เปิดบัญชีทรัพย์สิน 'ศักดิ์สยาม ชิดชอบ' กรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กว่า 111 ล้าน เงินสด 1.9 ล้าน เงินฝาก 68 ล้าน ที่ดิน 19 แปลงในบุรีรัมย์ รายได้ 1.3 ล./ปี เพิ่มขึ้นจากตอน พ้น สส.สมัยรัฐบาลบิ๊กตู่ 1.08 ล้าน ไม่มีหุ้นรับเหมา หจก.บุรีเจริญฯ
มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาท ในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน 2 ครั้ง ระยะห่างเกือบ 5 เดือน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ตัวแสดงใหญ่ทางการเมือง พรรคภูมิใจไทย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
นายศักดิ์สยาม แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 111,320,933 บาท ไร้หนี้สิน ประกอบด้วย
เงินสด 1,900,000 บาท เงินฝาก 68,673,233 บาท ทั้งหมด 2 บัญชี เป็นบัญชีธนาคารทหารไทยธนชาต (ออมทรัพย์)
เงินลงทุน 1 รายการ เป็นกองทุนเปิดธนชาตตลาดเงิน ไม่ได้ระบุมูลค่าไว้
ที่ดิน 19 แปลง 34,248,450 บาท โดยทั้งหมด เป็นที่ดินใน ต.สะแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ระบุวันที่ได้ว่า 11 พ.ย. 2557
ยานพาหนะ 2,100,000 บาท เป็นรถยนต์ 2 คัน
และทรัพย์สินอื่น 4,399,250 บาท เช่น พระเครื่องเลี่ยมทอง 1 องค์ 1,500,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น 159,750 บาท ปืนลูกโม่ขนาด .38 ยีห้อสมิธ 1 กระบอก 20,000 บาท ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. ยีห้อซิกซาวเออร์ 1 กระบอก 50,000 บาท พระเครื่องเลี่ยมทอง 1 องค์ 200,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท 1 เส้น 319,500 บาท ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม.ยีห้อ กล็อก 1 กระบอก 50,000 บาท งาช้าง 1 คู่ 1,400,000 บาท นาฬิกาโรแล็กซ์ 1 เรือน 200,000 บาท แหวนเพชร 1 วง 500,000 บาท เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ในหน้าสิทธิและสัมปทาน มีการแจ้งไว้ 240,000 บาท เป็นสัญญาเช่าบ้านที่ จ.บุรีรัมย์ และสัญญาเช้าห้องชุดที่ จ.กรุงเทพ แต่ไม่ได้ระบุไว้ในหน้ารวมบัญชีทรัพย์สิน
ข้อมูลรายได้ต่อปีและรายจ่ายต่อปี (โดยประมาณ)
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,362,000 บาท เป็นเงินค่าตอบแทน สส./ปี ทั้งหมด ส่วนรายจ่ายต่อปี 2,040,000 บาท เป็นค่าเช่าบ้าน 240,000 บาท และค่าใช้จ่ายส่วนตัว 1,800,000 บาท
นายศักดิ์สยาม แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,388,880 บาท
เปรียบเทียบกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน กรณีพ้นตำแหน่ง สส.สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นายศักดิ์สยาม กรณีพ้นตำแหน่ง สส. สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566
โดย นายศักดิ์สยาม แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 110,236,673 บาท ไร้หนี้สิน
ประกอบด้วย เงินฝาก 69,488,973 บาท ทั้งหมด 2 บัญชี เป็นบัญชีธนาคารทหารไทยธนชาต (ออมทรัพย์)
กองทุน 1 รายการ เป็นกองทุนเปิดธนชาตตลาดเงิน ไม่ได้ระบุมูลค่าไว้
ที่ดิน มูลค่า 34,248,450 บาท จำนวน 19 แปลง รวมเนื้อที่ 323 ไร่ 3 งาน 73 ตารางวา ไม่ได้ระบุที่ตั้งไว้
ยานพาหนะ 2,100,000 บาท เป็นรถยนต์ 2 คัน ยีห้อ TOYOTA Fortuner และ Volkswagen
และทรัพย์สินอื่น 4,399,250 บาท เช่น พระเครื่องเลี่ยมทอง 1 องค์ 1,500,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น 159,750 บาท ปืนลูกโม่ขนาด .38 ยีห้อสมิธ 1 กระบอก 20,000 บาท ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. ยีห้อซิกซาวเออร์ 1 กระบอก 50,000 บาท พระเครื่องเลี่ยมทอง 1 องค์ 200,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท 1 เส้น 319,500 บาท ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม.ยีห้อ กล็อก 1 กระบอก 50,000 บาท งาช้าง 1 คู่ 1,400,000 บาท นาฬิกาโรแล็กซ์ 1 เรือน 200,000 บาท แหวนเพชร 1 วง 500,000 บาท เป็นต้น
ในหน้าสิทธิและสัมปทาน มีการแจ้งไว้ 240,000 บาท เป็นสัญญาเช่าบ้าน จ.บุรีรัมย์ และสัญญาเช้าห้องชุด จ.กรุงเทพ แต่ไม่ได้ระบุไว้ในหน้ารวมบัญชีทรัพย์สิน
ข้อมูลรายได้ต่อปีและรายจ่ายต่อปี (โดยประมาณ) ตอนพ้นสส.สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,682,155 บาท โดยแบ่งเป็น ค่าตอบแทน สส. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 1,379,545 บาท ดอกเบี้ยจากธนาคาร 302,610 บาท และรายจ่ายต่อปี 840,000 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 600,000 บาท และค่าเช่าบ้าน 240,000 บาท
นายศักดิ์สยาม แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 141,498 บาท
เมื่อเปรียบเทียบกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน กรณีพ้นตำแหน่ง สส. สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. พบว่า นายศักดิ์สยามมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,084,260 บาท โดยมีเงินสดเพิ่มมา 1,900,000 บาท แต่เงินฝากลงลด 815,740 บาท และรายได้ต่อปีลดลง 320,155 บาท เนื่องจากไม่ได้มีรายได้จากดอกเบี้ยธนาคาร และเงินประจำตำแหน่ง รมว. อีกทั้งมีการแจ้งยื่นเสียภาษีบุคคลธรรมดาในรอบปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 1,247,382 บาท
อย่างไรก็ตาม ในการยื่นตอนเข้าตำแหน่ง สส.มีการระบุรายละเอียดเพิ่มเติมที่ตั้งของที่ดินมา
ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลรายละเอียดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นายศักดิ์สยาม ที่ยื่นต่อ สำนักงาน ป.ป.ช.
เห็นได้ว่า การยื่นบัญชีฯทั้งสองครั้ง นายศักดิ์สยามมิได้ระบุมีเงินลงทุน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ที่เป็นปัญหาถูกร้องเรียนว่าให้ นอมินีถือครองแทน
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ยังมีคดีอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ กรณีส.ส.จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า นายศักดิ์สยาม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนําไปสู่การวินิจฉัย และกําหนดนัดพิจารณาคดีต่อ ในวันพุธที่ 20 ก.ย. 2566 เวลา 09.30 นาฬิกา ที่จะถึงนี้
ไม่กี่อึดใจจะทราบผล