"..ร่วมกันเป็นขบวนการในการนำบริษัท Hainan Province บริษัท Hainan Grain Warehousing และบริษัท Hainan Grain and Oil มาทำสัญญาซื้อขายมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแบบรัฐต่อรัฐโดยแอบอ้างว่าได้รับมอบหมาย จากสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งไม่เป็นความจริง..."
กรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2565 ได้มีการพิจารณาผลการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีการระบายมันสำปะหลังในสต็อกรัฐบาล ทั้ง 3 สำนวน ได้แก่ 1. กรณีกล่าวหานางพรทิวา นาคาศัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก 2.กรณีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก และ3.กรณีกล่าวหานายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กับพวก
ในส่วนสำนวนข้อกล่าวหา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก นั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า
1. เป็นกรณีทุจริตในการระบายมันสำปะหลังแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี
2. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหา 2 ราย ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดทางอาญา
โดยนายบุญทรง ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา เนื่องจากเป็นผู้พิจารณาและมีมติเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การระบายมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังปี 2556 และเป็นผู้อนุมัติให้ทำสัญญาซื้อขายมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแบบจีทูจี โดยอนุมัติตามข้อเสนอของฝ่ายจีนทั้งหมด
นอกจากนี้ นายบุญทรง ยังเร่งรีบอนุมัติสัญญาในวันเดียวกับที่เสนอ ขณะที่ราคาที่อนุมัติขายตามข้อเสนอของฝ่ายจีนซึ่งต่ำกว่าราคาขายเป็นการทั่วไป ทำให้เกิดช่องว่างของราคาที่สามารถนำไปแสวงหาประโยชน์โดยการนำไปขายต่อให้ผู้ประกอบการมันสำปะหลังในประเทศ
ส่วน นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ถูกกล่าวหาในฐานะอนุกรรมการด้านการตลาดมันสำปะหลัง และกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง พิจารณาและมีมติเห็นชอบแผนการระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และยังเป็นผู้รับข้อเสนอซื้อของบริษัทเอกชนต่างประเทศโดยไม่ปรากฎที่มาของหนังสือ และเป็นผู้กลั่นกรองเรื่องเพื่อเสนอให้นายบุญทรงพิจารณาอนุมัติ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้นำมันสำปะหลังตามสัญญาซื้อขายดังกล่าวไปเสนอขายให้เอกชน
สำหรับฐานความผิดทางกฎหมาย ของ นายบุญทรง และนพ.วีระวุฒิ ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา ประกอบไปด้วย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 4 , 10 , 12 และพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลใหม่ว่า ผู้ถูกกล่าวหาในสำนวนคดีนี้ นอกจากนายบุญทรง และนพ.วีระวุฒิ แล้ว
ยังมีกลุ่มผู้ถูกล่าวหาในส่วนของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ประกอบไปด้วย 1. นายอภิชาต จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ผู้ก่อตั้ง บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด , 2. นางสาวรัตนา แซ่เฮ้ง , 3. นางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์, 4. นางสาวสุนีย์ จันทร์สกุลพร, 5. นายนิมล รักดี , 6. นายสุธี เชื่อมไธสง , 7. นายลิตร พอใจ , 8. นางสาวอรวรรณ ศรัทธาสกุล และ 9. นางสาวกรรณิกา เพชรสุวรรณ์
ระบุพฤติการณ์ว่า ร่วมกันเป็นขบวนการในการนำบริษัท Hainan Province บริษัท Hainan Grain Warehousing และบริษัท Hainan Grain and Oil มาทำสัญญาซื้อขายมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแบบรัฐต่อรัฐโดยแอบอ้างว่าได้รับมอบหมาย จากสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งไม่เป็นความจริง
บจก.สยามอินดิก้า น.ส. รัตนา น.ส.เรืองวัน น.ส.สุนีย์ นายนิมล และนายสุธ มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายกรมการค้าต่างประเทศชำระค่ามันสำปะหลัง
นายสุธี เป็นผู้รับมอบอำนาจช่วงจาก บจก. เอลัช นายลิตร เป็นผู้รับมอบอำนาจช่วงจาก บจก. เอส บี พรีเมียร์
น.ส. อรวรรณ เป็นเครือญาติกันกับ Ms. Zhou Jing ผู้ประสานงานของบริษัท Hainan Province Grain and Oil และเป็นกรรมการบริษัท คอนสแต็นเอนเนอจี และบริษัท คิงดอม ไรซ์ ไซโล ร่วมกัน
ส่วน น.ส. กรรณิกา เป็นพนักงานของ น.ส.อรวรรณ และเป็นผู้ติดต่อประสานงาน ของบริษัท Hainan Grain and Oil
โดยฐานความผิดทางกฎหมาย ของผู้ถูกกล่าวหากลุ่มนี้ ประกอบไปด้วย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 4 , 10 , 12 ประกอบ ป.อ.ม.86 และพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบ ป.อ. ม.86
สำหรับผู้ถูกกล่าวหากลุ่มนี้ ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นตัวละครชุดเดิม ที่เคยถูกชี้มูลความผิดในคดีระบายข้าวจีทูจี ภาคแรกไปแล้ว โดยราย นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ถูกศาลฯ ตัดสินลงโทษเป็นระยะเวลากว่า 48 ปี นอกจากนี้ ยังถูกสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมกับ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และ นายนิมล รักดี (โจ) คนใกล้ชิด เป็นจำนวนเงินกว่า 1.69 หมื่นล้านบาทด้วย
- คุก54 ปี ยึดทรัพย์1.5หมื่นล.! ย้อนข้อมูล 'เสี่ยเปี๋ยง' บุคคลทุจริตแห่งปี60
- คำพิพากษาฉบับเต็ม! มัด‘สุธี’มือจ่ายเช็ค-ทำธุรกรรมแทนสยามอินฯคดีข้าวจีทูจีก่อนหนีคุก 32 ปี
- ยอมให้‘เสี่ยเปี๋ยง’เชิด!เจาะคำพิพากษา ‘รัตนา-เรืองวัน’2กก.สยามอินฯคดีข้าวจีทูจีเก๊
- พฤติการณ์‘ลิตร พอใจ’จากคนขับรถ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ถึงผู้รับมอบอำนาจ-มือจ่ายเช็คคดีจีทูจีเก๊
- "เสี่ยเปี๋ยง"โดนยกครัว9.7พันล.! ปปง.เปิดครบคำสั่งอายัดทรัพย์ บ.สยามอินดิก้า-พวก
อย่างไรดี การชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นอันสิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ส่วนรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป