“...เรื่องนี้มีข้อสังเกตว่า เหตุใดผู้อำนวยการ และผู้บริหารโรงเรียน จึงไม่ปฏิบัติตามระเบียบพร้อมกันถึง 8 แห่ง ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย ขอฝากผู้บริหารโรงเรียนด้วยความห่วงใจ ขอให้ยึดมั่นในระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการโดยเคร่งครัด เวลาต้องคดีขึ้นศาล ไม่มีใครมาช่วยท่านได้ เวลาอยู่ในตำแหน่ง อย่ามองข้ามระเบียบราชการ ขอให้ศึกษาคดีนี้เป็นตัวอย่าง...”
กรณี สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสงวน ศรีสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1 กับพวก จัดทำเอกสารการสอบราคาโครงการจ้างติดตั้งปรับปรุงซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียนเป็นเท็จ เอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาบางราย ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 ประกอบ มาตรา 86 และ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 12 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560
คดีนี้ ปรากฏชื่อ นายสุวิทย์ ชัยเสนะ เป็นจำเลยที่ 1 นายชนภัทร มณี จำเลยที่ 2 นายสมยศ ไชยศรี จำเลยที่ 3 และนายจีรวัช ชัยชนะ จำเลยที่ 4
ส่วน นายสงวน ศรีสุข ไม่ปรากฏชื่อเป็นจำเลยในคดีนี้ด้วยแต่อย่างใด
โดยเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาให้ลงโทษ
-จำคุก นายสุวิทย์ ชัยเสนะ จำเลยที่ 1 มีกำหนด 3 ปี 4 เดือน และปรับ 66,666,67 บาท เห็นควรให้โอกาสจำเลยที่ 1 โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี
- นายจีรวัช ชัยชนะ จำเลยที่ 4 โดนลงโทษจำคุก 2 ปี 2 เดือน 20 วัน
- นายชนภัทร มณี จำเลยที่ 2 นายสมยศ ไชยศรี จำเลยที่ 3 ให้ยกฟ้อง
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบให้อุทธรณ์คำพิพากษา เพื่อให้ศาลพิพากษาโดยไม่รอการลงโทษจำคุก จำเลยที่ 1 และลงโทษจำเลยที่ 2 และที่ 3 ตามฟ้องโจทก์
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ยังมีคำพิพากษาตัดสินคดีกล่าวหา นายสงวน ศรีสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1 กับพวก จัดทำเอกสารการสอบราคาโครงการจ้างติดตั้งปรับปรุงซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียนเป็นเท็จ เอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาบางราย อีก 1 สำนวนด้วย
โดยสำนวนคดีที่ 2 นั้น ปรากฏชื่อ นายสุทิน ใหม่วัด เป็นจำเลยที่ 1 นางรัชดา อินธนู เป็นจำเลยที่ 2 นายสมยศ ไชยศรี เป็นจำเลยที่ 3 และ นายจีรวัช ชัยชนะ เป็นจำเลยที่ 4
ส่วน นายสงวน ศรีสุข ไม่ปรากฏชื่อเป็นจำเลยในคดีนี้ด้วยแต่อย่างใด
จำเลยทั้งหมด ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดฐานเดียวกันกับสำนวนแรก
ผลคำตัดสินคดีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีดังนี้
1. นายสุทิน ใหม่วัด จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 , ยกฟ้องสำหรับนางรัชดา อินธนู จำเลยที่ 2 นายสมยศ ไชยศรี จำเลยที่ 3, นายจีรวัช ชัยชนะ จำเลยที่ 4 มีความผิดตามมาตรา 151
2. นายสุทิน ใหม่วัด จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 นายจีรวัช ชัยชนะ จำเลยที่ 4 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86
การกระทำของ นายสุทิน ใหม่วัด จำเลยที่ 1 และนายจีรวัช ชัยชนะ จำเลยที่ 4 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
ให้ลงโทษ นายสุทิน ใหม่วัด จำเลยที่ 1 ตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 และลงโทษนายจีรวัช ชัยชนะ จำเลยที่ 4 ตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
จำคุก นายสุทิน ใหม่วัด จำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี และปรับ 100,000 บาท
จำคุกนายจีรวัช ชัยชนะ จำเลยที่ 4 มีกำหนด 3 ปี 4 เดือน
อย่างไรก็ดี คำเบิกความของ นายสุทิน ใหม่วัด จำเลยที่ 1 และทางนำสืบของนายจีรวัช ชัยชนะ จำเลยที่ 4 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา
มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม
คงจำคุก นายสุทิน ใหม่วัด จำเลยที่ 1 มีกำหนด 3 ปี 4 เดือน และปรับ 66,666.67 บาท แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี
และจำคุกนายจีรวัช ชัยชนะ จำเลยที่ 4 มีกำหนด 2 ปี 2 เดือน 20 วัน
ให้นับโทษจำคุก นายจีรวัช ชัยชนะ จำเลยที่ 4 ต่อจากโทษจำคุกในคดีหมายเลขดำที่ อท 4/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 92 /2565 (สำนวนแรก) คดีหมายเลขดำที่ อท 5/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 93/2565 และคดีหมายเลขดำที่ อท 7/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 98/2565 ของศาลนี้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเห็นควรมีหนังสือขอความอนุเคราะห์อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อพิจารณาอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
ขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าผลการต่อสู้คดีนี้ ในชั้นอุทธรณ์เป็นอย่างไร
แต่ปัจจุบันสรุปข้อมูลผลคำตัดสิน 2 คดีได้ดังนี้
ทั้ง 2 สำนวนคดี คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติขออสส. อุทธรณ์สู้คดีต่อ
สำหรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคดีกล่าวหา นายสงวน ศรีสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1 กับพวก จัดทำเอกสารการสอบราคาโครงการจ้างติดตั้งปรับปรุงซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียนเป็นเท็จ เอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาบางราย นั้น
สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา อัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริต ภาค 9 ได้ยื่นฟ้อง ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน 8 แห่ง ในพื้นที่ จ.สงขลา รวม 20 รายเป็นจำเลย โดยกล่าวหาว่าในโครงการจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียนโดยมิชอบ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างปี 2549-2550 โดยโรงเรียน 8 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านเขาแดง โรงเรียนวัดท้ายยอ โรงเรียนวัดสถิตย์ชลธาร โรงเรียนวัดบ่อสระวิทยาทาน โรงเรียนวัดบ้านม่วงงาม โรงเรียนวัดบ่อทรัพย์ โรงเรียนตะเครียะวิทยา และโรงเรียนระโนด โดยทั้งหมดสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1 กรณีดำเนินโครงการจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียนทั้ง 8 แห่ง
โดยผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้มีอำนาจในการสั่งซื้อสั่งจ้าง เจ้าหน้าที่พัสดุ และคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา ไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้ถูกต้องตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 เป็นการกระทำความผิดฐานเจ้าพนักงานร่วมกันทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 โดยมีฝ่ายผู้รับจ้างได้ร่วมกันสนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าว อันเป็นความผิดฐานทุจริตและประพฤติมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 90, 151, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 3, 12
ทางอัยการฯ ได้มีการแยกฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 เป็นรายโรงเรียน รวม 8 แห่ง
สำหรับจำเลย 20 รายที่ถูกอัยการยื่นฟ้องคดีดังกล่าว แบ่งเป็นบุคลากรของโรงเรียน 18 ราย ได้แก่ ระดับผู้อำนวยการโรงเรียน เจ้าหน้าที่พัสดุ คณะกรรมการเปิดซองสอบราคา มีรายชื่อ ดังนี้ 1. นายสุวิทย์ ชัยเสนะ 2. นายชนภัทร มณี 3. นายธนรัชต์ศิริยอด 4. นายพินิจ สุธาประดิษฐ์ 5. นายประภาส โชติระโส 6. นางเสาวณี บุญหลง 7. นายสุทิน ใหม่วัด 8. นางรัชดา อินธนู 9. นายวิจิตร โภชนา 10. นางระรวย กมลเจริญ 11. นายควง มุกสง 12. นายไพโรจน์ แก้วเนียม 13. นางประไพ เรืองฤทธิ์ 14. นางธนพร เจตะประเสริฐ 15. นางณัฐรักษ์ ชุมแดง 16. นางสาวละออ หรือลออ นิลพงศ์ 17. นางรัตนา เทพศรี หรือสำเนาการ 18. นายสมยศ ไชยศรี
อีก 2 รายเป็นตัวแทนเอกชน ได้แก่ 19. นายจีรวัช ชัยชนะ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.ไทยนครรุ่งเรืองกิจ 20. นายอนันต์ เจ๊กสูงเนิน หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.ส.สองนคร
ขณะที่ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดี และโฆษกสำนักงานอัยการปราบปรามคดีทุจริต ภาค 9 ในขณะนั้น เคยออกมาระบุว่า “เรื่องนี้มีข้อสังเกตว่า เหตุใดผู้อำนวยการ และผู้บริหารโรงเรียน จึงไม่ปฏิบัติตามระเบียบพร้อมกันถึง 8 แห่ง ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย ขอฝากผู้บริหารโรงเรียนด้วยความห่วงใจ ขอให้ยึดมั่นในระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการโดยเคร่งครัด เวลาต้องคดีขึ้นศาล ไม่มีใครมาช่วยท่านได้ เวลาอยู่ในตำแหน่ง อย่ามองข้ามระเบียบราชการ ขอให้ศึกษาคดีนี้เป็นตัวอย่าง”
ผลคดีที่เหลือนับจากนี้เป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป