"...วันนี้ตัดสินใจแล้วว่า จะเลือกเส้นทางการเดินของผมใหม่ ยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง กราบขอโทษพี่น้องประชาชนที่วันนี้ไม่สามารถที่จะทำในสิ่งที่ผมรับปาก ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะกลับไปตั้งต้นที่ จ.พะเยา ทำงานให้พี่น้องชาวพะเยา และจังหวัดอื่นๆ หากกลับไปมีอำนาจอีกครั้ง มีวาสนาอีกครั้ง ตั้งมั่นว่าจะทำงานเพื่อบ้านเมือง...”
......................
“ผมต้องการทำงานอื่นที่เข้มแข็ง เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองจริงๆ ไม่ใช่มารองรับหรือทำอะไรเพื่อคนบางกลุ่มที่ผ่านมา ปรึกษาครอบครัวมาหลายวันแล้ว ได้ข้อยุติว่า ผมจะลาออกจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้ลงนามไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ก.ย. และตั้งใจว่าจะยื่นเอกสารตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เลขานุการฯ เข้าใจผิดว่าจะยื่นวันที่ 9 ก.ย."
คือ คำแถลงทิ้งท้าย เก้าอี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ ของ ร.อ.ธรรมนัส หรือร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หลังประกาศลาออกจากตำแหน่งเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2564 ที่ผ่านมา
ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวย้ำด้วยว่า "วันนี้ตัดสินใจแล้วว่า จะเลือกเส้นทางการเดินของผมใหม่ ยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง กราบขอโทษพี่น้องประชาชนที่วันนี้ไม่สามารถที่จะทำในสิ่งที่ผมรับปาก ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะกลับไปตั้งต้นที่ จ.พะเยา ทำงานให้พี่น้องชาวพะเยา และจังหวัดอื่นๆ หากกลับไปมีอำนาจอีกครั้ง มีวาสนาอีกครั้ง ตั้งมั่นว่าจะทำงานเพื่อบ้านเมือง”
อันนำมาซึ่งกระแสความร้อนแรงทางการเมืองไทย ที่กำลังถูกคนในสังคมจับตามองโดยเฉพาะเรื่องความมีเสถียรภาพทางการเมืองทั้งในส่วนของรัฐบาล และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มากที่สุดในห้วงเวลานี้
ไม่ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ ของ ร.อ.ธรรมนัส ในท้ายที่สุดแล้ว ผลจะออกมาเป็นอย่างไร อนาคตทางการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส จะเป็นอย่างไร
แต่ข้อเท็จจริงสำคัญประการหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธกันได้ ก็คือ เส้นทางสายการเมืองในช่วงเวลาที่ผ่านมา ของ ร.อ.ธรรมนัส
ล้วนแล้วแต่ต้องเผชิญเคราะห์กรรม "การถูกตรวจสอบ" หลายเรื่องด้วยกัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ประมวลข้อมูลมานำเสนอ ณ ที่นี้
@ ประเด็นคดียาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลีย
กรณีนี้เป็นประเด็นร้อนในสังคมไทยขึ้นมาทันที เมื่อหนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ (SMH) ของออสเตรเลีย ได้เผยเอกสารฉบับหนึ่งซึ่งเป็นคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีอาญารัฐนิวเซาท์เวลส์ เมื่อปี 2538 มีเนื้อหาชี้ชัดว่า ร.อ.ธรรมนัส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยรับโทษจำคุกในคดีลักลอบนำเข้าและค้ายาเสพติดเป็นเวลา 4 ปี ก่อนจะถูกเนรเทศกลับไทย
เอกสารดังกล่าวอยู่ในบทความชื่อว่า "รัฐมนตรีอดีตนักโทษบิดเบือนเรื่องราวสมัยเคยต้องโทษจำคุกในนครซิดนีย์" (Ex-con cabinet minister changes story over Sydney jail time) ระบุว่าสาระสำคัญของคำพิพากษาที่มีขึ้นเมื่อ 24 ปีก่อน มีการยกคำร้องขอลดหย่อนโทษจากนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ และ นายมนัส โบพรหม ซึ่งเป็นชื่อและนามสกุลที่ นายธรรมนัส ใช้อยู่ในเวลานั้น คำพิพากษาชึ้ชัดว่า บุคคลทั้งสองมีส่วนพัวพันอย่างมากในคดีลักลอบนำเข้าและค้ายาเสพติด โดยนายมนัสได้ช่วยเดินเรื่องทำวีซ่าและจัดหาตั๋วเครื่องบินให้แก่ผู้หญิงที่เป็นผู้รับขนยาเสพติด และเป็นผู้นำเฮโรอีนน้ำหนัก 3.2 กิโลกรัม จากโรงแรมพาร์ครอยัลในนครซิดนีย์ ไปให้กับลูกค้าที่หาดบอนไดด้วยตนเอง
บันทึกของศาลยังชี้ว่า หลังนายมนัส ถูกจับกุมในปี 2536 เขาได้เผยรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับวงการธุรกิจใต้ดินของไทยแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลีย และยังเอ่ยพาดพิงถึงบุคคลในกองทัพจำนวนหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในปี 2563 ร.อ.ธรรมนัส ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวต่อสาธารณชนะ โดยยืนกรานว่าเคยถูกทางการออสเตรเลียควบคุมตัวเพียง 8 เดือนในฐานะพยานเท่านั้น และได้อยู่ในสถานพักพิงที่รัฐเป็นผู้ดูแล ไม่ได้เป็นนักโทษที่ถูกคุมขังในเรือนจำ
เขายังยืนยันด้วยว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดของรัฐนิวเซาท์เวลส์ อ้างว่าเป็นเฮโรอีน 3.2กิโลกรัม มันคือแป้ง จนกลายเป็นที่มาของฉายารัฐมนตรีแป้งมันในเวลาต่อมา
ร.อ.ธรรมนัส ยังยืนยันด้วยว่า เขาใช้ชีวิตตามปกติเหมือนคนทั่วไปหลังได้รับการปล่อยตัว โดยประกอบอาชีพเป็นผู้จัดการในบริษัทจำหน่ายกระดาษชำระแห่งหนึ่งในออสเตรเลียเป็นเวลา 4 ปีเต็ม ทั้งยืนยันว่าไม่เคยรับสารภาพต่อข้อหาลักลอบนำเข้าและค้ายาเสพติด แต่ได้เข้าสู่กระบวนการต่อรองก่อนพิจารณาคดีเพื่อกันตัวเป็นพยานแทนการรับโทษ
ก่อนที่ในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2564 ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย คดีสมาชิกภาพ ส.ส. และความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่พ้นสมาชิกภาพ ส.ส.และความเป็นรัฐมนตรี เหตุไม่เคยต้องคำพิพากษาศาลไทย จึงไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ส่วนปัญหาว่า ข้อกล่าวอ้างตามคำร้องเป็นเรื่องความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ไม่อยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัย
@ ข้อครหาวุฒิการศึกษาปลอม
ข้อครหาวุฒิการศึกษาปลอม เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส ถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างนัก จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเกิดขึ้น ในช่วงเดือน ก.ย. 2563 หลังจากแฟนเพจ CSI LA ออกมากล่าวหาว่า นายธรรมนัสใช้วุฒิ "ปริญญาเอกปลอม" ที่ระบุว่าจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ยูนิเวอร์ซิตี้ เอฟซีอี (California University Foreign Credential Evaluation หรือ California University FCE) ขณะที่ข้อมูลจากเว็บไซต์ National Student Clearinghouse (secure.studentclearinghouse.org) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ให้บริการตรวจสอบความถูกต้องของประวัติการศึกษาของบุคคลโดยคิดค่าใช้จ่าย ก็ไม่พบข้อมูลของมหาวิทยาลัยดังกล่าว
ส่วนฐานข้อมูลสถาบันการศึกษาในเว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการของรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า มีชื่อสถานศึกษานี้ปรากฏอยู่จริง แต่ถูกระบุว่าเป็น "โรงเรียนอนุบาลเอกชน"
ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กอธิบายข้อมูลที่ปรากฎในหลักฐานจบการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส ว่าในเอกสารมีถ้อยคำระบุว่า "Official Transcript of Record บันทึกสำเนาผลการศึกษาอย่างเป็นทางการ, U.S. Equivalent เทียบเท่า สหรัฐอเมริกา,Calamus International University มหาวิทยาลัยนานาชาติคาลามัส,Republic of Vanuatu, สาธารณรัฐวานูอาตู,and 27 Old Gloucester Street และ เลขที่ 27 ถนนกลอสเตอร์เก่า London WC1N 3XX, United Kingdom ลอนดอน WC1N 3XX , สหราชอาณาจักร"หรือก็คือหมายความว่าเป็นที่ทราบกันว่าคณะกรรมการวิชาการ หลังจากตรวจสอบประเมินและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางวิชาการที่ส่งมาโดย Calamus International University สาธารณรัฐวานูอาตู และสหราชอาณาจักรแล้ว ได้ประกาศให้สามารถเทียบเท่าปริญญาของสหรัฐอเมริกาแก่ Thammmanat Prompow ธรรมนัส พรหมเผ่า
ซึ่งจากกรณีดังกล่าวสำนักข่าวอิศราได้ตรวจสอบข้อมูลของมหาวิทยาลัยคาลามัสเพิ่มเติมพบว่า มหาวิทยาลัย Calamus Intenational University ได้แจ้งปิดตัวแล้วเมื่อเดือน ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา และข้อมูลอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัยนี้ระบุว่าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ที่ดำเนินการศึกษาทางไกลโดยไม่มีวิทยาเขต มีช่องทางการศึกษาและปริญญาสำหรับผู้ที่ต้องการจะศึกษาในทุกประเทศ โดยร่วมมือกับผู้ที่ให้การศึกษาภาคเอกชน กลุ่มการเรียนการสอน และสมาคมการศึกษาระดับมืออาชีพหลายแห่ง ทั้งในสหราชอาณาจักร ประเทศไอร์แลนด์ ประเทศเคนยา และอีกหลายๆประเทศทั่วโลก
มหาวิทยาลัย Calamus International University ยังได้มอบหมายบุคลากรซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทีมของคณะการศึกษาทั้งในสหราชอาณาจักร ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศไอร์แลนด์ ประเทศเคนยา ประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
อย่างไรก็ดี ในเว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่า แต่ปริญญาที่ได้จากมหาวิทยาลัย Calamus International University นั้นไม่ใช่ปริญญาที่ได้รับการยอมรับจากทางรัฐบาลและไม่ใช่ปริญญาของทางสหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด
ขณะที่ ระบบการบริหารจัดการ การเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย Calamus International University นั้น เป็นระบบที่ถูกบริหารโดยบุคลากรในระดับนานาชาติของมหาวิทยาลัย และถูกบริหารโดยบริษัท Calamus Extension College Ltd ซึ่งเป็นบริษัทของสหราชอาณาจักร
อย่างไรก็ตามบริษัทแห่งนี้ไม่ได้ทำหน้าที่มอบปริญญาอีกเช่นกัน โดยตัวบริษัทได้รับการรับรองจากสมาคมนานาชาติว่าด้วยการศึกษาทางไกล แต่ปัจจุบันได้หยุดกิจการทำการค้าไปแล้ว ส่วนผู้สนใจจะสอบถามเกี่ยวกับเว็บไซต์นี้นั้น สามารถส่งคำถามไปยังสถาบันการฝึกฝนด้านการแพทย์แบบองค์รวม (UK College of Holistic Training) ซึ่งตั้งอยู่ ณ เลขที่ 27 Old Gloucester Street, London WC1N 3AX ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสถาบันที่อยู่ในเครือเดียวกับมหาวิทยาลัย Calamus International University แต่สถาบันแห่งนี้ไม่ได้เป็นผู้มอบใบปริญญาบัตร มอบแค่ใบอนุปริญญาและใบรับรองการศึกษาในประเทศอังกฤษให้เท่านั้น โดยมีมหาวิทยาลัย Calamus International University เป็นผู้รับรองใบอนุปริญญาในช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัยยังดำเนินกิจการอยู่
ก่อนที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะออกมาให้สัมภาษณ์กรณีการตรวจสอบวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส โดยระบุว่าการเป็นรัฐมนตรีต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ถ้าจบปริญญาตรีก็ถือว่า โอเค จะจบโท จบเอกก็ช่าง แต่หากว่าไม่จบแล้วไปบอกว่าจบ ด้วยหลักฐานที่เป็นเท็จก็จะเป็นเรื่องทางจริยธรรม ซึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีความชัดเจนในประเด็นเรื่องการตรวจสอบของหน่วยงานใด ขณะที่ รอ.ธรรมนัส ก็ออกมาชี้แจงความบริสุทธิ์ พร้อมแสดงเอกสารหลักฐานการศึกษาประกอบอย่างเต็มที่ ยืนยันว่ามีการไปศึกษาจริง ทำวิทยานิพนธ์จริง โดยเป็นการเรียนออนไลน์ และส่วนตัวก็พร้อมที่จะดำเนินคดีกับหน่วยงานที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียขึ้นรวมถึงในกรณีการให้วุฒิบัตรในระดับปริญญาเอกด้วย
@ ข้อครหาเรื่องบัญชีทรัพย์สินกรณีการบริหารบริษัทตลาดคลองเตย 2551 จำกัด
กรณีนี้ เป็นการนำเสนอข้อมูลของสำนักข่าวอิศรา ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะมีการสืบค้นเพิ่มเติมจาก นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล และนำไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ช่วงปี 2563 สาระสำคัญ คือ บริษัทตลาดคลองเตยฯหรือบริษัทบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล แห่งนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ร.อ.ธรรมนัส เข้ามาถือหุ้นบริษัทลิเกิ้ลฯต่อจากคู่สมรสในปี 2548 และปี 2551 เข้าทำสัญญาเช่าพื้นที่ตลาดคลองเตยจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นระยะเวลา 10 ปี ได้สัมปทานทั้งสิ้นตั้งแต่ปี 2551-2561 และตั้งแต่ปี 2561 บริษัทลีเกิ้ลได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทตลาดคลองเตยฯ และต่อสัญญากับการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยงบการเงินของบริษัทตลาดคลองเตยฯในปี 2561 นั้น พบว่าบริษัทแห่งนี้ยังมีสัญญาเช่าจากการท่าเรือต่อไปอีกจนถึงปี 2571 โดยมีหลักประกันความเสียหายเป็นเงิน 40,897,368 บาท ในปี 2561 และปี 2560 บริษัทได้จ่ายเงินค่าเช่าไปแล้ว 69.91 ล้านบาท ปีถัดมาก็ได้จ่ายเงินไปอีก 69.15 ล้านบาทตามลำดับ
โดยข้อมูลการถือหุ้นของบริษัทฯ ตามเอกสาร บอจ.5 ปรากฏชื่อผู้ถือหุ้น 4 รายคือ ร.อ.ธรรมนัส 330,000 หุ้น 55 เปอร์เซ็นต์ นางอริสรา พรหมเผ่า 180,000 หุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ และอีก 2 ชื่อเป็นคนในตระกุลพงษ์เพียรชอบอีก 15 เปอร์เซ็นต์ ต่อมาวันที่ 18 ม.ค. 2562 นายธรรมนัสได้โอนหุ้นให้กับนางอริสรา ภรรยา จึงทำให้นางอริสราถือหุ้น 510,000 หุ้น คิดเป็น 85 เปอร์เซ็นต์
แต่เมื่อ ร.อ.ธรรมนัสได้รับการเลือกตั้งแล้วก็ยังมีชื่อภรรยาถือหุ้นจำนวน 85 เปอร์เซ็นต์เช่นเดิม ดังนั้นหลังจากวันที่ 24 มี.ค.2562 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง จึงถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
ขณะที่ นายณัฐชา อภิปรายยืนยันว่า คุณสมบัติของรัฐมนตรีก็ยังไปมีลักษณะขัดกันต่อการถือหุ้นอีกประเด็น เพราะว่าแม้ในเวลาต่อมา คู่สมรสของ ร.อ.ธรรมนัสจะโอนหุ้นให้ น.ส.วิภาดา เมืองโคตร ซึ่งส่วนตัวก็สงสัยว่า น.ส.วิภาดานั้นเป็นลูกน้องคนสนิทที่ถือครองหุ้นแทนหรือถือผลประโยชน์แทนหรือไม่
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงถึงข้อกล่าวหาเรื่องธุรกิจบริษัทตลาดคลองเตยฯดังกล่าวว่า ส่วนตัวเมื่อเห็นว่าการถือหุ้นของตัวเองมันหมิ่นเหม่ในการถือหุ้นต่างๆ จึงได้ดำเนินการออกจากตำแหน่งและขายหุ้นหมดทั้ง 16 บริษัท ซึ่งก็มีรายได้เข้ามาในส่วนนี้
ร.อ.ธรรมนัส ยังได้กล่าวต่อถึงกรณีที่ น.ส.วิภาดา เมืองโคตร เป็นผู้ถือหุ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2545 และ 2551 นั้นเป็นบุคคลที่อยู่ในบริคณห์สนธิของบริษัทลีเกิ้ลฯ หรือตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นตลาดคลองเตย 2551 ว่า "คือผู้ร่วมธุรกิจด้วยกันมา เขาคือผู้ที่ร่วมกันก่อตั้งบริษัทมากับผม และธุรกิจอะไรก็ตามที่ร่วมกันก่อตั้งมากับผม ผมไม่เคยใช้งานลูกน้องฟรี ผมถือว่าเข้าเป็นหุ้นส่วนกับผม แต่วันหนึ่งที่ผมต้องเคลียร์ตัวเอง อะไรที่หมิ่นเหม่ผมไม่ยุ่ง ผมขายหุ้นให้เขาไป 51 ล้าน ผู้ถือหุ้นตลาดคลองเตยก็มีตั้งหลายคน โดยที่การชำระผมก็ว่ากันมาจะชำระเท่าไร เป็นงวดเท่าไร อะไรก็ว่ามา”
"น.ส.วิภาดาเป็นคนมีความรู้ความสามารถ เขาจบตั้งปริญญาตรี ดังนั้นก็อย่าไปดูถูกความสามารถเขาอย่างนั้น และขอยืนยันว่าตัวเองจะไม่ทำอะไรที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมายอย่างแน่นอน" ร.อ.ธรรมนัสระบุ
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินของ ร.อ.ธรรมนัส ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบนั้น
นอกจากกรณีการโอนหุ้นบริหารบริษัทตลาดคลองเตย 2551 จำกัด แล้วยังมีกรณีการโอนหุ้น บริษัท เดอะบางกอก อะไลฟ์ กรณีการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน-การถือครองหุ้น 5% และข้อมูลทางธุรกิจขายสลากกินแบ่งเพิ่มเติมด้วย (ดูข้อมูลข่าวประกอบท้ายเรื่อง)
ซึ่งที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ได้ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่า ประเด็นเรื่องข้อครหาการถือครองทรัพย์สินบริษัทต่าง ๆ ได้มีการไปชี้แจงกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนหมดสิ้นความสงสัยแล้ว
แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ออกมา ว่ากระบวนการตรวจสอบจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ผลเป็นอย่างไร
เมื่อสถานการณ์ ณ วันนี้ ร.อ.ธรรมนัส พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปแล้ว
มีเพียงสถานะ ส.ส. กลับบ้านเก่าพะเยา ที่รอวันกลับมาผงาดใหม่อีกครั้ง อาจจะด้วยการไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือร่วมกับพรรคการเมืองใดพรรคเมือง เพื่อมาเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่สำคัญ
กระบวนการตรวจสอบข้อครหา คดีสอบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ร.อ.ธรรมนัส จะมีความชัดเจนอะไรเพิ่มเติมขึ้นหรือไม่
ต้องจับตาดูกันต่อไป แบบห้ามกระพริบตาโดยเด็ดขาด!
เรื่องเกี่ยวข้อง
เรื่องเกี่ยวข้องกรณีหุ้น บริษัท เดอะบางกอก อะไลฟ์
- ปูมหลัง 2 หญิงผู้ถือหุ้นใหญ่ บ.อสังหาฯ 174 ล้าน โยงเครือธรรมนัสกรุ๊ป
- เปิดธุรกิจ 2 กก.-หุ้นส่วน บ.เดอะบางกอก อะไลฟ์ ‘ธรรมนัส’ เป็นใคร ?
- ไขปริศนา! ปมแก้‘วันลงทะเบียน’โอนหุ้น ‘ธรรมนัส’ 2 รอบ มีนัยอะไร?
- บ.อสังหาฯส่ง บอจ. 5 ใหม่ ไม่มีชื่อ‘ธรรมนัส’ถือหุ้น แล้ว! โอนให้ กก.- แก้ไขข้อมูล 2 รอบ
- ตามไปดูที่ตั้ง บ.นายหน้าอสังหาฯ 'ธรรมนัส' ถือหุ้น 30% ไม่มีในบัญชีทรัพย์สิน'ธรรมนัส
- บริษัทยังไม่ได้แจ้งถอนชื่อให้! ‘ธรรมนัส’ แจงรอบ 2 ปมถือหุ้นบ.นายหน้าอสังหาฯ 30%
- โชว์ใบรับชำระเงิน 1.5 ล.‘ธรรมนัส’ จ่ายสด! ปมถือหุ้นไม่แจ้ง ป.ป.ช. ก่อนแจงโดนแอบอ้าง
- ‘ธรรมนัส’ถือหุ้น บ.นายหน้าอสังหาฯ 30% ไม่มีในบัญชีทรัพย์สิน –เจ้าตัวแจงโดนแก๊งต้มตุ๋นหลอก
@ เรื่องเกี่ยวข้องกรณีการถือครองหุ้น 5% และทรัพย์สิน
- สรุป 4 ปมตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ‘ธรรมนัส’ รอผลสอบ ป.ป.ช.
- ดำเนินการอยู่! ป.ป.ช.เผยคดีทรัพย์สิน‘ธรรมนัส’ขั้นสอบปากคำ-ติดขัดเพราะโควิด
- ถือหุ้น - กก. 4 บริษัท ไฉน! บัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. เมีย‘ธรรมนัส’ ไม่มีรายได้ ?
- เดือนละ 3 ล.มาจากไหน? บ.ให้เช่าแผงค้าหวย เมียธรรมนัส งบฯปี 2563 รายได้ 5,131,170 บ.
- ล่าสุด ‘อริสรา’ เมีย‘ธรรมนัส’ โผล่ถือหุ้น 5% บ.ตลาดคลองเตย หลังโอนเกลี้ยงให้คนใกล้ชิด
- ผ่าน 5 เดือน ป.ป.ช.ยังสอบเบื้องต้นอยู่! ปมเมีย‘ธรรมนัส’ถือหุ้นเกิน 5% หรือไม่
- 5 เดือนแล้ว! ป.ป.ช.ยังสอบไม่เสร็จ ปมเมียธรรมนัส ถือหุ้นเกิน 5% หรือไม่?
- เบ็ดเสร็จ 4 ครั้ง! ล่าสุด เมียธรรมนัส แก้ไข บอจ.5 บ.ขายหวยอีก 2 รอบ หลังถือหุ้นเกิน 5%
- เมียธรรมนัส แก้ไข บอจ.5 อีกรอบ อ้างพิมพ์ตัวเลขผิด หลังลดหุ้น ไม่ให้เกิน 5%
- ดูชัดๆ เมียธรรมนัส ลดถือหุ้น 3 บริษัท ไม่ให้เกิน 5% ระบุวันที่ ‘1 ก.ค.2562’
- ‘เมียธรรมนัส’ ยื่นนายทะเบียนฯลดถือครองหุ้น 3 บ. หลัง‘อิศรา’ เปิดเกิน 5 % ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
- เป็นทางการ! ป.ป.ช.ลุยสอบทรัพย์สิน‘ธรรมนัส’ปม‘ภรรยา’ถือหุ้น 3 บริษัท
- บ.แผงค้าสลาก ‘เมียธรรมนัส’แจ้งงบฯปี 62 รายได้ 6.4 ล. - เคยยื่น ป.ป.ช 3 ล./เดือน
- ไม่เห็นมีอะไร-แจ้งตั้งแต่นั่ง รมต.หมดแล้ว! 'ธรรมนัส' แจงปมเมียถือหุ้น บ.เกิน 5%
- พลิกที่มา เมียธรรมนัส ถือหุ้น 3 บริษัท เกิน 5% ไม่แจ้ง ป.ป.ช.หรือไม่?
- ปริศนา!เมียธรรมนัสถือหุ้น บ.ขายสลากกินแบ่ง-ทัวร์ เกิน 5 % -ยังติดต่อเจ้าตัวแจงไม่ได้
- ส่องของสะสม ‘ธรรมนัส’- 2 เมีย! ‘จุ๊บจิ๊บ’ขับ PORSCHE หิ้วกระเป๋าแบรนด์ดัง 42 ใบ
- 'ธรรมนัส’แจ้ง ป.ป.ช. เมีย 2 คน ‘อริสรา - น้องจุ๊บจิ๊บ’ - รายได้ขายหวยเดือนละ 3 ล.
- เปิดข้อมูล ‘ธรรมนัส-อริสรา’เมียคนแรก โอนหุ้น 16 บริษัท ให้ใคร 7 คน ?
- INFO: โครงข่ายโอนหุ้น 16 บริษัท ธรรมนัส พรหมเผ่า
- ส่องของสะสม ‘ธรรมนัส’- 2 เมีย! ‘จุ๊บจิ๊บ’ขับ PORSCHE หิ้วกระเป๋าแบรนด์ดัง 42 ใบ
- รายได้เดือนละ 3 ล้าน! ‘ธรรมนัส’ ใช้ชื่อใครค้าสลากกินแบ่ง?
- 'ธรรมนัส’แจ้ง ป.ป.ช. เมีย 2 คน ‘อริสรา - น้องจุ๊บจิ๊บ’ - รายได้ขายหวยเดือนละ 3 ล.
- บ.อสังหาฯ จ.พะเยา ‘ธรรมนัส’ รับโอนหุ้นจากกลุ่ม‘เสี่ยเพ้ง’
- รู้หรือไม่? สโมสรฟุตบอลพะเยา เอฟซี ผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่ใช่ ‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’
- เปิดธุรกิจ‘จุ๊บจิ๊บ-ธนพร’หวานใจ‘ธรรมนัส’เป็น กก. บ.ดูแลตลาด-ถือดีเอ็นเอฯ 52 ล.หุ้น
- พล.อ.ไตรรงค์ ในธุรกิจรักษาความปลอดภัย ‘ธรรมนัส’
- เช็กธุรกิจขายหวย‘ธรรมนัส’ เปลี่ยนผู้ถือหุ้นหลายครั้ง - ปี 57 รายได้สูงสุด 1,400 ล.
- ‘ธรรมนัส’โอนหุ้นธุรกิจค้าหวยให้ 2 หญิงสาว ลูก‘เจ๊แดง’- คนในธรรมนัสกรุ๊ป
- เปิดขุมข่ายธุรกิจล่าสุด ‘ธรรมนัส’ 17 บริษัท อู้ฟู่หลายร้อยล้าน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/