"...ที่มีผู้บริหารมองว่า ใส่กระดุมผิดเม็ดแรก ผมมองว่าผู้บริหารอาจมีมุมมองที่แตกต่างกันได้ ซึ่งในชั้นนี้ทาง ป.ป.ช. จะบอกว่าใครผิดอาจจะยังชี้แจงไม่ได้ เพราะเรายังไม่ได้ไปดูข้อเท็จจริง ปัญหาเกิดจากตรงไหน ถ้าถามว่าเอาผิดกับผู้บริหารชุดเก่าได้หรือไม่นั้นมันก็เป็นความผิดทางอาญาประเภทหนึ่งซึ่งมีอายุความตามหลักทั่วไป ซึ่งจากการดูข้อมูลยังอยู่ในปี 2552 สามารถดำเนินการได้..."
นับตั้งแต่เมื่อปี 2552 องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง ยุคสมัย นายกิจ หลีกภัย นั่งเก้าอี้ นายกอบจ.ตรัง ได้วางศิลาฤกษ์ก่อสร้างมัสยิดกลางตรัง ในพื้นที่ 40 ไร่ ตั้งอยู่หมู่ 1 ตำบลทุ่งกระบือ อำเภอย่านตาขาว ใช้งบประมาณในการปรับพื้นที่ จำนวน 10 ล้านบาท และอีก 25 ล้านบาทในการก่อสร้างอาคาร
หลังจากนั้นในปี 2550 ทาง อบจ.ตรัง ได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณในการปรับปรุงสถานที่ไปแล้วเกือบ 100 ล้านบาท รวมทั้งล่าสุดในปี 2562 ยังได้มีการได้ตั้งงบประมาณทุ่มลงไปอีก 8,800,000 บาท เพื่อเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์
แต่ผลปรากฏว่าผ่านมาแล้ว 14 ปี โครงการดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ
ปัจจุบันสภาพด้านในและนอกตัวอาคารมีการผุพังเป็นอย่างมาก ทั้งที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ซึ่งที่มาผ่านมาทาง สำนักงาน ป.ป.ช.ตรัง เครือข่ายชมรมตรังต้านโกง รวมทั้งทีมข่าวพิเศษสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ลงพื้นที่และติดตามเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่มีผู้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบ
- ร้อง 'สตง.' สอบมัสยิด อบจ.ตรัง 32 ล. ก่อสร้างตั้งแต่ปี 52 ยังไม่เสร็จ-ชำรุดหลายจุด
- ทุกขั้นตอนสำคัญ-มีรายละเอียดมาก! 'กิจ หลีกภัย' แจงใช้งบ 100 ล.สร้างมัสยิด 10ปี ไม่เสร็จ
- 'อิศรา' ตามไปดูมัสยิดกลางตรัง ใช้งบ 100 ล. (ทำไม?) สร้าง 10 ปี ไม่เสร็จ
- หยากไย่เต็มไปหมด! ผู้ตรวจสอบเงินแผ่นดินภาค ปชช. ลุยตรวจมัสยิดกลางตรังร้อยล.
ล่าสุด นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ หรือโกเล้ง นายก อบจ.ตรัง (คนปัจจุบัน) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวพิเศษสำนักข่าวอิศราว่า มัสยิดตรังหลังนี้สร้างมากว่า 10 ปี ซึ่งใช้งบประมาณไปแล้วกว่าร้อยล้านบาท แต่ยังไม่แล้วเสร็จ สร้างมาตั้งแต่สมัยนายกิจ หลีกภัย อดีตนายก อบจ.ตรัง คนเก่า ซึ่งสมัยที่ตนได้เข้ามารับไม้ต่อ มองว่าการสร้างมัสยิดหลังนี้เปรียบเสมือนการใส่กระดุมผิดเม็ดแรก จึงทำให้ผิดทั้งหมด ปัญหาจึงตามมาเรื่อย ๆ
"ที่ผ่านมามัสยิดหลังนี้จะมีปัญหายามหน้าฝน น้ำรั่วไหลจนทำให้ฝ้าเพดานต่าง ๆ ผุพัง เกิดความเสียหาย ผมในฐานะผู้บริหารชุดใหม่ได้พยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน คือทำรางระบายน้ำรอบหลังคาโดม และมีรางรองรับน้ำที่ลงจากโดมซึ่งต้องแก้ปัญหาส่วนนี้ให้ได้ก่อน ก่อนที่จะดำเนินการแก้ฝ้าเพดาน"
@ บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ
"แต่ตอนนี้ยังแก้ไม่ได้ เพราะหลังคายังมีน้ำรั่วไหล จึงจำเป็นต้องทำตามขั้นตอนเพื่อการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนเสนอรายการอยู่ในการแก้ไขฝ้าเพดาน ที่ได้ผ่านการเข้าประชุมสภาเรียบร้อยแล้ว กำลังดำเนินการในเรื่องพัสดุ หลังจากเสร็จสิ้นก็จะมอบให้กับกรรมการอิสลามจังหวัดตรังเข้ามาดูแล แต่ตอนนี้ยังไม่ส่งมอบได้ ที่สำคัญคือเกิดความขัดแย้งในคณะกรรมการอิสลามได้มีการแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ซึ่งผมก็ลำบากใจเช่นกัน แต่ก็ต้องประนีประนอมกันไป ซึ่งก่อนหน้าที่นายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและตั้งข้อสังเกตให้ผมไปดูและแก้ไขหลายข้อแล้ว"
ด้านนายราม วสุธนภิญโญ ผอ. ป.ป.ช.ตรัง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นที่รับทราบกันว่าทาง อบจ.ตรัง ได้สร้างมัสยิดกลาง วัตถุประสงค์เพื่อถ่ายโอนให้กับคณะกรรมการอิสลามจังหวัดตรัง ใช้เป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจ หรือประกอบพิธีกรรมของศาสนา แต่เท่าที่ติดตามปรากฏว่าทาง อบจ.ตรัง ยังไม่สามารถให้บรรลุเป้าหมายตามจุดประสงค์ได้ ซึ่งตรงนี้มันอาจผิดวัตถุประสงค์การใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า ประชาชนไม่รู้ทิศทางว่าเมื่อไหร่จะได้ใช้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว
"การใช้งบประมาณต้องระบุชัดเจน กำหนดเวลาที่ชัดเจนว่ากี่เดือน กี่ปี แล้วเสร็จ ถึงจะมอบต่อ แต่มันเกิดปัญหาคาราคาซังเรื่องการบริหารจัดการของท้องถิ่นเองที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายได้"
นายราม กล่าวอีกว่า "ในบริบทของหน่วยงาน ป.ป.ช. เอง อย่างเรื่องของการไต่สวนเพื่อเอาผิดการทุจริต และบริบทอื่นเรื่องการป้องกันการทุจริต การเฝ้าระวัง เราก็เข้าไปส่งเสริมแนะนำหน่วยงานของรัฐให้ดำเนินการให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย ในชั้นนี้ทาง ป.ป.ช. เข้าไปเสนอแนะว่าทาง อบจ.ดำเนินการไม่ถูกต้อง ทำแล้วต้องทำให้บรรลุเป้าหมายจริง ๆ ปัญหาแท้จริงคือทาง อบจ.ไม่สามารถส่งมอบมัสยิดกลางแห่งนี้ได้ อาจจะเกิดความไม่พร้อมทางตัวอาคาร ปัญหาอาคารที่ยังมีการรั่วไหลของน้ำฝน
"ถ้าจะส่งมอบทาง อบจ.ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ก่อน จึงสามารถส่งมอบได้ ในส่วนความผิดพลาดในอดีตก็ต้องว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งทาง ป.ป.ช. ทำในวันนี้ก็เพื่อแก่ปัญหาให้งบประมาณที่ลงไปแล้วเป็นร้อยล้านให้มันเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน จึงได้เข้าพูดคุยปรึกษาหารือกับผู้บริหารชุดปัจจุบันเพื่อให้แก้ไขให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้วย"
"ไม่อย่างนั้นเท่ากับว่างบประมาณในส่วนของการก่อสร้างมัสยิดสูญเปล่าก็เหมือนการก่อสร้างทิ้งร้างเลย"
ส่วนการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องนั้น ผอ. ป.ป.ช.ตรัง กล่าวย้ำว่า ในส่วนของการจะเอาผิดหรือใครต้องรับผิดก็ต้องว่ากันอีกทีว่ากันไปตามกระบวนการ
"ที่มีผู้บริหารมองว่า ใส่กระดุมผิดเม็ดแรก ผมมองว่าผู้บริหารอาจมีมุมมองที่แตกต่างกันได้ ซึ่งในชั้นนี้ทาง ป.ป.ช. จะบอกว่าใครผิดอาจจะยังชี้แจงไม่ได้ เพราะเรายังไม่ได้ไปดูข้อเท็จจริง ปัญหาเกิดจากตรงไหน ถ้าถามว่าเอาผิดกับผู้บริหารชุดเก่าได้หรือไม่นั้นมันก็เป็นความผิดทางอาญาประเภทหนึ่งซึ่งมีอายุความตามหลักทั่วไป ซึ่งจากการดูข้อมูลยังอยู่ในปี 2552 สามารถดำเนินการได้" ผอ. ป.ป.ช.ตรังกล่าว
ทั้งหมดเป็นข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับกรณีปัญหาการก่อสร้างมัสยิดกลางตรัง ที่ผ่านมาแล้ว 14 ปี ใช้งบกว่าร้อยล้านบาท แต่โครงการยังไม่แล้วเสร็จ
ท้ายที่สุดแล้ว ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ (โดนเช็คบิลกันบ้าง) คงต้องติดตามดูกันต่อไป