"..จำเลยให้ นาย น. ไปเจรจากับนาย ส. หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธา ว่า จําเลยประสงค์จะรับจ้างก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ชุมชนกลันตัน ซอย 4 ดังกล่าว แต่ต้องการใช้ชื่อของห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธา เป็นคู่สัญญากับเทศบาลตําบลสุคิริน..."
.......................................
นายสมควร เกตุแก้ว อดีตนายกเทศมนตรีตำบลสุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 ให้จำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีถูกกล่าวหาว่า จ้างเอกชนก่อสร้างถนนวงเงิน 6.8 ล้านบาท แต่เอกชนรายดังกล่าวไม่ได้เข้าไปทำงานจริง และมีการแบ่งเงินค่าโครงการให้ 10%
โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 (1), 122 วรรคหนึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 การกระทําของจําเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ลงโทษบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ซึ่งมีอัตราโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 จําคุก 3 ปี ข้อหาอื่นให้ยก
ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 แก้ว่า ให้จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 อีกมาตราหนึ่ง การกระทําของจําเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามมาตรา 152 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 50 จําคุก 3 ปี ทางนําสืบของจําเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจําคุก 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เห็นไปตามคําพิพากษาศาลชั้นต้น
สำหรับคดีนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญา และทางวินัยแก่ นายสมควรกรณีถูกกล่าวหาว่า ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่เทศบาล และเข้าเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาโครงการจ้างเหมาก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ชุมชนกลันตัน ซอย 4 หมู่ 4 ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส วงเงินประมาณ 6.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นกิจการงานของเทศบาลตำบลสุคิริน อันตนมีอำนาจกำกับดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี โดยยืมชื่อ หจก.ธนาการโยธา มาเป็นคู่สัญญากับเทศบาลตำบลสุคิริน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า นายสมควร มีความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการ หรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 152 และ 157 ผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 100 และ 123/3 และ พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 48 จตุทศ
สำหรับพฤติการณ์การกระทำความผิด ของ นายสมควร เกตุแก้ว นั้น
ในคำฟ้องคดีระบุว่า ขณะเกิดเหตุ นายสมควร เกตุแก้ว ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีสุคิริน อําเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส
ระหว่างวันที่ 11 สิงหาคม 2560 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 14 มีนาคม 2561 เวลากลางวัน ต่อเนื่องกัน จําเลยเป็นเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ อาศัยโอกาสที่ตนมีอํานาจหน้าที่ดังกล่าว กระทําการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายระเบียบและคําสั่งทางราชการ
กล่าวคือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้จัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 เงินอุดหนุนสําหรับก่อสร้าง/ปรับปรุงซ่อมแซมถนนทางหลวงท้องถิ่น 6,904,100 บาท ให้เทศบาลตําบลสุคิริน ก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กชุมชนกลันตัน ซอย 4 หมู่ที่ 4 ตําบลสุคิริน อําเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส กว้าง 6 เมตร ยาว 1,530 เมตร หนา 0.15 เมตร หรือมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 9,180 ตารางเมตร
วันที่ 11 สิงหาคม 2560 กองช่างเทศบาลตำบลสุคิริน ทำบันทึกขออนุมัติโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กดังกล่าว จำเลยมีคำสั่งอนุมัติและมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลาง ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2560 ในวันเดียวกันคณะกรรมการกำหนดราคากลาง เสนอผลการกำหนดราคากลาง 6,904,100 บาท จำเลยอนุมัติ
ต่อมาวันที่ 21 สิงหาคม 2560 เทศบาลฯ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ
อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2560 เวลากลางวัน จําเลยมีความประสงค์จะรับจ้างก่อสร้าง ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ชุมชนกลันตัน ซอย 4 ดังกล่าว แต่เนื่องจากจําเลยดํารงตําแหน่ง นายกเทศมนตรีตําบลสุคิรินไม่สามารถเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทํากับ เทศบาลตําบลสุคิรินได้
จําเลยให้ นาย น. ไปเจรจากับนาย ส. หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธา ว่า จําเลยประสงค์จะรับจ้างก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ชุมชนกลันตัน ซอย 4 ดังกล่าว
แต่ต้องการใช้ชื่อของห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธา เป็นคู่สัญญากับเทศบาลตําบลสุคิริน
โดยจําเลยจะดําเนินการก่อสร้างเองทั้งหมดและเสนอเงื่อนไขว่า จําเลย จะชําระค่าภาษีเงินได้นิติบุคคลประจําปีของรายได้จากการก่อสร้างถนนให้ และจะซื้อวัสดุก่อสร้างที่ใช้ในการก่อสร้างจากห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธา แต่นาย ส. ต้องออกเงินค่าประกันสัญญาไปก่อน
เมื่อส่งมอบงานงวดที่ 1 และได้เงินแล้ว จึงให้นาย ส. หักค่าประกันสัญญาคืน
นาย ส. ขอส่วนแบ่งจากการใช้ชื่อห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาคารการโยธา เป็นคู่สัญญากับเทศบาลตําบลสุคิรินอัตราร้อยละ 10 ของค่าจ้างก่อสร้างตามสัญญาหลังจากนั้นนาย น. แจ้งแก่จําเลยว่านาย ส. ตกลงให้ใช้ชื่อห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธาเป็นคู่สัญญากับเทศบาลตําบลสุคิรินในการทําสัญญาก่อสร้างถนนสายนี้
ต่อมาวันที่ 22 สิงหาคม 2560 ห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธา โดยนาย ส. หุ้นส่วนผู้จัดการยื่นใบเสนอราคางานก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ชุมชนกลันตัน ซอย 4 ในราคา 6,904,100 บาท ตามที่ตกลงกับจําเลย
คณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษทําการต่อรองราคา ห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธา ลดราคาลง 13,965 บาท
ต่อมาวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 ห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธา โดยนาย ส. หุ้นส่วนผู้จัดการกับเทศบาลตําบลสุคิริน โดยจําเลยทําสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ชุมชนกลันตัน ซอย 4 ดังกล่าว ในราคา 6,904,100 บาท ตามสัญญาเลขที่ 1/2561 และนาย ส. นำเงิน 345,205 บาท วางเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา
หลังจากทําสัญญา จําเลยและห้างหุ้นส่วนจํากัด เทพชุมทองก่อสร้าง เข้าดําเนินการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ชุมชนกลันตัน ซอย 4 โดยห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธาและนายสมพงษ์ ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในการก่อสร้าง
แต่เมื่อก่อสร้างงานงวดที่ 1 เสร็จ ห้างหุ้นส่วนจํากัด ธนาการโยธา ทําหนังสือส่งมอบงานงวดที่ 1 และได้รับเงินค่าจ้าง 1,380,820 บาทแล้ว
ส่วนงานงวดที่ 2 ยังไม่ส่งมอบเนื่องจากการก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบแปลนที่กําหนดไว้ในสัญญาจ้างและเป็นการก่อสร้างที่ไม่มีการควบคุมงานของผู้ว่าจ้าง เป็นเหตุให้ เทศบาลตําบลสุคิรินได้รับความเสียหาย
พฤติการณ์ นายสมควร เกตุแก้ว จึงเป็นการใช้อํานาจในตําแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาลตําบลสุคิริน เข้ามามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สําหรับตนเอง หรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทํากับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีอํานาจกํากับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบหรือดําเนินคดี และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
เหตุเกิดที่ตําบลสุคิริน อําเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส
ทั้งนี้ ข้อมูลในส่วนของพฤติการณ์การกระทำความผิดของ นายสมควร เกตุแก้ว ยังไม่จบ มีข้อมูลสำคัญอีกหลายส่วน อาทิ ข้อมูลการทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง การทำเอกสาร เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบโครงการฯ นี้ จาก ป.ป.ช. เป็นต้น
รายละเอียดขอนำเสนอในต่อตอนไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage