“ผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ XE อันเป็นสายพันธุ์ที่เกิดจากการรวมตัวกันของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน BA.1 และ BA.2 นั้นพบว่ามีจำนวนประมาณ 637 รายในสหราชอาณาจักร ซึ่งตัวอย่างเชื้อที่ถูกตรวจพบในช่วงแรกๆนั้น อยู่ในช่วงวันที่ 19 ม.ค. 2565” รายงานจากสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักรที่เพิ่งจะมีการอัปเดตเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ระบุ
ข่าวเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัส ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ นั้นไม่มีข่าวไหนจะเป็นที่น่าสนใจได้เท่ากับข่าวการพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า XE ที่ก่อให้เกิดผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก
โดยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเสนอรายงานข่าวอ้างอิงจากสำนักข่าวไทม์สออฟอินเดีย ในหัวข้อว่า “เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์ XE” โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ในช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มที่จะโล่งใจแล้วเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่ลดลง ก็ปรากฏกรณีการเกิดขึ้นของไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ขึ้น
โดยองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้มีการออกมารายงานเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า XE ซึ่งโควิดนี้ได้ถูกตรวจพบและทำให้สถานการณ์การระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่นั้นมีความเลวร้ายลง เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าโควิดสายพันธุ์นี้นั้นมีศักยภาพในการแพร่เชื้อได้ในอัตราที่เหนือกว่าโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ที่ถือว่ามีศักยภาพในการแพร่เชื้อได้สูงกว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์ก่อนหน้านี้
และสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือว่าโควิดสายพันธุ์โอไมครอนดังกล่าวนั้นทำให้เกิดการระบาดในระลอกที่สามที่กินพื้นที่ทั่วโลกในช่วงระยะเวลาไม่นาน ซึ่งแม้ว่าอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้นจะน้อยลงเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่ทว่าอัตราการกินส่วนแบ่งและทดแทนโควิดสายพันธุ์เดลต้านั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง
โดยนี่คือ 5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์ XE จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญสุขภาพ
@โควิด XE นั้นเป็นการรวมตัวกันของโควิดโอไมครอน BA.1 และ BA.2
ทาง WHO ได้เคยเตือนเรามานานแล้วเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของการรวมตัวของไวรัส โดยโควิดเดลตาครอนนั้นถือได้ว่าเป็นโควิดที่เกิดจากการรวมตัวเป็นสายพันธุ์แรกๆ และต่อมาก็มีการตรวจพบการรวมตัวกันของไวรัสโควิดกับไข้หวัดใหญ่หรือที่เรียกกันว่าฟลูโรนาเกิดขึ้นตามมา
ขณะที่โควิดสายพันธุ์ XE นั้นก็มีการถูกกล่าวถึงว่าแท้จริงแล้วเกิดจากการรวมตัวกันของโควิดโอไมครอน BA.1 และ BA.2
อนึ่งการรวมตัวกันของไวรัสนั้นไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่แต่อย่างใด การรวมตัวกันนั้นจะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อนั้นได้รับการติดเชื้อมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ขึ้นไป และไวรัสทั้งสองสายพันธุ์ได้มีการแบ่งองค์ประกอบทางพันธุกรรมร่วมกัน
คำถามที่มีการถามกันมากก็คือการรวมตัวของไวรัสนั้นเป็นเรื่องอันตรายหรือไม่ ? ซึ่งทางด้านของ พญ.ซูซาน ฮอปกินส์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักรได้กล่าวว่า “เช่นเดียวกับโควิดสายพันธุ์อื่นๆ โดยส่วนใหญ่แล้วการรวมตัวของไวรัสนั้นไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ใดๆกับตัวไวรัสเลย และไวรัสที่เกิดจากการรวมตัวกันนั้นมักจะตายลงค่อนข้างเร็ว”
รายงานเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์ XE ในสหราชอาณาจักร (อ้างอิงวิดีโอจาก NDTV)
@ไวรัสโควิด XE มีศักยภาพที่จะเป็นโควิดสายพันธุ์อันน่ากังวล
ข้อมูลจาก WHO ได้ระบุถึงการวิจัยเบื้องต้นเพื่อหาความเป็นไปได้ในการที่โควิดสายพันธุ์ XE จะเป็นสายพันธุ์อันน่ากังวลมีรายละเอียดดังนี้
“ผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ XE อันเป็นสายพันธุ์ที่เกิดจากการรวมตัวกันของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน BA.1 และ BA.2 นั้นพบว่ามีจำนวนประมาณ 637 รายในสหราชอาณาจักร ซึ่งตัวอย่างเชื้อที่ถูกตรวจพบในช่วงแรกๆนั้น อยู่ในช่วงวันที่ 19 ม.ค. 2565” รายงานจากสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักรที่เพิ่งจะมีการอัปเดตเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ระบุ
สำหรับในประเด็นเรื่องของความก้าวร้ามในการแพร่เชื้อของสายพันธุ์ดังกล่าว ทางด้านของ พญ.ฮอปกินส์กล่าวว่า “ไวรัสโควิดสายพันธุ์ XE แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตที่ผันแปร และเรายังไม่สามารถยืนยันได้ว่าไวรัสที่เกิดมาจากการรวมตัวนั้นจะได้รับความได้เปรียบในเรื่องของการเติบโตของไวรัสมาหรือไม่ ดังนั้นในตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะไปถึงข้อสรุปเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการแพร่เชื้อ,ความร้ายแรง หรือประสิทธิภาพของวัคซีนที่จะมีต่อไวรัสโควิดชนิดนี้ได้”
ทั้งนี้ WHO ได้มีการกำหนดไวรัสสายพันธุ์อันน่ากังวลด้วยปัจจัยว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางพันธุกรรมจนทำให้เกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ และไวรัสที่ว่านั้นต้องมีอัตราในการเติบโตที่สูงตามมาด้วย
@ไวรัสโควิด XE สามารถถ่ายทอดได้สูงมาก
มีการระบุในรายงานว่าโควิดสายพันธุ์ XE นั้นมีศักยภาพในการแพร่เชื้อได้สูงมาก โดยอยู่ในอัตราประมาณ 10 เท่าของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ที่มีอัตราการแพร่เชื้อสูงกว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่เคยปรากฏตัวก่อนหน้านี้ และมีการประเมินว่าอัตราการแพร่เชื้อของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนั้นสูงมากจนใช้เวลาไม่นานในการระบาดทั่วโลกจนทำให้ผู้ป่วยโควิดส่วนมากป่วยด้วยสายพันธุ์นี้
บทวิเคราะห์ว่าโควิด XE นั้นอาจมีศักยภาพในการแพร่เชื้อได้มากกว่าโควิดโอไมครอน BA.1 อยู่ที่มากกว่า 40 เท่า (อ้างอิงวิดีโอจาก Drbeen Medical Lectures)
@รายละเอียดของโควิดสายพันธุ์ XE ที่ยังต้องรอข้อมูล
ตามรายงานของทาง WHO นั้น ระบุว่ามีข้อมูลอยู่หลายประการที่ยังคงต้องรอต่อไป ทั้งในประเด็นที่ว่าจะมีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญทั้งในแง่ของการแพร่เชื้อและความร้ายแรงหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างโควิดสายพันธุ์โอไมครอน กับโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดจากการรวมตัวกันในครั้งนี้
โดยโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนั้นทำให้เกิดการระบาดระลอกที่สาม และตอนนี้ก็ส่งผลอย่างยิ่งต่อวิถีชีวิตอันปกติของผู้คนในประเทศจีน ซึ่งในช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโอไมครอนเป็นจำนวนทั้งสิ้นกว่า 104,000 รายแล้วในนครเซี่ยงไฮ้
@กรณีการระบาดของโควิดสายพันธุ์ XE และสายพันธุ์ผสม ในที่ต่างๆ
นอกเหนือจากที่สหราชอาณาจักรที่มีการรายงานผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ XE ไปมากกว่า 637 รายแล้ว ยังพบกรณีการระบาดของโควิดสายพันธุ์ที่เกิดจากการรวมตัวกันของสายพันธุ์อื่นๆด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่นโควิดสายพันธุ์ XD ที่เกิดจากการรวมตัวของสายพันธุ์เดลตา ก็พบว่าที่ประเทศฝรั่งเศสนั้นมีผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ XD ดังกล่าวไปแล้วกว่า 49 ราย,ขณะที่โควิดสายพันธุ์ XF อันเป็นโควิดที่เกิดจากการควบรวมกันของโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ BA.1 ก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวไปแล้วจำนวน 38 ราย ในสหราชอาณาจักร ซึ่ง ณ เวลานี้ยังไม่พบว่าเกิดการแพร่พันธุ์ของโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวในชุมชน