"...สตง. ได้แจ้งผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนของผู้อำนวยการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 - 2559 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 223.80 ล้านบาท (188.82 + 34.98) เป็นการดำเนินการโดยปราศจากอำนาจและใช้อำนาจตามอำเภอใจ ไม่คำนึงถึงกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับของทางราชการ ซึ่งมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการใช้จ่ายเงินแผ่นดินมีพฤติการณ์อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย 223.80 ล้านบาท..."
การอุดหนุนงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งหนึ่งให้กับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบการกระทำความผิด และมีการแจ้งให้เงินคืนจากผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนเงินกว่า 223.80 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สตง. ได้เผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบกรณีพิเศษ เรื่อง การอุดหนุนงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งหนึ่งให้กับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 - 2559 องค์การบริหารส่วนจังหวัดได้อุดหนุนงบประมาณให้แก่หน่วยงานดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 6 โครงการ พบพฤติการณ์การกระทำผิดดังนี้
1. กรณีการเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนของงบลงทุนโครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซม สนามกีฬาจำนวน 3 โครงการการดำเนินการโครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซม สนามกีฬา จำนวน 3 โครงการ ไม่มีการเสนอแผนงานโครงการเพื่อของบประมาณไปยังหน่วยงานต้นสังกัด ซึ่งมีพฤติการณ์เชื่อได้ว่าการจัดจ้างโครงการทั้ง 3 โครงการ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ โดยมีผู้อำนวยการของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งนี้เป็นผู้จัดทำเอกสารหลักฐานการดำเนินการจัดจ้างเองทั้ง 3 โครงการ ประกอบกับการก่อสร้างของ 2 โครงการ ไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจการจ้างและผู้ควบคุมงาน ส่งผลให้การก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการที่กำหนดไว้ในสัญญา และอีก 1 โครงการ มีคณะกรรมการตรวจการจ้างและผู้ควบคุมงานเป็นเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครแห่งหนึ่ง ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตจากเทศบาลนครต้นสังกัด
ทั้งนี้ โครงการทั้ง 3 โครงการ ไม่มีการรายงานผลการดำเนินการให้ผู้ว่าราชจังหวัดในฐานะผู้อนุมัติโครงการทราบ และไม่มีการรายงานให้หน่วยงานต้นสังกัดในฐานะผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อทราบ พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย จำนวน 188.82 ล้านบาท
2. การเบิกจ่ายงบประมาณโครงการฝึกอบรม ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 - 2559 จำนวน 3 โครงการ
โครงการฝึกอบรมทั้ง 3 โครงการ มีผู้อำนวยการของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจดังกล่าวเป็นผู้จัดทำโครงการและเอกสารหลักฐานการยืมเงิน/ส่งใช้เงินยืมทุกโครงการ โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานช่วยกันปลอมลายมือชื่อของวิทยากร ผู้จัดทำอาหารว่างและเครื่องดื่ม ผู้จัดทำอาหารกลางวัน คณะกรรมการตรวจการจ้างอาหารกลางวัน/อาหารว่างและเครื่องดื่ม และผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกโครงการ เป็นการจัดฝึกอบรมไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในโครงการโดยมีการฝึกอบรมไม่ครบ 20 วัน ส่วนใหญ่จะมีการฝึกอบรมเพียง 1 - 2 วัน บางโครงการมีการอบรมเพียง 1 - 2 ชั่วโมง และบางโครงการไม่มีการฝึกอบรม อีกทั้งจำนวนของวิทยากรและผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมบางโครงการไม่เป็นไปตามที่กำหนด
มีพฤติการณ์ใช้เอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จเบิกจ่ายเงินจากทางราชการ ซึ่งไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายเงินได้เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย จำนวน 34.98 ล้านบาท
เบื้องต้น สตง. ได้แจ้งผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนของผู้อำนวยการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 - 2559 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 223.80 ล้านบาท (188.82 + 34.98) เป็นการดำเนินการโดยปราศจากอำนาจและใช้อำนาจตามอำเภอใจ ไม่คำนึงถึงกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับของทางราชการ ซึ่งมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการใช้จ่ายเงินแผ่นดินมีพฤติการณ์อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย 223.80 ล้านบาท
พิจารณาแล้วเห็นควรดำเนินการ ดังนี้
1. แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ
2. แจ้งหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงต่อผู้อำนวยการหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
3. แจ้งนายกเทศมนตรีเพื่อดำเนินการทางวินัยแก่คณะกรรมการตรวจการจ้างและผู้ควบคุมงาน
4. แจ้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพื่อดำเนินการเรียกเงินคืนจากผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจเป็นเงิน 223.80 ล้านบาท
@ ผลการแก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยงาน
สตง. ระบุว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการตามข้อเสนอแนะ โดยหน่วยรับตรวจอยู่ระหว่างการเสนอชื่อแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ทั้งนี้ หน่วยรับตรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการทางวินัยกับผู้อำนวยการของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และคณะกรรมการตรวจการจ้างและผู้ควบคุมงานเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเจ้าหน้าที่อื่นที่อยู่ระหว่างดำเนินการทางวินัย
ส่วนผลสัมฤทธิ์จากการตรวจสอบและการแจ้งข้อเสนอแนะให้หน่วยรับตรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงการปฏิบัติงานดังกล่าว ส่งผลให้หน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการลงโทษกับผู้ที่กระทำผิดในการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการรักษาวินัยทางการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด และมีการดำเนินการเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐหรือหน่วยรับตรวจ
อย่างไรก็ดี ในรายงานผลการตรวจสอบเรื่องนี้ สตง.มิได้เปิดเผยชื่อ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งนี้ เป็นทางกา่ร
สำนักข่าวอิศรา จึงยังไม่สามารถติดต่อผู้เกี่ยวข้อง ให้ชี้แจงข้อมูลอีกด้านเป็นทางการได้
หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะรีบนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป