ขณะที่ข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักรหรือ UKHSA นั้นระบุว่าโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 นั้นถูกพบว่ามีสัดส่วนจากการลำดับทางพันธุกรรมหรือก็คืออัตราการระบาดอยู่ที่ 3.31 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ในช่วงวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ในวันที่ 5 ก.ย. กลับปรากฏว่าอัตราส่วนนี้พุ่งขึ้นไปถึง 36 เปอร์เซ็นต์ สอดคล้องกับการที่โควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 นั้นกลายเป็นโควิดที่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลัก
ถึงแม้ว่าโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนทำให้โควิดนั้นมีความอ่อนแรงลง แต่ว่าโควิดสายพันธุ์ใหม่และสายพันธุ์ย่อยในปีกของสายพันธุ์โอไมครอนต่างๆก็ยังคงปรากฎตัวขึ้นอยู่โดยตลอด
โดยนับตั้งแต่มีการปรากฏตัวของไวรัสโควิดที่มีความอันตรายนับตั้งแต่ปี 2563 ก็มีการกลายพันธุ์และการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ดั้งเดิมเกิดขึ้นมาโดยตลอด
และล่าสุดก็เกิดกรณีการระบาดของโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 ขึ้นมา ท่ามกลางบรรยากาศการผ่อนปรนมาตรการป้องกันโควิดที่เกิดขึ้นทั่วโลก นี่ทำให้หลายฝ่ายกังวลกันว่าโควิดอาจจะระบาดหนักขึ้นอีกหรือไม่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงได้มีการนำเสนอรายงานที่เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
โควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 นั้นมีรายงานว่าถูกพบเห็นการแพร่ระบาดไปแล้วจากการตรวจพบเชื้อโควิด-19ในประเทศสเปน,ชิลี,อาร์เจนตินา,บราซิล,เอกวาดอร์,เม็กซิโก,คอสตาริกา,เปรู อิสราเอล,โคลอมเบีย,ออสเตรีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา และในประเทศอื่นๆ
สำหรับข้อมูลไวรัสโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 นั้นถือว่าเป็นแขนงย่อยของ BA.4 อีกทีหนึ่ง ซึ่งสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวนี้นั้นมีคุณสมบัติด้านการกลายพันธุ์แบบเดียวกับสายพันธุ์ย่อย BA.4 ซึ่งการกลายพันธุ์ที่โดดเด่นนั้นเกิดขึ้น ณ ตำแหน่งโปรตีนหนาม ที่เรียกกันว่า R346T โดยจุดกลายพันธุ์ดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นที่สนใจของเหล่าบรรดานักวิจัยเป็นอย่างยิ่ง
ในข้อมูลบนเว็บไซต์ Infobae ได้รายงานบทสัมภาษณ์ของ นพ.ฮัมเบอร์โต เดบัต นักวิจัยไวรัสวิทยาที่สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแห่งชาติ (INTA) และสมาชิกของโครงการประเทศซึ่งเป็นสมาคมเฝ้าระวังจีโนม coronavirus ของกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติของประเทศอาร์เจนตินา ระบุว่าแม้ว่าจะมีการศึกษาที่ค่อนข้างน้อย แต่การกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง R346T ในจุดเล็กๆนี้อาจทำห้มีข้อได้เปรียบเหนือกว่าการกลายพันธุ์ในจุดอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่เชื่อว่าการเกิดขึ้นของสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวจะไม่ได้ทำให้การระบาดพุ่งเป็นคลื่อนลูกใหญ่ของผู้ติดเชื้อจำนวนมากเมื่อเทียบกับโควิดสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ หรือสรุปก็คือเขาไม่คิดว่าผลกระทบในทางการระบาดวิทยาจะรุนแรงนั่นเอง
มีรายงานว่าตัวอย่างทางพันธุกรรมชุดแรกของผู้ป่วยโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 นั้นถูกอัปโหลดลงในฐานข้อมูลโครงการ GISAID (Global Initiative on Sharing Avian Influenza Data) ไปเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเป็นผู้ป่วยที่มาจากประเทศสเปน ซึ่งจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ก็พบว่ามีตัวอย่างพันธุกรรมกว่า 14,000 ชุดจากมากกว่า 60 ประเทศแล้วในฐานของมูล GSAID
ขณะที่ข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักรหรือ UKHSA นั้นระบุว่าโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 นั้นถูกพบว่ามีสัดส่วนจากการลำดับทางพันธุกรรมหรือก็คืออัตราการระบาดอยู่ที่ 3.31 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ในช่วงวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ในวันที่ 5 ก.ย. กลับปรากฏว่าอัตราส่วนนี้พุ่งขึ้นไปถึง 36 เปอร์เซ็นต์ สอดคล้องกับการที่โควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 นั้นกลายเป็นโควิดที่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลัก
การระบาดของโอไมครอน BA.4.6 ในสหรัฐอเมริกาและในสหราชอาณาจักร (อ้างอิงวิดีโอจาก OneIndia News)
“ยังไม่มีความชัดเจนว่า BA.4.6 นั้นพุ่งขึ้นมาได้อย่างไร แต่ว่าก็มีความเป็นไปได้ที่สายพันธุ์นี้แท้จริงแล้วจะเป็นสายพันธุ์ลูกผสมเกิดใหม่ ซึ่งการรวมตัวกันทำให้เกิดสายพันธุ์ลูกผสมนั้นเกิดขึ้นได้เมื่อมีไวรัสต่างสายพันธุ์ที่ต่างก็ทำให้เกิดโควิด-19 นั้นมาเจอกันและติดเชื้ออยู่ในร่างผู้ติดเชื้อคนเดียวกัน ซึ่งแม้ว่า BA.4.6 จะมีความเหมือนกับ BA.4 ในหลายๆแง่มุมด้วยกัน อาทิ การกลายพันธุ์บนโปรตีนหนาม ซึ่งมีส่วนทำให้เข้าสู่เซลล์ของร่างกายมนุษย์ แต่ว่าการกลายพันธุ์ที่ R346T นั้นก็มีให้เห็นในสายพันธุ์อื่นๆ และยังเกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกัน ซึ่งหมายความว่ามันช่วยให้ไวรัสหนีจากแอนติบอดีหรือสารภูมิคุ้มกันทั้งจากการฉีดวัคซีนและจากการติดเชื้อก่อนหน้านี้” นพ.มานาล โมฮัมเหม็ด นักวิจัยด้านจุลชีววิทยาทางการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเวสต์มินสเตอร์ในอังกฤษ ระบุลงบนเว็บไซต์ The Conversation
มีรายงานด้วยว่าสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 ดังกล่าวนั้นเริ่มจะครองพื้นที่การระบาดในสหรัฐฯมากขึ้นแล้ว สืบเนื่องจากข้อมูลในศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯหรือว่า CDC ระบุว่า BA.4.6 นั้นได้กลายเป็นสายพันธุ์ที่มีการระบาดในอัตราส่วน 9 เปอร์เซ็นต์แล้ว
“ในอาร์เจนตินา เรายังตรวจพบโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 ในตัวอย่างผู้ป่วยโควิด-19 แต่ว่าความจริงแล้วเราไม่เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญของโควิดสายพันธุ์ย่อยที่ว่านี้เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งรวมไปถึง BA.5 ” นพ.เดบัต ระบุ
ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดก็มีรายงานเช่นกันว่าพบว่ามีผู้ที่ได้รับวัคซีนแบบ mRNA คิดเป็นจำนวนสามโดสแล้ว แต่กลับพบว่าร่างกายผลิตแอนติบอดีต่อต้านสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 ได้น้อยมากเมื่อเทียบกับ BA.4 หรือ BA.5
“อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการหลบภูมิของสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 นั้นอาจจะถูกรับมือได้ ถ้าหากมีการฉีดวัคซีนไบวาเลนต์เป็นบูสเตอร์โดสที่มุ่งเน้นเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอน” นพ.มูฮัมเหม็ดกล่าว
จากมุมมองของ นพ.เดบัต เขามองว่าการฉีดบูสเตอร์โดสซึ่งฉีดหลังจากวัคซีนชุดหลักนั้นยังคงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย ที่กำลังหมุนเวียนอยู่ ณ เวลานี้
“สายพันธุ์ย่อยอย่างเช่นโอไมครอน BA.4.6 นั้นอาจจะไปกระทบต่อการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญของภูมิคุ้มกันที่มาจากวัคซีน อย่างไรก็ตาม วัคซีนประเภทที่มีนั้นยังคงมีศักยภาพที่สูงในการป้องกันไม่ให้เกิดการป่ายรุนแรง ดังเช่นที่เราเห็นแล้วกับโอไมครอนสายพันธุ์อื่น” นพ.เดบัตระบุ
วัคซีนรับมือกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอน (อ้างอิงวิดีโอจาก CGTN)
มีรายงานจากงานวิจัยของ นพ.เดวิด ดี โฮ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ระบุด้วยว่าพบข้อมูลว่าในไต้หวัน และในสหรัฐฯว่ายาบางชนิดที่ใช้รักษาโควิด-19 อาจจะมีประสิทธิภาพลดลงถ้าหากผู้ป่วยติดสายพันธุ์ย่อย BA.4.6
โดยถ้าหากเปรียบเทียบกันแล้ว พบว่าสายพันธุ์ย่อยชื่อว่า BA.4.6, BA.4.7 และ BA.5.9 นั้นเมื่อมาเปรียบเทียบกับโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 จะพบว่ามีการลดลงของแอนติบอดีที่เป็นกลาง โดยการใช้แอนติบอดีแบบผสมระหว่าง tixagevimab และ cilgavimab ซึ่งมักจะใช้กันในยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสม AZD7442 (ส่วนผสมระหว่างแอนติบอดีสองชนิด ได้แก่ tixagevimab และ cilgavimab) หรือ "LAAB" ของ แอสตร้าเซนเนก้า นั้นพบว่ามีประสิทธิภาพที่น้อยลงมาก เมื่อต้องรับมือกับสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 ,BA.4.7 และ BA.5.9
โดย ณ เวลานี้มีรายงานว่ายา bebtelovimab ซึ่งเพิ่งจะได้รับอนุญาตให้ใช้งานฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น ยังคงเป็นยาชนิดเดียวในกลุ่มยาแอนติบอดีแบบผสม” ในกลุ่มโมโนโคลนอลแอนติบอดี (Monoclonal Antibody) ที่ยังคงสามารถรับมือกับสายพันธุ์โควิดที่หมุนเวียน ณ ตอนนี้ได้
เรียบเรียงจาก:https://thenewstrace.com/what-is-known-about-the-new-omicron-ba-4-6-sub-variant-should-we-worry/253765/