"...ในฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐ ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงปี 2548 ถึงปี 2561 บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด ปรากฏชื่อเป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐ จำนวนกว่า 39 สัญญา รวมวงเงิน 746,900,069 บาท มีหลายสัญญาที่ได้รับงานจาก เทศบาลเมืองเมืองปัก ทั้งในช่วงที่ยังเป็น เทศบาลตำบลเมืองปัก และอยู่ในช่วงเวลาที่ นายมงคล ประยูรหงษ์ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองเมืองปักด้วย..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า นายมงคล ประยูรหงษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมติชี้มูความผิดพร้อมพวก กรณีเข้าไปมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับเทศบาลเมืองเมืองปักในโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายผิวจราจร แอสฟัลท์ติกคอนกรีต สายศรีพลรัตน์ ตามสัญญาจ้าง เลขที่ 26/2559 ลงวันที่ 18 เมษายน 2559 จำนวนเงินงบประมาณ 3,500,000 บาท
พฤติการณ์ที่ปรากฏ คือ
1. นายมงคล ได้เชิด บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด เพื่อเข้าเป็นคู่สัญญา กับเทศบาลเมืองเมืองปัก ซึ่งบริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด มีกรรมการบริษัทฯ จำนวน 4 คน ได้แก่ นายอดิศักดิ์ เตียวศิริทรัพย์ ซึ่งเป็นเป็นพี่ชายของ นางวราภรณ์ เตียวศิริทรัพย์ คู่สมรสของนายมงคล ส่วน นายเกรียงเดช เตียวศิริทรัพย์, นายเกรียงไกร เตียวศิริทรัพย์ และนายชุมพล เตียวศิริทรัพย์ เป็นบุตรของ นายอดิศักดิ์ เตียวศิริทรัพย์
2. ในการเข้ามาทำงานโครงการปรับปรุงขยายผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีตสายศรีพลรัตน์ ตามสัญญาจ้างดังกล่าว บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด ไม่ได้เข้ามาดำเนินการด้วยตนเองเนื่องจากบริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด ตั้งอยู่ที่อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากสถานที่ก่อสร้างซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา
แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ว.ประยูรก่อสร้าง (1984) ซึ่งมี นายมงคล เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 100,000,000 บาท และมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ได้เข้ามาทำงานในโครงการดังกล่าว
3. เมื่อได้อนุมัติเบิกเงินค่าจ้าง จำนวน 3,480,000 บาท ให้บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด ผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขา ปักธงชัย จากนั้นได้มีการถอนเงินจำนวน 1,900,000 บาท เพื่อฝากเงินด้วยการโอนเข้าบัญชีเงินฝาก นางสาวนฤมล ประยูรหงษ์ ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายมงคล และเป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนจำกัด ว.ประยูรก่อสร้าง (1984)
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังต่อไปนี้
1. การกระทำของนายมงคล ประยูรหงษ์ ในฐานะนายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามกรทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และ มาตรา 100 (1) ประกอบมาตรา 122 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 มาตรา 126 (1) ประกอบมาตรา 168)
2. การกระทำของนายชุมพล เตียวศิริทรัพย์ นายเกรียงไกร เตียวศิริทรัพย์ นายอดิศักดิ์ เตียวศิริทรัพย์ ในฐานะกรรมการบริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด , บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด, นางสาวนฤมล ประยูรหงษ์ หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ว.ประยูรก่อสร้าง (1984) และห้างหุ้นส่วนจำกัด ว.ประยูรก่อสร้าง (1984) มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมาตรา 100 (1) ประกอบมาตรา 122 (ปัจจุบัน เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 มาตรา 126 (1) ประกอบมาตรา 168) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูล บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด ที่ถูกระบุว่า เป็นธุรกิจของ นายอดิศักดิ์ เตียวศิริทรัพย์ ซึ่งเป็นพี่ชายของ นางวราภรณ์ เตียวศิริทรัพย์ คู่สมรสของนายมงคล ที่ถูกเชิดให้เข้ามารับงานโครงการฯ นี้
พบว่า ปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจอยู่
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 3 มีนาคม 2536 ทุน 1,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 150 หมู่ 6 ซอย ถนนละหานทรายตาพระยา ตำบลโนนดินแดง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์
แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย
ปรากฏชื่อ นาย อดิศักดิ์ เตียวศิริทรัพย์ นาย เกรียงเดช เตียวศิริทรัพย์ นาย เกรียงไกร เตียวศิริทรัพย์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
ณ 31 พฤษภาคม 2564 นาย เกรียงไกร เตียวศิริทรัพย์ ถือหุ้นใหญ่สุด 4,200 หุ้น มูลค่า 420,000 บาท นาย เกรียงเดช เตียวศิริทรัพย์ 2,400 หุ้น มูลค่า 240,000 บาท นางสาว แสงมณี เตียวศิริทรัพย์ และ นางสาว แสงเพชร เตียวศิริทรัพย์ ถืออยู่คนละ 1,200 หุ้น มูลค่า 120,000 บาท นาย อดิศักดิ์ เตียวศิริทรัพย์ ถืออยู่ 1,000 หุ้น มูลค่า 100,000 บาท
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2563 แจ้งว่ามีรายได้รวม 93,726,122.71 บาท ต้นทุนขาย และ/หรือบริการ 85,961,590.52 บาท กำไรสุทธิ 3,888,122.82 บาท
ในฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐ ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงปี 2548 ถึงปี 2561 บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จำกัด ปรากฏชื่อเป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐ จำนวนกว่า 39 สัญญา รวมวงเงิน 746,900,069 บาท
มีหลายสัญญาที่ได้รับงานจาก เทศบาลเมืองเมืองปัก ทั้งในช่วงที่ยังเป็น เทศบาลตำบลเมืองปัก และอยู่ในช่วงเวลาที่ นายมงคล ประยูรหงษ์ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองเมืองปักด้วย
(คลิกดูข้อมูลสัญญาจัดซื้อจ้างทั้งหมดที่นี่ http://procurement-oag.in.th/index-2.php
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา การดำเนินงานโครงการฯ เหล่านี้ ยังไม่เคยปรากฏข้อมูลว่าถูกร้องเรียนหรือถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบเหมือนในโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายผิวจราจร แอสฟัลท์ติกคอนกรีต สายศรีพลรัตน์ วงเงินงบประมาณ 3,500,000 บาท ด้วยหรือไม่
ส่วนโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายผิวจราจร แอสฟัลท์ติกคอนกรีต สายศรีพลรัตน์ วงเงินงบประมาณ 3,500,000 บาท ที่มีปัญหานั้น สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ผลการต่อสู้คดีนี้ในชั้นศาลจะออกมาเป็นอย่างไร ต้องติดตามดูกันต่อไป