาในวันนั้น สื่อบางสำนักรายงานอ้างว่า มีการหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันระหว่าง ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ โดย ‘ก้าวไกล’ ยอมถอยเรื่องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
แต่ ‘เพื่อไทย’ ต้องสนับสนุนเรื่องร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทุกสีทุกฝ่าย ตั้งแต่ปี 2549-2566 ซึ่งหมายรวมถึง ‘นักโทษการเมือง’ ระหว่างปี 2562 เป็นต้นมาด้วย
อย่างไรก็ดีด้วยสถานการณ์การเมืองขณะนั้น ‘นายใหญ่’ เซย์ “โน” พร้อมลงเรือลำเดียวกับพรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยม ‘2 ลุง’ จัดตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ อย่างที่หลายคนเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
ทว่าหลัง ‘ทักษิณ’ เดินทางกลับไทย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือจำคุก 1 ปี ปัจจุบันผ่านมาแล้วประมาณ 3 เดือน ขณะที่คาดการณ์กันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หรือราว ๆ กลางปี 2567 ‘ทักษิณ’ อาจได้รับการ ‘พักโทษ’ ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกได้เต็มที่อีกครั้ง
สอดคล้องกับการปรับโครงสร้างภายในพรรคเพื่อไทย ที่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กขึ้นมานำพรรค พร้อมกับเปลี่ยนกรรมการบริหาพรรคใหม่
ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ฟาก ‘ก้าวไกล’ ปรับโครงสร้างพรรค ‘เฉพาะกิจ’ ตามคำนิยามของ ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่แบบ ‘ชุดใหญ่’ อีกครั้งช่วงเดือน เม.ย. 2567 ซึ่งปัจจุบันความเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในก้าวไกลมีน้อยมาก จนแทบไม่มีข่าวเล็ดลอดจากสื่อ หากไม่นับเรื่องฉาวคุกคามทางเพศ และประเด็นฉาวรายวัน ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง
นั่นเท่ากับว่าช่วงกลางปีหน้ามีไทม์ไลน์ทางการเมืองสำคัญเกิดขึ้น 3 อย่างคือ 1.ทักษิณอาจได้รับการพักโทษ 2.ก้าวไกลปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่ 3.สว.จะหมดอำนาจในการโหวตเลือกนายกฯ
จังหวะดังกล่าวทำให้ ‘ธนาธร’ ตัดสินใจ ‘ทอดไมตรี’ กลับไปหา ‘นายใหญ่’ อีกครั้ง เพื่อหวังจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน สานฝัน ‘แดง-ส้ม’ อีกครั้ง
ต้องไม่ลืมว่าปัจจุบัน ‘ก้าวไกล’ เดินเกมชงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ หลักใหญ่ใจความสำคัญคือ นิรโทษฯทุกสีทุกฝ่ายตั้งแต่ปี 2549 ส่วนการนิรโทษฯบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โยนเป็นเรื่องของสภาฯตัดสินใจ
นั่นหมายความว่า หาก ‘เพื่อไทย’ หนุนร่างกฎหมายนี้ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ น้องสาว ก็อาจมีสิทธิกลับไทยได้ เช่นเดียวกับ ‘พี่ชาย’ โดยอาจไม่ต้องรับโทษทัณฑ์เข้าคุกเหมือน ‘ทักษิณ’ ด้วยซ้ำ
อีกมุมหนึ่งบรรดา ‘3 ทหารเสือ’ พรรคส้มยุคแรกทั้ง ‘ธนาธร-ปิยบุตร (แสงกนกกุล)-พรรณิการ์ (วานิช)’ อาจกลับมาโลดแล่นบนถนนการเมืองอีกรอบ หากได้รับการนิรโทษกรรม
นอกจากนี้ถ้าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่าน อาจเป็นช่วงเวลาเดียวกับ ‘ทักษิณ’ พักโทษ และก้าวไกลปรับโครงสร้างพรรคใหม่พอดิบพอดี
ที่สำคัญ ‘นายใหญ่’ ย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า ขณะนี้กำลังกลายเป็น ‘ม้าใช้’ ให้กับกลุ่มอนุรักษนิยมเพื่อสร้างฐานอำนาจทางการเมือง นั่นทำให้อนาคตจะไม่ได้รับเสียงโหวตจาก ‘นิวโหวตเตอร์’ ที่กลายเป็น ‘ด้อมส้ม’ กันหมดแล้ว
หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ชื่อของ ‘ทักษิณ’ คงเหลืออยู่แค่ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย มิสามารถนำมา ‘ขายได้’ อีกต่อไป
ดังนั้น การทอดไมตรีครั้งนี้ของ ‘ธนาธร’ นอกจากสะท้อนความสัมพันธ์แนบแน่น ‘จึงรุ่งเรืองกิจ-ชินวัตร’ ที่อยู่ร่วมกันมาบนถนนการเมืองกว่า 20 ปีแล้ว
ยังเป็นการหยิบยื่น ‘โอกาส’ ครั้งสำคัญให้กับ ‘ทักษิณ’ ฟื้นศรัทธาประชาชน โดยเฉพาะฝั่งที่อ้างตัวเป็นฝ่าย ‘ประชาธิปไตย’ ให้กลับมาเลือก ‘เพื่อไทย’ อีกครั้ง
หากทำได้ตามเกมนี้จริง แน่นอนว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมคงอ่อนกำลังลงไปเยอะ และความนิยมในตัว ‘นายใหญ่’ จะกลับมาล้นพ้นอีกครั้งก็เป็นไปได้
แต่การเดินหมากครั้งนี้ ของ ‘ทักษิณ’ ต้องขบคิดให้ถี่ถ้วน เพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมย่อมอ่านเกมออก และเป็น ‘ผู้คุมกระดาน’ อยู่
โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่ ‘ทักษิณ’ ยังต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะได้รับการพักโทษ หรือพ้นโทษ
อย่างไรก็ดี การออกมาเปิดเผยเรื่องดีล ‘ทักษิณ-ธนาธร’ ในช่วงเวลานี้
จึงทำให้ถูกมองจากหลายฝ่ายว่า เป็นความตั้งใจของของใครบ้างคน ที่ต้องการจะย้ำเตือน ใครบ้างคน ถึงข้อตกลงเรื่องการสานฝัน ‘แดง-ส้ม’
ว่ายังจำได้หรือไม่?
จะหมู่หรือจ่า ถึงเวลาที่ ‘ทักษิณ’ ต้องเลือกทางเดินแล้ว