วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล (UHC Day) ปี 2563 สุขภาพดีถ้วนหน้า: ปกป้องคุ้มครองทุกคน ประเทศไทยร่วมกับนานาชาติผลักดันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้เกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมให้คำมั่นสัญญาในการยกระดับระบบสุขภาพไทย เพื่อดูแลประชากรทุกคน
...............................
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2563 กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมจัดงานวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีหน่วยงานจากไทยและต่างประเทศเข้าร่วมจำนวนมาก รวมทั้งผู้แทนจากองค์การอนามัยโลกประจำ และศูนย์ควบคุมและปัองกันโรคสหรัฐอเมริกาประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในระหว่างการเปิดงานว่า สำนักงานสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 12 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล เพื่อสร้างความตระหนักให้นานาประเทศร่วมกันผลักดันให้ประชากรโลกเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างทั่วถึง
ประเทศไทยได้ตัดสินใจเชิงนโยบายและให้คำมั่นสัญญาว่าจะสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้คนในชาติเมื่อสองทศวรรษก่อน โดยทุกรัฐบาลที่ผ่านมาต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้เป็นจริง
“การตัดสินใจของเราในวันนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง การลงทุนในหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของเราเห็นผลแล้วในวันนี้”
นายดอนกล่าวว่าประเทศไทยสามารถรับมือกับโรคระบาดโควิด-19 ได้ดี เพราะมีระบบสุขภาพที่เข้มแข็ง และมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ครอบคลุมประชากรทั้งประเทศ สามารถให้บริการด้านสุขภาพที่สำคัญในช่วงโรคระบาดที่ผ่านมา เช่น การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ฟรี ซึ่งให้บริการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
“ประเทศไทยจะยกระดับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพราะเป็นหนทางสำคัญที่จะทำให้เราสามารถรับมือกับโรคระบาดในอนาคต และยังเป็นหนทางพาประเทศไทยไปสู่ทศวรรษแห่งการพัฒนา (Decade of Action) ภายใต้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2573 (Sustainable Development Goals 2030) ของสหประชาชาติ เพื่อไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย วางอยู่บนพื้นฐานของ 3 หลักการ ได้แก่ ความเท่าเทียม ประสิทธิภาพ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
“ตลอดระยะเวลา 18 ปีของการมีหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เราได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่า หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นนโยบายของภาครัฐที่สำคัญ เกิดประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง ครัวเรือนมีความมั่นคงด้านสุขภาพและเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ไม่ต้องล้มละลายจากค่ารักษาพยาบาล”
นอกจากนี้ นายสาธิตกล่าวเพิ่มเติมว่าประเทศไทยมีบทบาทสำคัญ ในการผลักดันให้เกิดวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล ในวันที่ 12 ธันวาคม ของทุกปี เพื่อให้นานาประเทศตระหนักถึงความสำคัญของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และผลักดันให้สร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อดูแลประชากรในประเทศของตนเอง
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามมติในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560 ได้รับรองให้วันที่ 12 ธันวาคม ของทุกปี เป็น “วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล” หรือ Universal Health Coverage Day: UHC Day เพื่อผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตระหนักถึงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อดูแลสุขภาพประชากรในประเทศของตนเอง โดยในปี 2563 นี้ องค์การอนามัยโลกรณรงค์โดยชูประเด็น “HEALTH FOR ALL: Protect Everyone” หรือ สุขภาพดีถ้วนหน้า: ปกป้องคุ้มครองทุกคน เพื่อให้นานาประเทศตระหนักรับรู้และกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ ขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในประเทศตนให้ประชาชนสุขภาพดี รวมถึงคุ้มครองทุกคนภายใต้สถานการณ์โรคโควิด 19 โดยมุ่งมั่นให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตระหนักถึงการเร่งสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้บรรลุภายในปี 2573 หรือ UHC2030 ตามคำรับรองปฏิญญาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจากที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชนประจำปี 2562 เมื่อเดือนกันยายน 2562 และมุ่งให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีที่เป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs)
ทั้งนี้ประเทศไทยนับว่าประสบความสำเร็จในการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยเริ่มกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในปี 2545 มีการประกาศเป็นนโยบายชัดเจนโดยรัฐบาลและพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและมาตรฐานได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง จนเป็นต้นแบบให้กับนานาประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 