"...ผมยืนยันว่าอาจบกพร่องไปบ้าง แต่ไม่มีเจตนา แล้วที่สำคัญบัญชีทรัพย์สินไม่ได้ทำเอง ลูกน้องทำให้ แล้วจะมีปัญหากันหมด อยากขอโอกาสในการให้ผู้ยื่นบัญชีทรัพย์สินได้ชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายในการชี้แจง... "
กรณี สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา เผยแพร่ผลการดำเนินงานติดตามตรวจสอบคดีสำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไตรมาสที่ 1 – 2 ซึ่งมีเรื่องกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ของอดีตผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นราย 1 รวมอยู่ด้วย
โดย สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา ระบุข้อมูลว่า นาย ก. เป็นอดีตผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดสงขลา
ข้อกล่าวหาแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องร่ำรวยผิดปกติ เกี่ยวกับรายได้จากการเป็นนายหน้าขายที่ดิน 30 ล้าน และจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กรณีไม่แสดงเงินฝาก-เงินลงทุน
กรณี จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ 'ไม่แสดงเงินฝาก-เงินลงทุน' นั้น
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเสนอเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และขอให้ลงโทษทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) มาตรา 81 และมาตรา 167
อย่างไรก็ดี สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเป็นทางการ ว่า นาย ก. อดีตผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดสงขลารายดังกล่าว
เป็นใครกันแน่?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลพบว่า นาย ก. อดีตผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดสงขลารายดังกล่าว
คือ นายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่
@ ไพร พัฒโน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง นายไพร เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ประเด็นเรื่องร่ำรวยผิดปกติเกี่ยวกับรายได้จากการเป็นนายหน้าขายที่ดิน 30 ล้าน' และจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จกรณีไม่แสดงเงินฝาก-เงินลงทุน' ดังกล่าว
นายไพร ให้สัมภาษณ์ชี้แจงเป็นทางการ ดังนี้
ประเด็น เรื่องร่ำรวยผิดปกติ 'รายได้จากการเป็นนายหน้าขายที่ดิน 30 ล้าน'
นายไพร ชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นการซื้อขายที่ดินจริง แต่ดำเนินการโดยอดีตภรรยาของตน อดีตภรรยาได้รับเงินส่วนนี้แล้วนำเงินส่วนนี้ไปซื้อที่ดินต่อแล้วก็นำไปเข้าเครดิตฟองซิเออร์เพื่อกู้มาทำธุรกิจต่อ โดยในช่วงปี 2555 ซึ่งยังเป็นกฎหมายเก่า ป.ป.ช. ที่หย่ากันแล้วไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน
"ในช่วงที่มีการซื้อขายที่ดินนี้เป็นช่วงที่ผมไม่ได้ดำรงตำแหน่ง คือ ครบวาระอยู่ในระหว่างเลือกตั้ง ช่วงนั้นผมแจ้งบัญชีทรัพย์สินช่วงที่ครบวาระไปแล้ว พอถัดมาได้รับการเลือกตั้งก็ต้องแจ้งอีกครั้งหนึ่ง"
"แต่พอมีกฎหมายใหม่ในปี 2561 ที่พอหย่ากันแล้วต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน คราวนี้พอผมลาออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีในปี 2562 ก็ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ในส่วนของอดีตภรรยาก็ยื่นแล้วก็แจ้งไปตามตรง"
"ปัญหาตอนนั้นคือ ตอนที่ผมชี้แจงกับ ป.ป.ช. ยังหาตัวคนมาเลเซีย(คนขายที่ดิน) คนนี้ไม่พบ ตอนนี้กำลังติดต่อเขาไปเพื่อให้เขามายืนยันว่าเขาขายที่ดินจริง มีตัวตนจริง"
นายไพร ยังชี้แจงด้วยว่า "ผมก็ไม่ได้มีส่วนได้ในค่านายหน้า ค่าส่วนต่างนั้นด้วย เพราะฉะนั้นผมไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินอยู่แล้ว"
"ผมมีเท่าเดิม ส่วนอดีตภรรยาเขาจะเอาเงินไปทำอะไรก็เรื่องของเขาเพราะเขาไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน"
"ส่วนปัญหาบริษัทที่ขายไปเป็นบริษัทลูกของมาเลเซียของเจ้าของ JRD ที่ทำมอเตอร์ไซค์ ที่ทำล้อแม็ก เป็นบริษัทใหญ่มาก เขามาเปิดโรงงานที่สงขลา แล้วเขาซื้อที่ดินเยอะแยะมาก แล้วลูกชายของเขามามีภรรยาอยู่ที่นี่ มาเปิดธุรกิจที่นี่แล้วเขาก็มาขายที่ดินโดยให้เราเป็นนายหน้า พอขายแล้วเขาก็เอาเงินของเขาไป"
"ส่วนต่างตรงนี้ภรรยาผมก็ได้ไปรวมกับค่านายหน้าประมาณ 30 ล้าน ก็ไม่ได้ปกปิดอะไร เราทำตรงไปตรงมา"
ประเด็น เรื่องจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ 'ไม่แสดงเงินฝาก-เงินลงทุน'
นายไพร ยังชี้แจงถึงเรื่อง 'ไม่แสดงเงินฝาก-เงินลงทุน' บัญชีที่มีเงินประมาณ 8,000 บาท ว่า "คุณทิพวรรณ (คู่สมรส) แจ้งครั้งแรก หลังจากที่ไม่ได้แจ้งมาหลายปี เขาก็ไปติดต่อธนาคารขอใบคำร้องขอทราบรายละเอียดบัญชีเพื่อไปยื่น ป.ป.ช. "
"พอถึงวันนัดก็ได้เอกสารใส่ซองมาแต่ว่าไม่ได้เปิดดูจึงไม่รู้ว่าเอกสารตกหล่น ขาดบัญชี 1 บัญชี จากจำนวน 2 บัญชี พอได้มาเขาก็ส่งให้สมุห์บัญชีทันทีเพื่อไปทำการลงรายการ แต่เขาก็ได้ไปติดตต่อธนาคาร ธนาคารบอกว่าให้ข้อมูลไปแล้วทั้ง 2 บัญชี แต่สมุห์บัญชียืนยันว่าได้มาแค่ 1 บัญชี ซึ่งบัญเอิญว่าบัญชีที่ขาดไปเป็นบัญชีที่มีเงินเข้าออกตลอดเนื่องจากใช้ทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงเรียน"
"เขาลืม แต่เขาไม่มีเจตนาจะลืม มันกลายเป็นบัญชีที่สำคัญ เขามองว่าบัญชีนี้คุณใช้อยู่แล้วคุณลืมได้ไง เขาบอกว่าเขาจำเลขที่บัญชีไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าเขามีกี่บัญชีแล้วเขาก็มีหนี้สินเยอะมาก ร้อยกว่าล้าน กู้ธนาคารเต็มไปหมด เขาก็งง คนทำธุรกิจบางทีก็งง งงไปหมด จะบอกว่าเราปกปิดก็ไม่ใช่ เราไม่มีเจตนาเลย"
นายไพร ชี้แจงด้วยว่า "ส่วนเรื่องหุ้นบริษัทสคูมาสเตอร์ บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ตนตั้งมาแล้วเป็นหนี้ธนาคารประมาณ 10 ล้าน ก็แจ้งบัญชีทรัพย์สินมาตลอด จนมีช่วงหนึ่งที่มีการถอนหุ้นในชื่อของผมออกไป จำไม่ได้ว่าเพราะเหตุใด ก็เข้าใจว่าไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน เพราะเอาชื่อออกไปแล้ว แต่ต่อมาก็เอาชื่อกลับมาใส่ ผมก็จำไม่ได้ เลยไม่ได้แจ้ง ไม่ได้มีเจตนาใดทั้งสิน ทั้งยังเป็นบริษัทที่ไม่ได้ทำธุรกรรมาร่วม 20 ปี มีแต่หนี้สิน เงินลงทุน 900,000 เป็นหุ้นลมทั้งสิ้นเพราะไม่ต้องจ่ายเงินจริง การที่เขาใส่ไปเพื่อความมั่นใจของธนาคารเจ้าหนี้หรือสาเหตุใดตนก็ไม่ทราบ ประกอบกับมีการเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ผู้ทำบัญชีทรัพย์สิน สมุห์บัญชีคนใหม่ทำบัญีตกหล่นหลายรายการ ผมก็พยายามชี้แจงมาตลอด บริสุทธิ์ใจทั้งหมด"
"คนที่แจ้งบัญชีทรัพย์สินบางครั้งเขาก็มึนเหมือนกัน เราก็ไม่ใช่ผู้ชำนาญ มีการตกหล่นกันได้ มันก็พลาดกันหมด" นายไพรระบุ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมความพร้อมในการต่อสู้คดี นายไพร ตอบว่า "ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่ต้องพยายามรวบรวมหลักฐานและติดต่อเจ้าของที่ดินที่เขาให้เป็นนายหน้ามาให้ได้ เพื่อให้เขามาเป็นพยานและยืนยันตัวตนว่ามีตัวตนจริง ๆ"
"ผมยืนยันว่าอาจบกพร่องไปบ้าง แต่ไม่มีเจตนา แล้วที่สำคัญบัญชีทรัพย์สินไม่ได้ทำเอง ลูกน้องทำให้ แล้วจะมีปัญหากันหมด อยากขอโอกาสในการให้ผู้ยื่นบัญชีทรัพย์สินได้ชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายในการชี้แจง "นายไพรกล่าวทิ้งท้าย
อนึ่ง สำหรับข้อมูลคดีความของ นายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ นั้น ในฐานข้อมูล ป.ปงช. ยังมีคดีถูกกล่าวหาดำเนินงานโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ‘พระพุทธมงคลมหาราช’ ของเทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547 ด้วย โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาลงโทษ จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา แต่นายไพร ได้รับการประกันตัว สู้คดีในชั้นอุทธรณ์
ขณะที่ นายไพร พัฒโน ยืนยันว่า จะอุทธรณ์ต่อสู้คดี เพราะไม่ได้ทุจริต
อ่านประกอบ :
- คดีมีมูล!ป.ป.ช.ออกหมายเรียก'ไพร พัฒโน-พวก แจงกรณีหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองปี47
- ข้องใจท่าที สถ.!'ไพร'แจงทำตามระเบียบแต่ถูกแจ้ง ป.ป.ช.สอบคดีบูรณะพระประจำเมืองหาดใหญ่
- ล้วงข้อมูลป.ป.ช.สอบไพร-พวก!ตีเช็ค20ล.ปลุกเสกหลวงพ่อทวดแทนบูรณะพระประจำเมือง
- คุก 2 ปี! 'ไพร พัฒโน' คดีหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระ 27ล.-ได้ประกันตัวสู้ชั้นอุทธรณ์
- สดจากหาดใหญ่! เปิดใจ 'ไพร พัฒโน' โดนคุก 2 ปี คดีหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระ 27 ล.