"....คุณการ์ตูน ได้มีการปรึกษาหารือกับอัยการรายนี้ เกี่ยวกับเรื่องการไปชี้แจงข้อมูลกับเจ้านายที่เป็นชาวต่างประเทศให้รับทราบแนวทางที่จะเดินหน้าสู้คดีนี้ต่อ พร้อมระบุว่าจะไปสอบถามผู้ว่าฯ อีกทางหนึ่งด้วย ..ก่อนที่ในเวลาต่อมาไม่นานนัก จะมีบุคคลคนหนึ่ง คาดว่าจะเป็น อัยการ B รายเดิม โทรศัพท์มาสอบถามความคืบหน้าผลการเจรจาข้อตกลงเรื่องจำนวนเงินแลกเปลี่ยนการช่วยเหลือทางคดีในวงเงิน 10 ล้านบาท จากคุณการ์ตูน อีกครั้ง โดยเริ่มต้นประโยคสนทนาในคลิปเสียงชุดแรกว่า “ได้ข้อยุติหรือยังเนี่ย เค้ารอกันอยู่”..."
นายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 8 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดภูเก็ต ถูกตัดสินลงโทษ จำคุก 12 ปี
นายวันฉัตร ชุณหถนอม อดีตอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้สนับสนุน ถูกตัดสินลงโทษ จำคุก 8 ปี
คือ คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ที่ตัดสินลงโทษจำเลยทั้ง 2 ราย ในคดีถูกกล่าวหาเรียกรับเงิน 10 ล้านบาท แลกเปลี่ยนกับการช่วยวิ่งเต้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ทำความเห็นแย้งเห็นตามความเห็นของอัยการที่จะไม่สั่งฟ้องคดีกระทำความผิดบุกรุกที่สาธารณะในจังหวัดภูเก็ต เคยปรากฎเป็นข่าวดังในช่วงปี 2562 ภายหลังสำนักข่าวอิศรา นำเสนอข่าว นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ออกคำสั่งที่ 1191/2562 ให้พนักงานอัยการช่วยราชการ ปฏิบัติราชการ และรักษาราชการ 11 ราย ต่อสาธารณชน ปรากฎว่าได้มีผู้นำคลิปเสียงสนทนาความยาวกว่า 21 นาที ของผู้หญิงรายหนึ่ง ระบุสถานะตนเองในคลิปเสียงว่า เป็นลูกน้องนักธุรกิจต่างประเทศ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกระทำความผิดบุกรุกที่สาธารณะในจังหวัดภูเก็ต กับผู้ชายรายหนึ่ง กำลังเจรจาต่อรองเรื่องการจ่ายเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการช่วยวิ่งเต้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ทำความเห็นแย้งเห็นตามความเห็นของอัยการที่จะไม่สั่งฟ้องคดีนี้ ในวงเงิน 10 ล้านบาท ไปร้องเรียนต่อ อสส. เพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่คลิปเสียงสนทนาดังกล่าว ถูกนำไปเผยแพร่ส่งแชร์ต่อตามห้องกลุ่มไลน์อัยการด้วย ก่อนจะมีการสอบสวนในเวลาต่อมา
ในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา เคยนำเสนอบทสนทนาคลิปเสียง ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในการเรียกรับสินบนคดีนี้ มีจำนวน 2 ชุด มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว
ณ โอกาสนี้ สำนักข่าวอิศรา ขอย้อนนำบทสนทนาคลิปเสียง การเรียกรับสินบนทั้ง 2 ชุดมานำเสนอ ณ ที่นี้อีกครั้ง
คลิปเสียงสนทนาชุดแรก
มีความยาวกว่า 21 นาที เป็นการพูดคุยเจรจาต่อรองกันทางโทรศัพท์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนส.ค.2562 และนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำไปใช้เป็นหลักฐาน แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ. เมือง ภูเก็ต เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2562
ผู้หญิง : นายมา (หนู = แทนชื่อเล่นที่เรียกในคลิป) ประชุมทั้งวันเลย
ผู้ชาย : แล้วได้ข้อยุติหรือยังเนี่ย เค้ารอกันอยู่
ผู้หญิง : นายเขาก็ต่อรองราคาพี่ คือยอดแก...ก็ให้หนูถามจริงๆ แหละว่ามัน... คือ.. คือหนูให้ยอดไปแล้วเขาบอก 7 หลัก แต่เขาก็ไม่ได้พูดว่าหลักไหนอะไรอย่างนี้ แต่นายก็มีคำถามว่าแล้วทำไมแกต้องให้ผู้ว่าฯ เราก็เลยบอกว่า มันก็เป็นความเสี่ยง คือ (สงวนชื่อ) เอาในสิ่งที่ท่านอัยการ(สงวนชื่อ) ท่านพูดหรืออะไรประมาณนี้ เขาพูดว่ามันเหมือนตอนนั้น แกพูดว่ามันมีความเสี่ยงในเรื่องว่าความคิดเห็นของหนูที่ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด อะไรประมาณนี้ พี่ แล้วยอดนี้มันจะไปสิ้นสุดที่ไหนกัน ยอดถ้าเกิดท่านผู้ว่าไม่ยอม
ผู้ชาย : ยอมสิ ก็คุยแล้ว
ผู้หญิง : แล้วมันอยู่ได้ยอดที่เท่าไหร่
ผู้ชาย : (สงวนชื่อ) ก็น่าจะรู้อยู่แล้ว
ผู้หญิง : อันนี้ไม่รู้ ที่บอกว่าไม่รู้เนี่ย ไม่รู้ในส่วนของว่าเราไปบอกเขา 7 หลักตามที่วันนั้นพี่คุยให้หนูฟังแหละ แต่แกก็ถามหนูรู้ได้ไงนะ หนูก็เลยบอกว่า ก็ท่าน(สงวนชื่อ) เป็นคนพูดว่า ท่านผู้ว่าฯ ท่านให้โทรมาแล้ว
ผู้ชาย : ก็ไปคุยกันแล้ว
ผู้หญิง : ท่านพอจะลดให้ได้มั้ยพี่ ก็คือไอ้คำว่า7หลักเนี่ยมันหลักต้น หลักกลาง หลักปลาย ช่วยบอกหนูหน่อยเหอะ แกถามหนูก็ไม่สามารถบอกแกได้ เขาถามว่ามันต้น คือ เขาถามว่าล้านหนึ่งหรือ แต่หนูก็แค่คิดหรือมันประมาณเท่าไหร่พี่ โดยคดีพวกนี้มันเท่าไหร่
ผู้ชาย คือ มันก็ต้องขึ้นอยู่กับท่าน(สงวนชื่อ) เป็นหลัก
ผู้หญิง : แล้วท่าน(สงวนชื่อ) ท่านพูดว่ายังไงพี่ เขาไปคุยแล้วเนี่ย ถ้าเกิดว่าสมมุติว่าเรา... ท่าน(สงวนชื่อ) ไปคุยแล้วใช่ไหม
ผู้ชาย : ท่าน(สงวนชื่อ) เขาจะดูหลายอย่าง ทั้งบริษัท แล้วเขามีฐานข้อมูลของเราหมดอ่ะ นึกออกไหมเขาจะดูในเรื่องกำไรเรื่องรายได้ ต้องเข้าใจเขานะ เขามองอะไรไม่ใช่เขามองธรรมดานะ เขามองในเชิงธุรกิจ ถ้าท่าน(สงวนชื่อ) เขาตั้งไว้7หลักเลขสองตัวนะ
ผู้หญิง: ท่าน(สงวนชื่อ) แกได้มาจากไหน แกได้มาจากท่านผู้ว่าใช่ไหมคะ
ผู้ชาย : ใช่
ผู้หญิง : 7 หลักเลขสองตัว 8 หลัก อันนั้น 8 หลักแล้วพี่ งั้นก็สิบล้านสิ
ผู้ชาย : ก็ใช่ไง
ผู้หญิง : อ๋อ ต่อได้มั้ย เหลือตัวเดียวได้ไหมอ่ะพึ่ เหลือตัวเดียวได้ไหมหลักกลาง แต่ว่าถ้าอันนี้ ถ้าเกิดหนูโดนไปหมายถึงถ้านายโดนไปนั่นหมายถึงแกต้องไปรายงานตัวที่ ตม. (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ใช่ไหม
ผู้ชาย : ใช่
ผู้หญิง : ตัวหนูซึ่งเป็นกรรมการก็จะโดนด้วยใช่ไหมคะ
ผู้ชาย : ใช่ คือต้องเข้าใจว่าท่าน(สงวนชื่อ) ตำแหน่งแกเป็นกฎหมายพิเศษด้วย แกมีอำนาจตามกฎหมายที่ทหารตั้งแกเฉพาะตัวด้วย นึกออกมั้ย คือท่าน(สงวนชื่อ) แกไม่ใช่อัยการธรรมดาแกเป็นกฎหมายที่คสช.ตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะ ในพวกกฎหมายใหม่กฎหมาย แกจะมีอำนาจ แกไม่ได้ขึ้นกับผมโดยตรง แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ แกสามารถมีอำนาจโดยตรงอีกเฉพาะที่เมื่อเขาปฏิวัติแล้วเขาตั้งขึ้นมา มีคณะกรรมการชุดหนึ่งเป็นจังหวัดอ่ะนะ
ผู้หญิง : หนูโทรไปต่อแกได้ไหมพี่ หนูโทรไปต่อแกได้ไหม
ผู้ชาย : โอ้ จะไปต่ออะไรกับแก คุยกับผมยังง่ายกว่าอีก
ผู้หญิง : ก็ท่าน(สงวนชื่อ) แกตั้งมาอยู่2ตัว หนูเลยบอกว่าเหลือสักประมาณสัก คดีนี้มันร้ายแรงแค่ไหนอ่ะ อันนี้ หนูก็ไม่รู้เลยอ่ะ หนูมึนไปหมดเลยพี่
ผู้ชาย : มันร้ายแรงไหม ความร้ายแรงมันอยู่ที่การแบล็คลิสต์ (ขึ้นบัญชีดำ) แค่นั้นเอง ท่านจะมีความสัมพันธ์มีอำนาจที่จะแจ้งไปยังทางตม.ทำคดีความกับใคร อันนั้นแหละที่มันจะเป็นปัญหายากที่สุดสำหรับพวกเรา ความยากมันอยู่ตรงนั้นมากกว่า ถ้าเป็นนักธุรกิจแล้วโดนแบล็คลิสต์ไปแล้วมันจะเดินทางเข้าออกยากมาก
ผู้หญิง : หนูขอพานายไปเจอพี่กับท่าน(สงวนชื่อ) ได้ไหม ถ้าเกิดให้ท่าน(สงวนชื่อ) แกอธิบายให้นายฟังชัดเจนไปเลย แต่แกพูดภาษาอังกฤษได้ แกพูดไปเลยไม่เป็นไรพี่ เพราะว่าก็ดีนะได้ยินในส่วนบางส่วนแกก็จบเคส(กรณี)ของแกได้เลย
ผู้ชาย : แล้วหนูตั้งมาเท่าไหร่
ผู้หญิง : ที่แรกนะ เพราะว่าหนูก็ด้วยความที่ไม่รู้นะ ว่าแกจะมีอำนาจถึงขนาดนั้น หนูก็บอก7หลักหนูก็มองเป็นล้านเดียว หนูขอโทษเถอะ อย่าว่าหนูเลย แต่ว่าพออันนี้หนู ด้วยความที่หนูก็ไม่เคยจ่ายเรื่องแบบนี้แต่ว่าเรื่องจ่ายไม่จ่ายเนี่ยไม่เป็นไรหรอกว่าเคยหรือไม่เคยแต่ถามถ้ามันมีเรื่องที่ต้องคุยกันอย่างนี้หนูก็ต้องบอกแล้วแหละว่าเออ ก็หนูตั้งต่ำไปอะไรประมาณนี้อ่ะพี่
ผู้ชาย : เดี๋ยววันจันทร์เข้ามาคุยก็ได้
ผู้หญิง : เดี๋ยวไม่... วันจันทร์หนูบินไปประชุมที่กรุงเทพกับนาย ที่อาคาร(สงวนชื่อ) แล้วเสร็จหนูอาจจะกลับมาในช่วงตอนเย็นหกโมง ถ้าจะเป็นไปได้เนี่ยเดี๋ยวหนูลองถามนายวันอังคารได้ไหมคะพี่ ซักวันอังคารได้ไหมคะ
//////////////
ผู้หญิง : พี่คะ แล้วอย่างนี้คือหนูสอบถามหน่อยว่าตัวนี้เรา เราก็คือให้ก่อนแล้วก็เราก็รอผลอีกกี่วันอ่ะคะ
ผู้ชาย : วันเดียวสองวันก็ได้
ผู้หญิง : ก็เป็นท่านผู้ว่า(สงวนชื่อ) ท่านเป็นคนลงนามเอง แต่วันนั้นเห็นท่าน(สงวนชื่อ) บอก
ผู้ชาย : ท่านรอง (สงวนชื่อ) เป็นคนลง
ผู้หญิง : อ้อโอเค แปลว่าจะรอท่านผู้ว่า อ้าวพี่แล้วอย่างนี้แกจะถึงท่านผู้ว่าหรอ
ผู้ชาย : ทั้ง2คนคุยกันแล้ว เบอร์1เบอร์2เขาต้องรับรู้กันหมด ฝ่ายปกครอง
ผู้หญิง : แปลว่าทางนี้ ท่าน(สงวนชื่อ) เตรียมการให้หนูแล้วใช่ไหม ...งั้นหนูก็ต้องเรียนให้นายทราบ
ผู้ชาย : อัยการมีหน้าที่ทำหนังสือนำส่งไปแค่นั้นเองตอนนี้
ผู้หญิง : แต่ทำหนังสือ แต่ความคิดเห็นที่ต้องส่งไปนั้นเนี่ยก็มีพร้อม (เสียงผู้ชาย :ต้องส่งไปด้วย) พร้อมความคิดเห็นด้วยใช่ไหมคะพี่
ผู้ชาย : ใช่ๆ นี่เขาร่าง มีร่างมาหลายแบบแล้วนะ
ผู้หญิง : จริงหรอ กังวลเลยอ่ะ
ผู้ชาย : แบบส่งไปให้แย้งเลย แบบส่งไปไม่ให้แย้งมีสองแบบแล้วนะเขาทำไว้แล้ว ท่าน(สงวนชื่อ) เขาทำไว้เรียบร้อยแล้ว
ผู้หญิง : อ้อ เขาทำแทน หมายถึงว่าเขาทำความเห็นลงแทนให้พี่ใช่ไหม
ผู้ชาย : พี่ต้องเป็นคนเซ็นเองไง แต่เขาเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว
ผู้หญิง : พี่ความเห็นแย้ง ก็ต้องบอกนายมีความเห็นแย้งแล้วนะตัวนี้
ผู้ชาย : เขามันเป็นในทางนั้นอยู่แล้ว เพราะเขารับทราบไปหมดแล้ว เข้าใจไหม เขารับทราบข้อมูลของเราไปหมดแล้ว
ผู้หญิง : แต่ท่าน(สงวนชื่อ) แกก็คงน่าจะเห็นโครงการหนูแล้วแหละ เพราะว่าไม่งั้นแกจะ คือข้อมูลแกคงต้องเป๊ะอ่ะเพราะแกเคยมาโครงการหนูแล้ว
ผู้ชาย : เขาไม่ต้องเป๊ะหรอก ท่าน(สงวนชื่อ) เข้าถึงข้อมูลได้ทุกเรื่องเค้ามีอำนาจพิเศษที่เค้าเข้าถึงข้อมูลทางบริษัทต่างๆได้หมดเพราะเขาเป็นในคณะของคสช. เขาสามารถมีข้อมูลที่เขาสามารถเข้าถึงธุรกรรมของคนอื่นได้หมด พอนึกออกไหม เขามีอำนาจเฉพาะตัว บางคนไม่มีอำนาจแต่ตรงนี้เขามีอำนาจในทุกที่ คสช.ตั้งเขา เขาใช้อำนาจตามกฎหมาย ความมั่นคง
ผู้หญิง : พี่ ท่านอัยการ คะ หนูมองว่าตัวนี้ถ้าเป็นยอด ที่มันเป็นสิบล้านนี่นะ ถึงแม้จะลงมาถึงห้าล้านหรืออะไรก็แต่ หนูไม่รู้ว่าจะจบที่ยอดไหน หนูบอกว่าตอนนี้นายหนูมาแล้วเนี่ยขอให้แกได้ยินจากปากเอง คือคุยกันเองอ่ะแต่หนูจะเป็น คือหนูคุยกับนายแล้วว่าตอนนี้ความเสี่ยงมันเกิดขึ้นนะ คุณ(สงวนชื่อ) ยูเนี่ยจะต้องไปนั่งฟังเอง ไม่ได้มาจากฉันนะ หมายความว่าคือเงินที่ไปเนี่ยมันก็ไม่ได้ไปไหนนะไปถูกให้เจ้าหน้าที่เขาชัดเจนหมดเลยไม่เกี่ยวกับฉัน เพราะตอนนี้ตอนที่หนูไปพูดเนี่ยแล้วมันลักษณะว่าเหมือนหนูไปเอาเงินเค้านะพี่ คือหนูถึงบอกว่าอยากจะให้แกรับรู้เลย ไปพร้อมหนูนี่แหละพี่
ผู้ชาย : ก็ได้ๆ เพราะว่าสมัยก่อนคุยกับคนจีนเขาก็จะเป็นคนคุยแบบนี้แหละ ที่เหลือก็ปล่อยให้ผมเป็นคนคุยแทนไง เค้าก็จะอธิบาย
ผู้หญิง : แต่อันนี้ นายก็คุยไม่ยากหรอกนะเพียงแต่ว่าก็ต้องคุย แต่หนูก็บอกพี่ตามตรงนะว่าช่วงนี้สภาพของเรา ในของบริษัทเนี่ย พูดก็ไม่ได้โกหกนะคะเดี๋ยวพี่จะหาว่าอยากจะต่อราคาหรือเปล่าที่ว่า ที่เหมือนประมาณว่าจะเอาความลำบากของบริษัทช่วงนี้มาเล่าให้พี่ฟังอะไรอย่างนี้ มันก็โชว์ได้แหละ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาที่พี่ต้องรับรู้ไงมันเป็นปัญหาที่ของพวกเราต้องแก้ไขกันเองแต่เพียงแต่ว่าก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องให้พี่พิจารณาว่าไปบอกกับทางท่าน(สงวนชื่อ) หรือท่านผู้ว่า ว่าลดให้เราหน่อยนะ หรืออะไรอย่างนี้อ่ะ แต่ว่าหนูก็บอกนะหนูไม่รู้นายจะพูดเปล่านะแต่หนูพูดไปก่อนแล้วแหละ อันนี้หนูไม่ได้โกหกหนูพูดในมุมหนูจริงๆ งั้นเดี๋ยวหนูถามนายแล้วเดี๋ยวหนูรีบโทรกลับหาพี่นะ
//////////////
ผู้ชาย : ลองคุยๆกันดูรีบแก้ มันต้องจบอาทิตย์นี้แล้ว
ผู้หญิง : อาทิตย์นี้เลยหรอพี่....อือ...อาทิตย์นี้ขอจ่ายเงินเดือนก่อนได้ไหม
ผู้ชาย : ทางภาคเขาก็ตามมา
ผู้หญิง : หมายถึงทางจังหวัดหรอคะตามมา
ผู้ชาย : ไม่ใช่ทางภาค (สงวนตัวเลข)
ผู้หญิง : ภาค(สงวนตัวเลข) หมายถึงทางอัยการภาค(สงวนตัวเลข) อ๋อ..โอเคค่ะ
ผู้ชาย : ใช่ๆเพราะเรื่องมันมาทางนู้น
ผู้หญิง : พี่แต่อันนี้เราไม่ผิดใช่ไหม ว่าที่ทางตำรวจเขาสั่งมาแบบนี้ แล้วมันจะติดสำนวนไปให้ผู้ว่าเห็นไหมพี่ อ๋อแล้วจะทำยังไงไม่ให้มันติด
ผู้ชาย : ไม่เป็นไรเขามีวิธี ให้เป็นหน้าที่ของที่จังหวัด เขาทำเองไม่เป็นไร
ผู้หญิง : แล้วถ้าเกิดว่าผู้ว่าเห็นแย้งแล้ว สส.เห็นด้วย สมมุติถ้านายไม่จ่าย สมมุติถ้านายไม่จ่ายนายจ่ายไม่ถึงหรือไปทางที่ว่าไม่จ่ายเนี่ยแกสมควรที่จะต้องได้รับรู้ว่าแกเจออะไรบ้าง (เสียงผู้ชาย :ใช่) อันนี้หนูต้องบอกแกนะข้อที่หนึ่งคุณอาจจะโดนแจ้งความใช่ไหมคะ
ผู้ชาย : ไม่ต้องโดนหรอกไม่ได้แจ้งความหรอก ก็คือดำเนินคดีไปเอาตัวไปฟ้องเลย ออกหมายจับเลย
ผู้หญิง : อ๋อ ดำเนินคดี เอาตัวไปฟ้อง แล้วก็ อันนี้หนูนั่งจดให้แกอยู่ เขาจะอนุญาตให้ประกันตัวไหม
ผู้ชาย : อันนั้นคือเรื่องของศาล แต่ทางเราถ้าฟ้องเราก็จะแบล็คลิสต์
ผู้หญิง : แล้วก็ทำแบล็คลิสต์ ห้ามเข้าออกในประเทศไทยหรือคะพี่ ห้ามออกนอกประเทศเลย
ผู้ชาย : แล้วก็ต้องอยู่ทั่วไปเลยเพราะเป็นต่างด้าวไงเป็นชาวต่างชาติ พอหมดคดีเราก็ไม่ให้ออกเพราะเราเกรงว่าจะหลบหนี ถึงแม้ว่าศาลจะให้ประกันตัว ถ้าเราก็จะใช้ระบบแบล็คลิสต์ไว้เพราะว่าเราถือว่าคดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับทรัพยากร เขามองว่าเป็นเรื่องร้ายแรง
ผู้หญิง : อันนี้ฟ้องศาลแขวงหรือศาลจังหวัดอ่ะคะ /ศาลจังหวัดสิ/ โอเค โดนแน่ คุณ (สงวนชื่อ) ถ้าแกไม่ยอมนี่แกโดนแน่ แล้วก็ถึงแม้ว่าศาลจะให้ประกันตัวแต่สุดท้ายทางเราก็จะแบล็คลิสต์ แต่ถ้าแบล็คลิสต์ก็แปลว่าก็ส่งจดหมายไปที่ตม.ใช่ไหมคะ
ผู้ชาย : ใช่ ท่าน(สงวนชื่อ) ก็ส่งจดหมายไปที่ตม.
ผู้หญิง : ท่าน(สงวนชื่อ) ออกหนังสืออ่อใช่อย่างที่เมื่อกี้พี่พูด โอเค ถ้าเขาอยากจะเสี่ยงก็ให้ดูเอา ก็ให้คุณอยู่มิตรภาพแบบนี่ไป
ผู้ชาย : เออ คุณอาจจะชนะคดีก็ได้ศาลอาจยกฟ้องคดีก็ได้ใช่มั้ย คุณก็คลีนเลยก็ไม่เป็นไร
ผู้หญิง : แต่ว่าในระหว่างที่ยกฟ้องเนี่ย ระหว่างดำเนินอยู่ในพวกนี้คุณต้องมาเจอปัญหาอะไรเราบอกคุณหมดนะ
ผู้ชาย : มันเสี่ยงแค่นั้นแหละจะซื้อความเสี่ยงไหม แค่นั้นแหละเอาแค่นั้นแหละทุกความเสี่ยง คดีเนี่ยมีช่องทางมั้ย ช่องทางที่คุณเห็นมันก็ไม่ใช่ว่าแพ้100%นึกออกไหม แต่ความเสี่ยงมันไปศาลมันไม่รู้มันมีซ้ายกับขวา
ผู้หญิง : อันนี้หนูบอกแกแล้วอยู่คำหนึ่งว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ทางฝ่ายปกครอง คือหนูไม่ได้พูดถึงท่าน(สงวนชื่อ) หรอกนะเพราะว่าแกคงคิดว่าเป็นท่านผู้ว่าคนเดียวแต่จริงๆ บอกแกทั้งหมดก็ดีเหมือนกันเพราะว่าที่แกเห็นจำนวนที่มันเยอะอะไรอย่างนี้อ่ะเพราะว่าทั้งสองท่าน มันไม่ได้มีแต่ท่านเดียว
ผู้ชาย : มันคล้ายๆกันท่าน(สงวนชื่อ) จะทำอะไรมันต้องอยู่ในอำนาจของหน่วยงานจังหวัดมันเป็นอย่างนั้น คือท่าน(สงวนชื่อ) เซ็นอะไรก็ต้องบอกท่านผู้ว่าเขาด้วย เขาแค่มอบให้ทำเหมือนผมก็มอบให้ท่าน(สงวนชื่อ) ทำใช่ไหม
ผู้หญิง : ก็คือท่านผู้ว่าเนี่ยมอบให้ท่าน(สงวนชื่อ) เนี่ยรับผิดชอบคดี มอบให้ท่าน(สงวนชื่อ) ท่าน (สงวนชื่อ) รับผิดชอบคดีไว้ นี่หนูพยายามนึกว่าศัพท์เรียกอะไรเพราะพอเสร็จหนูก็ต้องรีบไปบ้านแกไปนั่งคุยเลย
ผู้ชาย : เขาก็แบ่งความรับผิดชอบไปทำหน้าที่แต่เรื่องทุกเรื่องเนี่ยเหมือนอัยการจังหวัดเนี่ยก็มอบให้ท่าน(สงวนชื่อ) ไปทำเรื่องนี้แต่ยังไงมันก็ต้องควบคุมอยู่ท่าน(สงวนชื่อ) ทำอะไรก็ต้องรายงานถูกต้องไหม มันก็แค่นั้น ไปไปคุยดู แล้วแจ้งมาภายในอาทิตย์นี้
คลิปเสียงสนทนาชุดสอง
มีความยาวประมาณ 19 นาทีเศษ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.ค.2562 เวลา 10.30 น. ณ ห้องทำงานของอัยการรายหนึ่ง ที่สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต ระหว่างที่ผู้หญิงรายนี้ ซึ่งเป็นลูกน้องของนักธุรกิจชาวต่างประเทศ ถูกเรียกตัวเข้าไปพบอัยการ 2 ราย เพื่อพูดคุยหารือเกี่ยวกับแนวทางการช่วยเหลือคดีนี้ ก่อนที่ผู้ชายคนหนึ่ง มีสถานะเป็นอัยการ จะโทรศัพท์มาสอบถามความคืบหน้าผลการเจรจาข้อตกลงเรื่องจำนวนเงินแลกเปลี่ยนการช่วยเหลือทางคดีในวงเงิน 10 ล้านบาท ตามรายละเอียดบทสนทนาในคลิปชุดแรก
เนื้อหาสำคัญในบทสนทนา มีการระบุถึงความผิดพลาดในการส่งสำนวนคดีไปให้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 แทนที่จะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อทำความเห็น ตามข้อมูลที่ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราก่อนหน้านี้ว่า คดีเกี่ยวกับการกระทำความผิดของเอกชนรายนี้ เกิดขึ้นในช่วงปี 2555 ฝ่ายปกครองเข้าไปจับกุมผู้กระทำความผิด ในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นฝ่ายปกครองก็มีการส่งสำนวนคดีให้อัยการฟ้องตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่อัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง ซึ่งตามขั้นตอนกฎหมาย ป.วิอาญา จะต้องส่งเรื่องให้ผู้ว่าฯ พิจารณาสั่งสำนวนตามความเห็นอัยการว่าจะไม่สั่งฟ้องหรือจะทำความเห็นแย้งสั่งฟ้อง แต่อัยการกลับส่งสำนวนไปให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พิจารณาแล้วมีความเห็นแย้งให้สั่งฟ้อง จึงต้องมีการส่งสำนวนไปให้อัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาชี้ขาด แต่ อสส.พิจารณาแล้ว เห็นว่า อัยการส่งสำนวนไปผิดที่ แทนที่จะส่งเรื่องไปให้ผู้ว่าฯ กลับไปส่งให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 สั่งสำนวน จึงตีเรื่องคืนกลับมาให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
โดยเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง มีสถานะเป็นอัยการ ได้กล่าวอ้างกับผู้หญิงรายนี้ ที่มีชื่อ การ์ตูน ว่า เกี่ยวกับคดีนี้ อัยการสูงสุด มีธงมาแล้วว่า ให้สั่งฟ้อง พร้อมระบุว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอุทยานฯสิรินาถ
ขณะที่ การเข้าไปพูดคุยหารือเกี่ยวกับแนวทางการช่วยเหลือคดีนี้ ของ ผู้หญิงที่ชื่อการ์ตูน ณ ห้องทำงานของอัยการรายหนึ่ง ที่สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต ในวันเวลาดังกล่าว มีบุคคลที่อ้างสถานะว่า เป็นอัยการ นั่งอยู่ในห้องทำงาน และรวมพูดคุยผู้หญิงที่ชื่อการ์ตูน จำนวน 2 ราย ไม่ใช่แค่คนเดียว
ภายหลังจากที่ อัยการ A ได้เดินออกไปจากห้องทำงาน คุณการ์ตูน และอัยการอีกราย ขอใช้ชื่อย่อว่า อัยการ B ได้พูดคุยกันต่อถึงรายละเอียดในคดีนี้เพิ่มเติม ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญอยู่ที่ อัยการ B ได้ยืนยันกับ คุณการ์ตูน ว่า เรื่องนี้ อัยการสูงสุด (อสส.) มีความเห็นแย้งให้สั่งฟ้องแน่นอน และได้มีการนําเรื่องนี้พูดคุยกับทางท่านผู้ว่าราชการบ้างแล้ว
รายละเอียดบทสนทนาของบุคคลทั้ง 2 ส่วนนี้ มีดังนี้
อัยการ B : คือ เคสของคดีอาญา ณ ปัจจุบันนี้ คือ เรื่องนี้ ที่มันไปถึง อสส....ซึ่งในประเด็นเรื่องข้อกฎหมาย ผมจะไม่ขอก้าวล่วงแล้วกัน เพราะมันเลยขั้นตอนนั้นไปแล้ว แต่อย่างที่บอก ส่วนมาก อสส. เวลาที่แย้งอะไรมา เขาไม่รู้นโยบายของ...เป็นอย่างไร ค่อนข้างเป็นไปในทางแย้งซะส่วนมาก แย้งไป100 เรื่อง ค่อนข้างจะสั่งกลับมาหมด 90 เรื่อง อันนี้พูดกันแบบตรงๆ เลย เคสนี้ที่ไปถึง อสส. ก็จะมีธง ที่เป็นว่า ฟ้อง
คุณการ์ตูน : อาจารย์เป็นคนที่ไหน
อัยการ B : เมืองกาญจน์
คุณการ์ตูน : ใช่เลย เพราะเสียงเหมือนคนบ้านเรา...
อัยการ B : เราเป็นคนที่ไหน
คุณการ์ตูน : หนูเป็นคนนครปฐม ตาอยู่บ้านโป่ง ก็เลยมีเสียงเป็นแบบนั้น
อัยการ B : (กลับเข้าเรื่องต่อ) เอาละ..มันก็จะเป็นเช่นนั้น เราไม่ต้องลงลึกถึงข้อมูลนะ เพราะมันเลยตรงนั้นไปแล้ว.. ตอนนี้ถ้าเกิด อสส. สั่งฟ้อง ขั้นตอนแรกก็ต้องเชิญตัวมาสั่งฟ้อง ถ้าเชิญตัวมาได้ ก็โอเค ถ้าเชิญตัวมาไม่ได้ ก็ต้องไปออกหมายจับอีก ซึ่งมันก็จะวุ่นวายอีก ต้องเข้าออกต่างประเทศก็จะโดน ลงตม.(สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ก็จะโดน ลงสนามบินก็จะโดน ทีนี่ขั้นตอนนะ ถ้าไปถึงตรงนั้น ถ้าเราเข้าใจว่าเราจะสู้ ช่างมัน สู้แบบตรงๆ เรื่องไปถึงใคร.....ไปถึงผู้ว่าฯ แล้วก็บอกเลยว่าถ้าเรื่องไปถึงผู้ว่าฯ.. ซึ่งก็บอกเลยได้ว่า คุยกับเขาแล้ว เขาก็จะสั่งฟ้อง เขาจะแย้ง และถ้าเกิดเรื่องไปถึง อสส. แต่ถ้า อสส. เห็นด้วยปั๊บ.. อันนั้น ..เป็นงานใหญ่เลย
คุณการ์ตูน : เรื่องจะส่งไปที่ตำรวจ
อัยการ B : เรื่องจะส่งกลับมาที่อัยการ ...แต่ถ้าต้องฟ้อง ปัญหามันก็ คือ ด้วยระบบของ ตม.ในปัจจุบัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีทรัพยากร เราต้องรายงานไปที่ส่วนกลาง
คุณการ์ตูน : ท่านคะ มีเรื่องที่ต้องแจ้งอันหนึ่ง คือ สำนวนนี้ หนูจะสมควรที่จะต้องเอาสถานทูตเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ...คือนายหนูนะ ตอนที่โดนเรื่องนี้ไป เขาก็ไปร้องสถานทูตว่าเขาโดนราชการกลั่นแกล้ง สถานทูตก็สอบอยู่ ....ก็ประมาณว่าเราซื้อที่มาถูกต้อง ทำไมคุณถึงมาทำกับเราแบบนี้
อัยการ B : ..ตอนนี้เรากำลังจะแก้ปัญหา ตอนนี้ คือ เรื่องนี่มันโชคดีแล้ว
คุณการ์ตูน : ที่เรื่องย้อนกลับมา
อัยการ B : ใช่..โชคดีที่มันย้อนกลับมาอีกรอบหนึ่งให้เราได้แก้ปัญหาได้ เรื่องนี้ถ้าไปถึงทาง..ทางผู้ว่าฯ แล้วถ้าเขาบอกเห็นชอบด้วย (ไม่แย้งคำไม่สั่งฟ้อง) มันก็จะจบแบบ 100 % นึกออกไหม... มันก็ไม่ต้องเดินไปไหนแล้ว ผมก็จะออกหนังสือคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องให้กับทางบริษัท มันก็แค่นั่นแหละ นี่เราพูดกันแบบตรง ๆ แต่ขั้นตอน ที่มันต้องกลับไปทางนั้นอีก ในส่วนผู้ว่าฯ มันก็อาจจะเกิดการแย้งอีก เพราะตอนนี้ท่านผู้ว่าฯ ก็มาทางนี้แหละ... ก็คุยกันแล้ว ผมก็คุยกันบ้างแล้ว มันก็จะย้อนกลับไปหา อสส. อีก แต่นี่เรากำลังจะเบรกมันซะ ให้มันจบซะ ไปต้องไป ง่ายๆ ไม่ต้องยุ่งยากแล้ว เพราะว่ามันกลับมาอยู่ในมือเรา ที่เราคิดว่า ถ้าไปต่อแบบนั้นงวดนี้ไม่รอดแน่
คุณการ์ตูน : หนูต้องทำเอกสารอะไรไหม
อัยการ B : ไม่ต้อง
จากนั้น คุณการ์ตูน ได้มีการปรึกษาหารือกับอัยการรายนี้ เกี่ยวกับเรื่องการไปชี้แจงข้อมูลกับเจ้านายที่เป็นชาวต่างประเทศให้รับทราบแนวทางที่จะเดินหน้าสู้คดีนี้ต่อ พร้อมระบุว่าจะไปสอบถามผู้ว่าฯ อีกทางหนึ่งด้วย ..
ก่อนที่ในเวลาต่อมาไม่นานนัก จะมีบุคคลคนหนึ่ง คาดว่าจะเป็น อัยการ B รายเดิม โทรศัพท์มาสอบถามความคืบหน้าผลการเจรจาข้อตกลงเรื่องจำนวนเงินแลกเปลี่ยนการช่วยเหลือทางคดีในวงเงิน 10 ล้านบาท จากคุณการ์ตูน อีกครั้ง
โดยเริ่มต้นประโยคสนทนาในคลิปเสียงชุดแรกว่า “ได้ข้อยุติหรือยังเนี่ย เค้ารอกันอยู่”
ตามรายละเอียดข้อมูลในคลิปเสียงแรกชุดแรก ที่นำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้
//////////////
สำหรับความคืบหน้าหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก นายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 8 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดภูเก็ต เป็นเวลา 12 ปี
นายวันฉัตร ชุณหถนอม อดีตอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้สนับสนุน เป็นเวลา 8 ปี
มีรายงานข่าวจำเลยทั้ง 2 ราย ได้ยื่นเรื่องประกันตัว ต่อศาลฯ โดยนายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ วางหลักทรัพย์วงเงิน 930,000 บาท นายวันฉัตร ชุณหถนอม วางหลักทรัพย์วงเงิน 1,060,000 บาท ก่อนที่ศาลฯ จะอนุญาตให้ประกันตัวไป
ขณะที่คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งสองยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้อีก ส่วนนายวันฉัตร ชุณหถนอม ได้ยื่นฟ้อง สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 อัยการสูงสุด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 คณะกรรมการอัยการและประธานคณะกรรมการอัยการ ต่อศาลปกครองสูงสุด จากการได้รับความเดือดร้อนเสียหายถูกลงโทษให้พักราชการ ในคดีถูกกล่าวหาเรียกรับเงิน 10 ล้านบาท ดังกล่าว ปัจจุบันอยู่ระหว่างถูกสอบสวนวินัยร้ายแรง
แต่ไม่ว่าบทสุดท้ายการต่อสู้คดีจะออกมาเป็นอย่างไร คดีนี้นับเป็นอีกหนึ่งคดีตัวอย่าง ไม่ให้ข้าราชการอัยการไทย เดินย้ำซ้ำรอย เอาเป็นเยี่ยงอย่าง ทั้งในปัจจุบันและอนาคตสืบไป
อ่านประกอบ :
- อดีตอัยการภูเก็ต ฟ้อง 'อสส.-พวก' เดือดร้อนถูกสั่งพักราชการ คดีคลิปเสียงเรียกเงิน 10 ล.
- อสส.จ่อสรุปผลวินัยร้ายแรง 2 อดีตอัยการภูเก็ต คดีคลิปเสียง 10 ล.-โดนพักราชการมา 2 ด.แล้ว
- ส่งตัว'อดีตอัยการภูเก็ต' ฟ้องศาลฯ คดีคลิปเสียงเรียก10 ล. ใช้ที่ดิน-เงิน7แสน ได้ประกันตัว
- ยืนยันมติ ป.ป.ช. ชี้มูลอัยการภูเก็ต 2 ราย คดีคลิปเสียงฉาวเรียกเงินนักธุรกิจ 10 ล.
- อสส. เช็นคำสั่งย้าย 11 ขรก. -อัยการภูเก็ต เชียงราย ติดโผ สะพัด นอกฤดู
- แฉคลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10 ล.วิ่งเต้นผู้ว่าฯ ไม่สั่งฟ้องคดีรุกที่สาธารณะ
- EXCLUSIVE : ฉบับเต็ม! คลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10ล.วิ่งเต้นคดีรุกที่สาธารณะ
- โวยแอบอ้างชื่อ! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต มอบรองฯ แจ้งความร้องทุกข์ปมคลิปเสียงเรียกเงิน 10ล.
- โชว์บันทึกตร.! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ร้องทุกข์คลิปเสียงแอบอ้างเรียก10ล. - ตัวละครเอกชื่อ 'การ์ตูน'
- ก่อนโดนขอ10ล.! เปิดตัวเอกชนคลิปเรียกเงินล้มคดีรุกที่อุทยานฯสิรินาถ โชว์รายได้ 738 ล.
- ขอพบผู้ว่าฯ ภูเก็ตแล้ว! อสส.ตั้งกก.สอบอัยการคลิปเรียกเงิน10ล.ภายใน30วัน-ย้ายด่วน 24ชม.
- แฉคลิปเรียก10ล.ชุดสอง! เรียกตัวพบห้องทำงาน อ้าง อสส. ตั้งธงฟ้องแล้ว มีอัยการนั่งคุย 2 ราย
- อ้างทำแผลอยู่! อัยการคดีคลิป10 ล. ปัดแจง 'อิศรา' ด้าน คกก.สอบปากคำผู้ว่า-รองฯ ภูเก็ตแล้ว
- 'วัชรพล' เผย ป.ป.ช. ลุยสอบคลิปเสียงอัยการ10ล.แล้ว-'การ์ตูน' แฉอีกโทรเจรจาขอยุติเรื่อง
- เปิดเนื้อหาสุดท้ายคลิปเรียก10ล.! ลีลา 'อัยการ B' ชี้ช่องหยุดคดี100%-อ้างธงผู้ว่าฯ ฟ้องแน่