ปม ผอ.องค์การเภสัชฯ ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ภรรยามีเงินให้กู้ยืม 24 ล. ตั้งแต่ปี 2559 ‘อิศรา’ติดต่อสัมภาษณ์ 3 ครั้ง ล่าสุด ยังไม่สะดวกชี้แจงรายละเอียด ขณะที่ ไม่พบมีรายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ยืมในเอกสารยื่น ป.ป.ช. ส่วนลูกหนี้เป็นนักธุรกิจ
ยังไม่มีคำอธิบายจากนายวิฑูรย์ หรือ นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม / กรรมการองค์การเภสัชกรรม กรณีเงินให้กู้ยืม 24 ล้านบาทของภรรยาตามที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ช. ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ราย นายวิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม / กรรมการองค์การเภสัชกรรม อายุ 58 ปี เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 มีทรัพย์สิน 138,205,760.68 บาท จำแนกเป็น เงินฝาก 19,874,087.33 บาท (26 บัญชี) เงินลงทุน 8,130,495.85 บาท (กองทุน หุ้น สหกรณ์รวม 20 รายการ) ที่ดิน 43,850,000 บาท (11 แปลง) โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 51,400,000 บาท ( 6 หลัง) ยานพาหนะ 2,150,000 บาท ( 6 คัน) สิทธิและสัมปทาน 4,881,177.50 บาท (กรมธรรม์) ทรัพย์สินอื่น 7,920,000 บาท (ทองคำแท่ง หนัก 400 บาท) หนี้สิน 18,842,209.21 บาท
นางสุนันทา ด่านวิบูลย์ (ชื่อสกุลเดิม- น.ส.สุนันทา ศศิพงศ์อนันต์) คู่สมรส ทรัพย์สิน 98,485,770.70บาท จำแนกเป็น เงินฝาก 2,385,823.45 บาท (19 บัญชี) เงินลงทุน 3,328,309.58 บาท ( 8 รายการ) เงินให้กู้ยืม 24,000,000 บาท (นายนำกฤต จีรพุฒิรักษ์ ทำสัญญา 17 ส.ค.2559 ) ที่ดิน 38,650,000 บาท (15 แปลง) โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 16,000,000 บาท ( 4 หลัง) ยานพาหนะ 400,000 บาท ( 1 คัน) สิทธิและสัมปทาน 1,441,637.67 บาท (กรมธรรม์) ทรัพย์สินอื่น 12,280,000 บาท (เครื่องประดับ พระเครื่อง) หนี้สิน 17,518,752.67 บาท
รวมทรัพย์สินทั้งสิ้น 236,691,531.38 บาท (ที่ดิน 82.5 ล้าน) รวมหนี้สิน 36,360,961.88 บาท
ตามที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานแล้ว (เรื่องเกี่ยวข้อง: รายได้ 7.4 ล.ต่อปี! ทรัพย์สิน‘วิฑูรย์’ผอ.องค์การเภสัชฯ 236.6 ล. -ภรรยามีเงินให้กู้ 24 ล.7.4 ล.7.4 ล.7.4 ล.)
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังเบอร์สำนักงาน 022038000 เวลา 14:09 และต่อสายไปยังกองประชาสัมพันธ์เพื่อติดต่อขอสัมภาษณ์ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “ท่านเคยให้นโยบายไว้ว่ากรณีที่สื่อมวลชนที่มีการสัมภาษณ์หรือว่ามีการเกี่ยวกับกรณีสื่อมวลชนให้ทางประชาสัมพันธ์เป็นผู้ประสาน” ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องดำเนินการประสานให้กับทีมเลขานุการ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ต่อมาเวลา 15:00 น. เจ้าหน้าที่องค์การเภสัชติดต่อกลับมายังผู้สื่อข่าวว่า “ท่านผู้อำนวยการไม่สะดวก” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า “ท่านแจ้งว่าอะไร เจ้าหน้าที่ตอบว่า ท่านบอกว่าไม่สะดวก” เมื่อถามย้ำว่า “ท่านไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ใช่ไหม” เจ้าหน้าที่ตอบว่า “ใช่ค่ะ ท่านอาจจะติดภารกิจ”
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 เวลา 12:00 น. ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์เจ้าหน้าที่องค์การเภสัช เพื่อติดต่อขอสัมภาษณ์ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ อีกครั้ง เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “เดี๋ยวยังไงจะแจ้งอีกที”
กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 เวลา 10:15 น. ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังกองประชาสัมพันธ์องค์การเภสัช เพื่อติดต่อสัมภาษณ์ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ กรณีเงินให้กูยืม 24 ล้าน เจ้าหน้าที่ตอบว่า “ถ้าเป็นประเด็นนี้ ผอ.ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เลยครับ” เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ท่านเคยกล่าวไว้ใช่ไหม เจ้าหน้าที่ตอบว่า “ปกติเราจะทำเป็นบันทึกเวลามีสื่อมวลชนจะมาสัมภาษณ์ ส่งให้ท่านทราบ แล้วก็ท่านตอบกลับมาว่า ไม่สะดวก”
สำหรับเงินให้กู้ยืม จำนวน 24 ล้านบาท นายวิฑูรย์ ระบุในบัญชีฯทรัพย์สินว่า ทำสัญญาวันที่ 17 ส.ค.2559 อย่างไรก็ตาม ในแบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน นายวิฑูรย์แจ้งข้อมูลรายได้และรายจ่ายต่อปี (โดยประมาณ) รายได้ 7,416,343.26 บาท ที่มา รายได้ประจำ ได้แก่ เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง 6,718,310.89 บาท (ฐานปี 2563) ,กำไรจากคลินิก 120,000 บาท ,ค่าตอบแทนและเงินเพิ่มพิเศษ 130,500 บาท รายได้จากทรัพย์สิน ค่าเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 204,000 บาท , รายได้อื่นๆ ดอกเบี้ยปันผลจากกองทุน 90,992.98 บาท (ฐานปี 2563) ปันผลจากหุ้น 122,504.37 บาท (ฐานปี 2563)
คู่สมรส รายได้ 108,000 บาท จำแนกเป็น รายได้ประจำ ได้แก่ เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง (ฐานปี 2563) จำนวน 60,000 บาท และรายได้จากทรัพย์สิน ค่าเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 48,000 บาท
น่าสังเกตว่า คู่สมรสไม่มีรายได้จากดอกเบี้ยหรือเงินให้กู้ยืมแต่อย่างใด
ขณะที่ข้อมูลการเสียภาษีเงินได้รอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) 6,748,810.89 บาท คู่สมรส เงินได้ฯ 60,000 บาท
กล่าวสำหรับนายนำกฤต จีรพุฒิรักษ์ ซึ่งมีสถานะลูกหนี้ นางสุนันทา ด่านวิบูลย์ จากการตรวจสอบข้อมูลทางธุรกิจพบว่าเป็นกรรมการ 7 บริษัท