“..SHA จึงเปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสินค้าและบริการ รวมทั้งด้านสุขอนามัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีมาตรการทางสาธารณสุขเป็นหัวใจหลัก ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมั่น และมั่นใจให้กับผู้ที่มาใช้สินค้าและบริการนั้นๆ..”
จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
แต่นับจากปลายเดือน เม.ย. จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะสามารถควบคุมโรคได้ดีขึ้นตามลำดับ
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) จึงได้มีการผ่อนปรนมาตรการป้องกันโรคและกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานกลางของแต่ละกิจการและกิจกรรม
โดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก และพิจารณาปัจจัยด้านสังคมและเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและสามารถเดินทางได้มากขึ้น
กระทรวงการท่องเทียวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข โดย กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ดำเนินโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA)
มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทยให้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรค เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปรับปรุงสินค้าและบริการให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรค เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อกระตุ้นให้สถานประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เตรียมความพร้อม และดำเนินการปรับปรุงสถานประกอบการให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ (New normal) และยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวควบคู่กับมาตรการด้านสุขอนามัย
ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศมีประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีมีความสุข และมีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
SHA จึงเปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสินค้าและบริการ รวมทั้งด้านสุขอนามัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีมาตรการทางสาธารณสุขเป็นหัวใจหลัก ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมั่น และมั่นใจให้กับผู้ที่มาใช้สินค้าและบริการนั้นๆ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ต ที่พัก ร้านค้า รวมถึงร้านอาหาร ต่างปรากฏสัญลักษณ์ SHA ตั้งแต่เมื่อเดือน มิ.ย. 2563 หลังจากมีมาตรการคลายล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกแรก
โดยแบ่งเป็น 10 ประเภทกิจการ/กิจกรรม ดังนี้
-
ภัตตาคาร/ร้านอาหาร
-
โรงแรม/ที่พัก/สถานที่จัดประชุม
-
นันทนาการ/สถานที่ท่องเที่ยว
-
ยานพาหนะ
-
บริษัทนําเที่ยว
-
สุขภาพและความงาม
-
ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า
-
กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว
-
การจัดประชุม MICE/จัดกิจกรรม/โรงมหรสพ
-
ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ
มาตรฐานเบื้องต้นจากกรมควบคุมโรคของทุกสถานประกอบการ มี 3 องค์ประกอบ คือ
-
สุขลักษณะอาคารและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่มีอยู่ในอาคาร อาทิ การเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งและทางเดินอย่างน้อย1 เมตร, การทำความสะอาดสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ในพื้นที่ส่วนกลางอย่างสม่ำเสมอ,การทำความสะอาดลิฟท์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น
-
การจัดอุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค อาทิ การติดตั้งพรมฆ่าเชื้อโรคบริเวณทางเข้าอาคาร, การติดตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์เจลสำหรับล้างมือ เป็นต้น
-
การป้องกันสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งมาตรการในแต่ละประเภทกิจการจะมีรายละเอียดระบุไว้อย่างชัดเจน อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานก่อนเข้าทำงาน, การให้พนักงานสวมหน้ากากอนามัยตลอดช่วงเวลาที่ให้บริการ เป็นต้น
โดยสภา สมาพันธ์ และสมาคมต่างๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเป็นผู้ตรวจประเมินตาม Checklist และรับรองผลการปรับปรุงตามมาตรฐาน SHA และ ททท.เป็นผู้ทําหน้าที่ควบคุมการออกตราสัญลักษณ์ SHA โดยมีการระบุหมายเลขให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อบันทึกเป็นฐานข้อมูล
ตราสัญลักษณ์ SHA เป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพื่อนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยว ดังนั้น รายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA จะได้รับการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/thailandsha และช่องทางต่างๆ ต่อไป
สำหรับมาตรการสุ่มตรวจประเมิน (Post Audit) แบ่งออกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่
-
คณะกรรมการสุ่มตรวจประเมิน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบประเมินสถานประกอบการ
-
นักท่องเที่ยว มีส่วนร่วมในการตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ Voice of Customer (VOC) เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการนําไปพัฒนาและ ปรับปรุงต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ สามารถเพิกถอนตราสัญลักษณ์ SHA ได้ในกรณีที่ผู้ประกอบการไม่สามารถรักษามาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับ ผู้ประกอบการสามารถสมัครลงทะเบียนและทำตามขั้นตอนผ่านเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/thailandsha
'SHA พลัส'พนักงานฉีดวัคซีนมากกว่า 70%
นอกจากมาตรฐาน SHA แล้ว ยังมีอีกหนึ่งตราสัญลักษณ์ คือ SHA+ (SHA Plus) ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ใหม่จากโครงการ โดยได้เริ่มต้นใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต มีเงื่อนไข คือ สถานประกอบการที่ได้รับสัญลักษณ์ SHA และ 70% ของบุคคลากรของสถานประกอบการได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จะได้รับสัญลักษณ์ SHA Plus สำหรับระยะเวลาการดำเนินโครงการ ตั้งแต่ 1 มิ.ย. – 31 ธ.ค. 2564 โดยมีสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ
วิธีการประเมิน SHA Plus
1. สถานประกอบการที่ได้รับสัญลักษณ์ SHA ยื่นแบบ form รายชื่อพนักงานและหมายเลขบัตรประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และจำนวนพนักงานตามข้อมูลจากประกันสังคมเดือนล่าสุด ทาง www.ภูเก็ตต้องชนะ.com
2. ระบบทำการเปรียบเทียบข้อมูลจำนวนพนักงานที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มของแต่ละสถานประกอบการ
3. คณะกรรมการอันมีรายชื่อด้านล่างทำการรับรองสถานประกอบการที่พนักงานจำนวน70% ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม
-
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
-
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภาคใต้ตอนบน (Depa)
-
สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต
-
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต
-
สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้
4. สถานประกอบการได้รับ company vaccine e-certificate แล้วนำไปอัพโหลดในเว็ปไซท์ SHA
5. คณะกรรมการ SHA พิจารณาออก SHA Plus ให้กับองค์กร
6. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทำการประชาสัมพันธ์สถานประกอบการที่ได้รับการรับรอง SHA Plus ในเว็บไซต์เพื่อให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการในสถานประกอบการเหล่านี้ก่อน และส่งรายชื่อให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อจัดทำ recommended list
หมายเหตุ
1. องค์กรยอมรับเงื่อนไขไม่ให้พนักงานที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมาปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสโดยตรงกับนักท่องเที่ยว
2. หากมีการรับพนักงานใหม่ ซึ่งพนักงานคนนั้นต้องสัมผัสกับนักท่องเที่ยว พนักงานคนนั้นจะต้องเป็นผู้ได้รับวัคซีนก่อนแล้วเท่านั้น
ผู้ประกอบการขึ้นทะเบียน SHA สร้างความเชื่อมั่น
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2564 นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่ รัฐบาลมีแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 นั้น
เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใช้บริการ
จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการในพื้นที่ กทม. เข้ารับการประเมินมาตรฐาน SHA เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรค ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รับประสบการณ์ที่ดี และมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จากสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย
โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทย
สำหรับสถานประกอบการในพื้นที่ กทม. ที่ได้รับมาตรฐานSHA และ SHA Plus ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 29 ต.ค. 2564 มีสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA จำนวนทั้งสิ้น 3,368 แห่ง แบ่งเป็น 10 ประเภท ดังนี้
-
ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 1,350 แห่ง
-
โรงแรม ที่พัก โฮมสเตย์ จำนวน 657 แห่ง
-
นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว จำนวน 51 แห่ง
-
ยานพาหนะ จำนวน 315 แห่ง
-
บริษัทนำเที่ยว จำนวน 427 แห่ง
-
สุขภาพและความงาม จำนวน 174 แห่ง
-
ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า จำนวน 82 แห่ง
-
กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 8 แห่ง
-
การจัดกิจกรรมประชุม/โรงละคร จำนวน 63 แห่ง
-
ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ จำนวน 180 แห่ง
รวมทั้งมีสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA Plus จำนวน 194 แห่ง ดังนี้
-
ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 6 แห่ง
-
โรงแรม ที่พัก โฮมสเตย์ จำนวน 150 แห่ง
-
นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว จำนวน 1 แห่ง
-
ยานพาหนะ จำนวน 4 แห่ง
-
บริษัทนำเที่ยว จำนวน 13 แห่ง
-
สุขภาพและความงาม จำนวน 7 แห่ง
-
ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า จำนวน 5 แห่ง
-
กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 1 แห่ง
-
การจัดกิจกรรมประชุม/โรงละคร จำนวน 1 แห่ง
-
ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ จำนวน 6 แห่ง
ทั้งหมดนี้ คือรายละเอียดของโครงการยกระดับการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในวันที่ 1 พ.ย.นี้ แต่ทั้งนี้ ก็ยังจะต้องคุมเข้มมาตรการส่วนบุคคลอื่นๆ การ์ดอย่าตก ไม่เช่นนั้น อาจจะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ขึ้นมาได้
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage