"..ในการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลของ ป.ป.ช. สมุทรปราการ นั้น นายธาราดร สุธะ ผู้จัดการฝ่ายติดตั้งโครงการปะการังเทียม ของบริษัทเอกชนยืนยันว่า ได้มีการเตรียมสถานที่เก็บพาสติก เพื่อใช้ในการติตตั้งปะการังของ อบจ.ไว้ประมาณ 2 ปีเศษแล้ว แต่ยังไม่ได้ติดตั้ง ทั้งนี้เพราะมีข้อติดขัดด้านสถานที่ ซึ่ง อบจ. ได้ดำเนินการขออนุญาตจากกรมเจ้าท่า และส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วขณะนี้..."
เป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที
เมื่อปรากฏข่าวว่า สำนักงานป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสมุทรปราการ กับชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันลงพื้นที่ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ หลังได้รับเรื่องร้องเรียน “โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนจังหวัดสมุทรปราการโดยใช้นวัตกรรมโกงกางเทียมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ” ไม่ได้มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ไม่มีการขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มีการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้าให้ผู้รับเหมาไปแล้วกว่า 1,400 ล้านบาท แต่ไม่มีการนำโกงกางเทียมไปติดตั้งตามที่ระบุไว้ในสัญญา ตลอดจนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโกงกางเทียมด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากถูกปลดจากบัญชีนวัตกรรมแล้ว
เบื้องต้น เกี่ยวกับประเด็นเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง อบจ.สมุทรปราการ ชี้แจงใน 2 ส่วนคือ
1. การเบิกจ่ายเงินล่วงหน้าให้ผู้รับเหมาไปแล้วกว่า 1,400 ล้านบาท แต่ไม่มีการนำโกงกางเทียมไปติดตั้งตามที่ระบุไว้ในสัญญา อบจ.สมุทรปราการได้ชี้แจงว่า การจ่ายเงินให้กับผู้รับจ้างมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นการส่งมอบพัสดุโกงกางเทียมตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญา งบประมาณทั้งสิ้น 1,045,000,000 บาท มีการเบิกจ่ายเงินไปแล้ว 66% หรือประมาณ 600 กว่าล้านบาท ยังเหลืออีกประมาณ 351,000,000 บาท ที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายเนื่องจากผู้รับจ้างยังส่งมอบพัสดุไม่ครบถ้วนตามสัญญา ราคาที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง คือ 14,750 บาท/ชุด และส่วนที่ 2 คือ เป็นส่วนที่ให้ผู้รับจ้างดำเนินการปักเสาโกงกางเทียมในพื้นที่ที่กำหนดในสัญญา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเบิกจ่ายเนื่องจากยังไม่ได้ดำเนินการติดตั้งเนื่องจากรอการอนุญาตจากกรมเจ้าท่า
2. กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโกงกางเทียมด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากถูกปลดจากบัญชีนวัตกรรมแล้วนั้น อบจ.สมุทรปราการได้ชี้แจงว่า อบจ.สมุทรปราการ มีการจัดซื้อจัดจ้างใช้วิธีเฉพาะเจาะจงตามระเบียบกระทรวงการคลัง สำหรับการขึ้นบัญชีนวัตกรรมนั้นไม้โกงกางเทียมได้มีการประกาศเป็นนวัตกรรมและขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยปี พ.ศ. 2560-2564 และมีการต่ออายุบัญชีนวัตกรรมไทยเป็นปี พ.ศ. 2564-2568 โดยบริษัท อาร์โต้ เอ็นจิเนียร์ จำกัด เป็นบริษัทยื่นขอจดบัญชีนวัตกรรมไทยเพียงรายเดียว ซึ่งรหัสนวัตกรรม คือ 01010006 ทั้งนี้ พัสดุโกงกางเทียมที่ได้รับมอบมาแล้วนั้น ถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่สถานที่ของเอกชนบริเวณฝั่งตรงข้ามวัดราษฎร์บำรุง ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ โดยผู้รับจ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา
น่าสนใจว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างงานโครงการฯ นี้ เป็นอย่างไร?
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐ พบว่า มีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานโครงการ จ้างอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนจังหวัดสมุทรปราการโดยใช้นวัตกรรมโกงกางเทียม ของ อบจ.สมุทรปราการ 2 โครงการ (เท่าที่ตรวจสอบพบ) คือ
1. จ้างโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนจังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้นวัตกรรมโกงกางเทียม จำนวน 28,990 ชุด โดยวิธีเฉพาะเจาะจง บริษัท อาร์โต้ เอ็นจิเนียร์ จำกัด เป็นคู่สัญญา วงเงินว่าจ้างตามสัญญา 427,602,500 บาท ลงนามในสัญญา วันที่ 27 มี.ค. 63 (ดูเอกสารประกอบ)
2. จ้างอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนจังหวัดสมุทรปราการโดยใช้นวัตกรรมโกงกางเทียม (โครงการต่อเนื่อง) โดยวิธีคัดเลือก บริษัท อาร์โต้ เอ็นจิเนียร์ จำกัด เป็นคู่สัญญา วงเงินว่าจ้างตามสัญญา 618,379,000 บาท ลงนามในสัญญา วันที่ 31 มี.ค. 64 (นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกอบจ.สมุทรปราการ ลงนาม ในประกาศผล)
จากข้อมูลเบื้องต้นที่ตรวจสอบพบ สามารถสรุปข้อเท็จจริง ได้ 2 ส่วน คือ
1. งานจ้างทั้ง 2 สัญญา วงเงินรวมกว่า 1,000 ล้านบาท บริษัท อาร์โต้ เอ็นจิเนียร์ จำกัด ได้รับไปทั้งหมด
2. ในฐานข้อมูลระบุ สถานะงานทั้ง 2 สัญญา ว่า ส่งงานล่าช้ากว่ากำหนด
ขณะที่ในการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลของ ป.ป.ช. สมุทรปราการ นั้น นายธาราดร สุธะ ผู้จัดการฝ่ายติดตั้งโครงการปะการังเทียม ของบริษัทเอกชนยืนยันว่า ได้มีการเตรียมสถานที่เก็บพาสติก เพื่อใช้ในการติตตั้งปะการังของ อบจ.ไว้ประมาณ 2 ปีเศษแล้ว แต่ยังไม่ได้ติดตั้ง ทั้งนี้เพราะมีข้อติดขัดด้านสถานที่ ซึ่ง อบจ. ได้ดำเนินการขออนุญาตจากกรมเจ้าท่า และส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วขณะนี้
ผลการแก้ไขปัญหานับจากนี้เป็นอย่างไร ต้องติดตามดูกันต่อไป