"...ในช่วงก่อนนัดฟังคำพิพากษา ศาลฎีกา นายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ ไม่ได้แสดงความวิตกังวลหรือเตรียมตัวอะไรมาก เนื่องจากคิดว่าศาลฎีกา จะให้ฎีกา เพื่อสู้คดีต่อ โดยในการนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว โจทก์และผู้รับมอบอำนาจ ไม่มาฟังคำพิพากษา ส่วนจำเลยมาศาล เมื่อศาลฎีกา ไม่รับฎีกา คดีจึงถึงที่สุด นายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ ถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำรับโทษจำคุก ตั้งแต่วันนั้นเลย..."
เป็นประเด็นร้อนในแวดวงอัยการอีกครั้ง!
เมื่อสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันข้อมูลสำคัญว่า ในการประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด (อสส.) ให้ไล่ออกข้าราชการอัยการรายหนึ่ง ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดขณะดำรงตำแหน่งที่สำนักงานอัยการจังหวัดมีนบุรี
โดยให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่ อสส. มีคำสั่งพักราชการ
ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นในราวปี 2561 ข้าราชการอัยการรายนี้ ให้ผู้เสียหายจ่ายค่าอาหารกรณีที่ข้าราชการอัยการรายนี้เลี้ยงส่งลูกน้องตัวเองกว่าหมื่นบาท
ต่อมายังนัดผู้เสียหายมาเรียกเงินอีก 3 แสนบาท
ก่อนจะกล่าวหาผู้เสียหายจ่ายเงินค่าอาหารเลี้ยงข้าราชการอัยการในลักษณะการให้สินบน
ผู้เสียหายจึงไปฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ข้อมูลที่ยังไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นทางการ คือ ข้าราชการอัยการรายนี้ ที่ ก.อ.มีมติให้ไล่ออก เป็นใครมาจากไหน?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า ข้าราชการอัยการรายนี้ มีชื่อว่า นายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ ถูกฟ้องคดีในฐานเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 11 สำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด
ฝ่ายโจทก์ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ก่อนที่ศาลฯ จะมีคำพิพากษาตัดสินคดีเมื่อวันที่ 30 พ.ย.2563
พิพากษาลงโทษ จำคุก 5 ปี
ต่อมา โจทก์และจำเลย อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2564 ยืนตามศาลชั้นต้น แต่แก้ไขโทษเป็นจำคุก 7 ปี
โจทก์และจำเลย ฎีกา ศาลฎีกาไม่อนุญาต ไม่รับฎีกา คดีถึงที่สุด เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2565
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงก่อนนัดฟังคำพิพากษา ศาลฎีกา นายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ ไม่ได้แสดงความวิตกกังวลหรือเตรียมตัวอะไรมาก เนื่องจากคิดว่าศาลฎีกา จะให้ฎีกา เพื่อสู้คดีต่อ
โดยในการนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว โจทก์และผู้รับมอบอำนาจ ไม่มาฟังคำพิพากษา
ส่วนจำเลยมาศาล
เมื่อศาลฎีกา ไม่รับฎีกา คดีจึงถึงที่สุด นายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ ถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำรับโทษจำคุก ตั้งแต่วันนั้นเลย
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพตำแหน่งอัยการของนายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ นั้น จัดว่าเป็นอัยการที่มีชื่อเสียง หน้าที่การงานโดดเด่นคนหนึ่ง
โดยในช่วงปี 2564 นายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ มีตำแหน่งเป็นถึงอัยการอาวุโส สำนักงานอัยการจังหวัดเลย ถูกโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส สำนักงานคดีศาลสูงภาค 4
หลังจากที่ก่อนหน้านั้น ในช่วงปี 2562 นายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ มีตำแหน่งเป็น รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด
ปี 2561 นายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ มีตำแหน่งเป็นอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด
ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักงานคดีศาลสูง ภาค 4 ระบุว่า ตำแหน่งสุดท้ายของนายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ ก่อนออกจากราชการ อยู่ที่ฝ่ายสนับสนุนศาลสูงสุด จังหวัดเลย เป็นหลัก
ที่น่าสนใจคือ ในช่วงปี 2550 นายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ มีตำแหน่งเป็น อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 เคยปรากฏชื่อร่วมทีมอัยการฝ่ายคดีพิเศษ แถลงยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1- 2 ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก จำนวน 33 ไร่มูลค่า 772 ล้านบาท จากกองทุนฟื้นฟูกิจการและสถาบันการเงินด้วย
แต่ ณ วันนี้ ชีวิตพลิกผัน ถูกตัดสินลงโทษจำคุก 7 ปี โดยไม่รอลงอาญา บังคับชาวบ้านจ่ายค่าอาหารเลี้ยงลูกน้อง พร้อมเรียกเงินอีก 3 แสนบาท ดังกล่าว
ส่วนรายละเอียดคำพิพากษาตัดสินโทษ นายธีรวุฒิ วชิรมงคลพงษ์ ในคดีนี้ เป็นอย่างไร
สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอในตอนต่อไป