คู่ค้าเซเว่นฯ-แม็คโคร เชื่อมั่นซีพีควบรวมโลตัสไม่ผูกขาด ประสบการณ์ยาวนานการันตีความเชื่อใจ พร้อมปักธงเดินหน้าเป็นคู่ค้าทางธุรกิจ ขยายช่องทางการตลาดต่อเนื่อง เติบโตไปด้วยกัน
..................................
ภญ.อัญชลี ชุติไพจิตร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โกลบอล เมดดิคัล (ประเทศไทย) จำกัด และหนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ “สมูทโตะ” (SMOOTO) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบบซอง เปิดเผยว่า ปัจจุบันสมูทโตะมีกำลังการผลิตประมาณ 5 ล้านซองต่อเดือน มียอดขายไม่ต่ำกว่า 650 ล้านบาทต่อปี สัดส่วนรายได้กว่า 90% มาจากการขายผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในเครือซีพี ซึ่งบริษัทได้พัฒนาออกแบบสินค้าให้เหมาะสมกับการวางขายในร้านสะดวกซื้อ ด้วยการตั้งราคาที่ซื้อง่าย ผู้บริโภคเข้าถึงได้ โดยเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ถือเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งบริษัทได้รับโอกาสให้ทดลองวางสินค้าในร้านเซเว่นฯ เมื่อยอดขายเติบโตได้ดี จึงขยายช่องทางจำหน่ายครอบคลุมเซเว่นฯ ทุกสาขาทั่วประเทศ ส่งผลให้ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปี 2556 ที่มียอดขายเพียง 2 แสนบาทต่อปี เพิ่มเป็น 650 ล้านบาทต่อปีในปัจจุบัน
นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมพัฒนาสินค้ากับทางบมจ.ซีพีออลล์ เจ้าของเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย และศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค จนสามารถพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่า การควบรวมกิจการระหว่างซีพีกับเทสโก้ โลตัส ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด เพราะทั้งเซเว่นอีเลฟเว่นกับเทสโก้ โลตัส เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเหมือนกัน แต่กลุ่มลูกค้าคนละกลุ่ม และเป็นคู่ค้าที่ดีต่อกัน จึงไม่ได้เป็นการผูกขาดทางการค้าแต่อย่างใด
“การบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่อุปทานในการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางเซเว่นฯ มีระบบการทำงานที่ยึดหลักธรรมาภิบาลที่ดี มีการทำงานที่โปร่งใส เช่น การเสนอสินค้าที่จะวางขายในเซเว่นฯ จะมีกระบวนการพิจารณาจากความเหมาะสมในหลายมิติ ซึ่งประสบการณ์การทำธุรกิจกับเซเว่นฯที่ผ่านมา มองว่าเป็นการดำเนินงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นการทำธุรกิจที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อคู่ค้า” ภญ.อัญชลีกล่าว
ด้าน นายสุรนาม พานิชการ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โทฟุซัง จำกัด น้ำนมถั่วเหลืองออร์แกนิก “โทฟุซัง”เปิดเผยว่า บริษัทถือเป็นหนึ่งในธุรกิจเอสเอ็มอีที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วภายใน 9 ปี ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ คือ ช่องทางการจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น ที่มีสาขาทั่วประเทศ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยพัฒนาร่วมกับซีพีออลล์ ทำให้มีการแตกไลน์สินค้าเป็นนมถั่วเหลืองพาสเจอไรส์บรรจุขวดพลาสติก และส่งผลให้โทฟุซังเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
“ซีพีมีหลักธรรมาภิบาลที่ดีในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะกับคู่ค้าที่ซีพีให้ความสำคัญมาโดยตลอด จึงทำให้บริษัทมีความมั่นใจในการทำธุรกิจด้วย ซึ่งในฐานะคู่ค้าหรือซัพพลายเออร์มองว่าการทำงานกับซีพีเป็นโอกาสที่ดี เพราะซีพีมีนโยบายสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อย เป็นการสร้างโอกาสคู่ค้าได้เข้ามาแข่งขันและช่วยเพิ่มโอกาสของเอสเอ็มอีในการขยายตลาด เพราะซีพีมีช่องทางทางการตลาดที่หลากหลายตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และอยากให้ซีพีสนับสนุนเอสเอ็มอีแบบนี้ต่อไป ส่วนกรณีที่ซีพีจะได้โลตัสกลับคืนมานั้น มองว่าไม่ใช่ปัญหาสำหรับคู่ค้าในการดำเนินธุรกิจ แต่ยังส่งผลดีต่อการทำธุรกิจอีกด้วย ”นายสุรนามกล่าว
ส่วน นพ.วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “เกรซ” (Gracz) ผู้ผลิตกล่องบรรจุอาหารที่ทำจากเยื่อชานอ้อยที่เหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตน้ำตาล มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ เปิดเผยว่า บริษัทเป็นคู่ค้ากับบริษัทในเครือซีพีมานาน และส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง โดยแบรนด์เกรซได้เข้าไปวางจำหน่ายผ่านช่องทางเซเว่น อีเลฟเว่น มานานกว่า 7 ปี ปัจจุบันมีสินค้าวางจำหน่ายในเซเว่นฯ ประมาณ 6,000 สาขา และวางจำหน่ายในแม็คโครทุกสาขาด้วย ซึ่งแม็คโครมีส่วนช่วยให้บริษัทขยายตลาดเข้าถึงกลุ่มยี่ปั๊ว ซาปั๊วได้ดี นอกจากนี้บริษัทยังเป็นคู่ค้ากับเทสโก้ โลตัส และไฮเปอร์มาร์เก็ตอื่นๆ ห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตกว่า 90% ของประเทศ ซึ่งช่วยสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าได้ดี และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเน้นหลักที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง
“เครือซีพีมีหลักธรรมาภิบาลที่ดีในการดำเนินธุรกิจ แต่อาจต้องสื่อสารกับสังคมมากขึ้น เพราะผู้บริโภคอาจจะไม่เข้าใจ ซึ่งการควบรวมกิจการระหว่างโลตัสกับซีพี ไม่มีผลกระทบกับธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด และคิดว่าการทำธุรกิจกับโลตัสหลังจากนี้จะเดินหน้าต่อไป ผมมองเห็นความร่วมมือทั้งกับ เซเว่นฯ แม็คโคร โลตัส และไฮเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาเราดีลกับแม็คโคร และเซเว่นฯ แบบแยกส่วนกัน จึงไม่มีปัญหา”นพ.วีรฉัตรกล่าว
นางสาว รุจิกร วสุโสภณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เอส.ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตแบรนด์ PS Food จำหน่ายเนื้อสุกรแช่เย็น/ แช่แข็ง และแปรรูปเนื้อสุกรเป็นผลิตภัณฑ์ เปิดเผยว่า แบรนด์ PS Food เติบโตมาจากการเป็นคู่ค้ากับแม็คโคร มาอย่างยาวนานกว่า 29 ปี ปัจจุบันถือเป็นธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดใหญ่ ที่เติบโตเคียงคู่มากับแม็คโครโดยแท้จริง เพราะเริ่มจากการทำธุรกิจในฐานะบุคคลทั่วไป ก่อนธุรกิจจะเติบโตและจัดตั้งบริษัท PS Food ขึ้นมาในปี 2535 โดยมีสินค้าของ PS Food วางขายที่แม็คโครทุกสาขา ซึ่งแม็คโครเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบขายส่งขนาดใหญ่ ที่เข้าถึงคนหลากหลายกลุ่มทั้งในส่วนของพ่อค้าแม่ค้า และผู้บริโภคทั่วไป ส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทในฐานะคู่ค้าของแม็คโครขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ทุกปี
นางสาว รุจิกรกล่าวว่า กรณีที่ซีพีควบรวมกิจการกับโลตัส ไม่มีผลกระทบกับธุรกิจ เนื่องจาก PS Food มีวางจำหน่ายที่เทสโก้ โลตัส อยู่แล้ว และมองว่าเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดมากขึ้น ซึ่งประสบการณ์การเป็นคู่ค้ากับบริษัทในเครือซีพีที่ผ่านมา เชื่อมั่นว่าซีพีเป็นองค์กรที่มีธรรมาภิบาลที่ดี มีความเป็นธรรม ดูแลคู่ค้า พัฒนา ปรับปรุง และให้เกียรติคู่ค้าของซีพีมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จึงยืนยันว่า ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจกับเครือซีพีต่อไปอย่างแน่นอน