“...ที่ผ่านมาผู้ใต้บังคับบัญชา รวมทั้งบุคลากรในเทศบาลนครตรัง ต่างก็ทราบถึงการประพฤติของนายรณรงค์ เป็นอย่างดีในการใช้รถราชการเสมือนรถส่วนตัว โดยที่ข้าราชการรายหนึ่งในเทศบาลนครตรัง ซึ่งถือเป็นคนที่สนิทกับนายรณรงค์ ได้พูดคุยและเตือนพร้อมขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง แต่นายรณรงค์ ก็ยังไม่หยุด และยังคงใช้มาอย่างต่อเนื่อง เพราะคิดว่าคงจะไม่มีความผิด หรือใครกล้าร้องเรียน...”
รถยนต์ส่วนกลางของทางราชการในคดีนี้ เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า สี่ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กง 5459 ปัจจุบันยังอยู่ที่เทศบาลนครตรัง
คือ ข้อมูลล่าสุด ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบ ต่อกรณี เทศบาลนครตรัง มีคำสั่งเทศบาลนครตรัง ที่ 1447/2564 ลงนามโดย นายสัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ลงโทษไล่ออกจากราชการ นายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง หรือ ผอ.กุ้ง พนักงานเทศบาล ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครตรัง (นักบริหารงานสวัสดิการสังคม ระดับกลาง) เงินเดือน 55,840 บาท ได้กระทำผิดวินัย กรณีนำรถยนต์ส่วนกลางของทางราชการหมายเลขทะเบียน กง 5459 ตรัง ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว และเบิกจ่ายเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการใช้รถยนต์คันดังกล่าวจากทางราชการโดยมิชอบ ตั้งแต่เดือน ต.ค.2552 ถึง เดือน พ.ค.2559 (8ปี)
ตามรายงานผลการไต่สวน ของ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหาในกรณีดังกล่าว ก่อนที่จะมีมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 72/2564 พิจารณาเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 9 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า นายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม ได้ใช้อำนาจครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว เพื่อประโยชน์ของตนเองโดยมิชอบ แล้วนำรถไปใช้เป็นพาหนะในการเดินทางไป -กลับ ระหว่างบ้านพักเลขที่ 80/3 ซอย 4 ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง กับสำนักงานเทศบาลนครตรังเป็นประจำทุกวัน เดินทางไปร่วมงานสังคมต่างๆ เช่น งานศพ งานบวช งานแต่งงาน และงานประเพณีต่างๆ และเดินทางไปบ้านของมารดาของภรรยานายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง ที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง บ่อยครั้ง เสมือนว่าเป็นรถส่วนบุคคล และในการใช้รถยนต์คันดังกล่าว ได้เบิกจ่ายเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากเทศบาลนครตรังทุกครั้งเดือนละประมาณ 100 ลิตร อันเป็นการเบียดบังน้ำมันเชื้อเพลิงของเทศบาลนครตรัง รวมทั้งได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดเก็บรักษาไว้ที่บ้านพักของตนเองตลอดมาโดยไม่มีเหตุผลความจำเป็น และไม่มีการขออนุญาตจากนายกเทศมนตรีนครตรังเพื่อประโยชน์ของตนเอง
- ทน.ตรังไล่ ผอ.สวัสดิการสังคมออก หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลใช้รถหลวงไปบ้านเมียนาน 8 ปี
- เผยโฉม 'รถหลวง' คดีอดีตผอ.สวัสดิการสังคม ทน.ตรัง ใช้ไปบ้านเมียนาน 8 ปี ก่อนโดนไล่ออก
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยข้อมูลพฤติการณ์การกระทำความผิดของ นายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง หรือ ผอ.กุ้ง ในคดีนี้เพิ่มเติม จากแหล่งข่าวในเทศบาลนครตรัง
ระบุว่า นายรณรงค์ ได้ใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า สี่ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กง 5459 ตรัง และด้านข้างประตูรถมีตราของเทศบาลนครตรังติดกำกับอยู่ชัดเจน ซึ่งเป็นรถประจำกองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครตรัง มาเป็นระยะเวลาร่วมกว่า 8 ปี ตั้งแต่เดือน ต.ค.2552 ถึง เดือน พ.ค.2559 โดยนำรถไปใช้เป็นพาหนะในการเดินทางไป -กลับ ระหว่างบ้านพักเลขที่ 80/3 ซอย 4 ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง กับสำนักงานเทศบาลนครตรังเป็นประจำทุกวัน เดินทางไปร่วมงานสังคมต่างๆ เช่น งานศพ งานบวช งานแต่งงาน และงานประเพณีต่างๆ และเดินทางไปบ้านของมารดาของภรรยานายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง ที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง บ่อยครั้ง เสมือนว่าเป็นรถส่วนบุคคล และในการใช้รถยนต์คันดังกล่าว ได้เบิกจ่ายเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากเทศบาลนครตรังทุกครั้งเดือนละประมาณ 100 ลิตร
รถยนต์คันดังกล่าวนายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง จะเป็นคนถือกุญแจรถไว้ส่วนตัว รวมทั้งได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดเก็บรักษาไว้ที่บ้านพักของตนเองตลอดมาโดยไม่มีเหตุผลความจำเป็น และไม่มีการขออนุญาตจากนายกเทศมนตรีนครตรังเพื่อประโยชน์ของตนเอง และในบางครั้งหากผู้ใต้บังคับบัญชาจำเป็นจะต้องนำรถไปใช้ในงานของทางราชการจะต้องไปขอกุญแจกับนายรณรงค์ เพื่อนำมาติดตั้งเครื่องเสียง และลำโพงขยายเสียงไว้บนหลังคาเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมและงานของกองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครตรัง และหากผู้ใต้บังคับบัญชาใช้รถคันดังกล่าวทำงานอยู่ ถึงคราวใดที่นายรณรงค์ จะใช้งาน ก็จะต้องถอดเครื่องเสียง และเครื่องขยายเสียงเพื่อนำรถไปให้นายรณรงค์โดยทันทีทันใดพร้อมทั้งหากถอดเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องขับไปให้นายรณรงค์ โดยทันที ไม่ว่าในขณะนั้นนายรณรงค์ จะอยู่ที่ใด ซึ่งเป็นเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง
“ที่ผ่านมาผู้ใต้บังคับบัญชา รวมทั้งบุคลากรในเทศบาลนครตรัง ต่างก็ทราบถึงการประพฤติของนายรณรงค์ เป็นอย่างดีในการใช้รถราชการเสมือนรถส่วนตัว โดยที่ข้าราชการรายหนึ่งในเทศบาลนครตรัง ซึ่งถือเป็นคนที่สนิทกับนายรณรงค์ ได้พูดคุยและเตือนพร้อมขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง แต่นายรณรงค์ ก็ยังไม่หยุด และยังคงใช้มาอย่างต่อเนื่อง เพราะคิดว่าคงจะไม่มีความผิด หรือใครกล้าร้องเรียน” แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุ
ด้าน นายสัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีเทศบาลนครตรัง เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า การกระทำของ นายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง หรือ ผอ.กุ้ง เกิดขึ้นครั้งผู้บริหารชุดก่อนหน้า ซึ่งตนเข้ามาเป็นผู้บริหารชุดใหม่ แต่เมื่อหลังจากที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมาแล้ว ตนในฐานะเป็นผู้บริหารที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ก็ได้ทำหน้าที่ร่วมกับคณะกรรมการพนักงานเทศบาลนครตรัง และได้ลงนามลงโทษไล่ออกจากราชการ
@ สัญญา ศรีวิเชียร
นายสัญญา กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นตนได้สั่งการและเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ พนักงานและข้าราชการทั้งหมดแล้ว โดยสั่งกำชับเพื่อไม่ให้มีเจ้าหน้าที่คนใดนำรถของทางราชการไปใช้ส่วนตัวโดยเด็ดขาด โดยรถที่มีอยู่ทุกคันจะต้องใช้ในราชการเท่านั้น
"ขณะนี้บุคลากรของเทศบาลนครตรัง ไม่มีใครมีรถประจำตำแหน่ง และในส่วนของการเบิกจ่ายค่าน้ำมันได้สั่งกำชับและพิจารณาอย่างรอบคอบทุกอย่างในการเบิกจ่าย โดยค่าน้ำมันทุกบาททุกสตางค์จะต้องเบิกตามความเป็นจริงเท่านั้น ยอมรับว่ากรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น จะได้เป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อไม่ให้ข้าราชการ และบุคลากรคนใดประพฤติตาม และตนในฐานะเป็นผู้บริหารขอยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ซ้ำรอยขึ้นอีก" นายสัญญากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่เข้าไปสัมภาษณ์ นายสัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีเทศบาลนครตรัง และถ่ายภาพรถยนต์ส่วนกลางในคดีนี้ พบนายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง หรือ ผอ.กุ้ง ได้เดินทางเข้ามาภายในอาคารสำนักงานเทศบาลนครตรัง แต่ไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้านแต่อย่างใด
ปัจจุบันมีรายงานข่าวว่า นายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง อยู่ระหว่างยื่นเรื่องขออุทธรณ์คดีนี้อยู่
แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร พฤติการณ์ของนายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง ในคดีนี้ นับเป็นกรณีศึกษาสำคัญ เพื่อไม่ให้บุคคลอื่น กระทำผิดซ้ำรอย ไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่างได้ชัดเจนอีกกรณีหนึ่ง