เปิดข้อมูล ‘บ.แคนนาธอรี่’ ธุรกิจใหม่เครือชาญวีรกูล ก่อตั้ง 22 มิ.ย.2564 น้องชาย‘อนุทิน’รมว.สาธารณสุข กก. -บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ ถือหุ้น 100% แจ้งวัตถุประสงค์ เพาะเมล็ดพันธุ์ ปลูก วิจัย สกัดสารจากส่วนประกอบของพืชสมุนไพร กัญชา กัญชง ล่าสุดยังไม่จดทะเบียนเลิกกิจการ งบการเงินระบุแตกไลน์ให้ผลตอบแทนระยะยาว
บริษัทในเครือของคนตระกูลชาญวีรกูลทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพืชกัญชา กัญชง จริงหรือไม่?
เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ ภายหลังราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ปลดล็อก กัญชากัญชงจากพืชยาเสพติด ประเภท 5 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2565 ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน หรือ ตั้งแต่ วันที่ 9 มิ.ย.2565 เป็นต้นไป
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2565 ยืนยันสรุปความว่า ไม่ใช่ซิโน-ไทย ตัวนายอนุทินไม่ได้มีส่วนกับบริษัทซิโน-ไทยมา 20 กว่าปีแล้ว บริษัทดังกล่าวเป็นของน้องชายที่พ่อได้แบ่งไว้ชัดเจนตั้งแต่สมัยก่อนมาเข้าการเมืองว่าให้ใครรับผิดชอบดูแลเรื่องอะไร และไม่ได้เจอน้องมานานแล้ว บริษัทของน้องทำธุรกิจกัญชง ไม่ใช่กัญชา และใบอนุญาตหมดไปก่อนเรื่องปลดล็อกกัญชา พอมีเรื่องวิจารณ์เข้ามาก็เลิกทำไปแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบ รายงานประจำปี 2564 บริษัท เอส ที พี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) (https://www.stpi.co.th/download/stpi-annual-report-2021-form-56-1-one-report/) ระบุมีบริษัทย่อย (ในเครือ) 9 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ Cannatory Co., Ltd. หรือ บริษัท แคนนาธอรี่ จำกัด (ดูเอกสาร)
file:///C:/Users/User/Downloads/STP&%3BI%20_OR2021ENG65-03-28%20low.pdf
ในรายงานประจำปี 2564 ระบุว่า
“ปี 2564 บริษัท ขยายธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนต่อเนื่องในระยะยาว โดยจัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท แคนนาธอรี่ จำกัด เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ถือหุ้น ร้อยละ 100 เพื่อศึกษาการลงทุนในธุรกิจกัญชง (ดูเอกสาร)
มาดูรายละเอียดเกี่ยวกับ บริษัท แคนนาธอรี่ จำกัด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?
จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัท แคนนาธอรี่ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ทุน 5 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 32/24 อาคารซิโน-ไทย ทาวเวอร์ ชั้น 3 ถนนสุขุมวิท 21(อโศกมนตรี) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร กรรมการ 4 คน ได้แก่ นายมาศถวิน ชาญวีรกูล (น้องชายนนายอนุทิน) นายชำนิ จันทร์ฉาย นายชวลิต ลิ่มพานิชย์ และ นางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ เป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น 4 ราย บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) 499,997 หุ้น (99.99%) นายชำนิ จันทร์ฉาย นางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ และ นายวรราช พรหมขุนทอง คนละ 1 หุ้น รวมหุ้นทั้งหมด 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนถึงปัจจุบัน
แจ้งรายละเอียดวัตถุประสงค์ (แบบ ว.) 44 ข้อ
แบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ (แบบ สสช. 1) 1 ข้อ ระบุ
ข้อ 1. ประกอบกิจการเพาะพันธุ์ เพาะเมล็ดพันธุ์ เพื่อทำการปลูก, วิจัย, สกัดสารต่างๆจากส่วนประกอบของพืชสมุนไพร รวมถึงกัญชา กัญชง ที่ได้รับอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อมีไว้สำหรับการนำเข้า ส่งออก จำหน่าย (ดูเอกสาร)
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ประชุมผู้ถือหุ้น : 26 เมษายน 2565 บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) 499,997 หุ้น (99.99%) นายชำนิ จันทร์ฉาย นางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ และ นายวรราช พรหมขุนทอง คนละ 1 หุ้น รวมหุ้นทั้งหมด 500,000 หุ้น
ล่าสุดวันที่ 19 ต.ค.2565 จดทะเบียนเพิ่มสำนักงานสาขา 1 แห่ง ได้แก่ สำนักงานสาขา เลขที่ 116 หมู่ 5 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ข้อมูลงบแสดงฐานะการเงิน
งบกำไรขาดทุน รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2564 รายได้ 729 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,659,886 บาท งบดุล สินทรัพย์ 3,352,795 บาท หนี้สิน 12,681 บาท
ทั้งนี้ บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท แคนนาธอรี่ จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรก
1.บลจ.เกียรตินาคินภัทร(รับโอนจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อการจัดการทรัพย์สินของรัฐมนตรี ถือหุ้นใหญ่ 164,590,285 หุ้น (ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 เนื่องจากรัฐธรรมนูญห้ามรัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเกินกว่าจำนวน ที่กฎหมายบัญญัติ ( 5%) กรณีรัฐมนตรีมีความประสงค์จะถือหุ้นในนิติบุคคลเกิน 5% ของทุนจดทะเบียนต้องว่าจ้างให้นิติบุคคล เข้ามาบริหารจัดการแทนและต้องแจ้งให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ)
2.บริษัท เบสท์ ควอลิตี้ สกิลส์ จำกัด (บุตรชายและบุตรสาวนายอนุทินเป็นเจ้าของ) ถือ 77,880,000 หุ้น
3.นาย ยรรยง นิติสาโรจน์ 67,486,724 หุ้น
4.นายชวลิต ลิ่มพานิชย์ 64,899,995 หุ้น
5.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล 56,906,765 หุ้น (บิดานายอนุทิน)
จากข้อมูลเห็นได้ว่า บริษัทนี้เป็นบริษัทในเครือบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) ของครอบครัวนายอนุทิน แจ้งวัตถุประสงค์ ประกอบกิจการเพาะพันธุ์ เพาะเมล็ดพันธุ์ เพื่อทำการปลูก, วิจัย, สกัดสารต่างๆจากส่วนประกอบของพืชสมุนไพร รวมถึงกัญชา กัญชง เพื่อนำเข้า ส่งออก จำหน่าย
ล่าสุดยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกกิจการ
อย่างไรก็ตาม บริษัทนี้กำลังเพาะปลูกพืชกัญชากัญชงหรือทำสารสกัด ตามวัตถุประสงค์ที่จดแจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือไม่
ไม่มีข้อมูลในตอนนี้