ทีเส็บ เผยโครงการกระตุ้นจัดงานไมซ์ในประเทศได้รับการตอบรับดีเยี่ยม รัฐและเอกชนยื่นความจำนงแล้ว 428 กลุ่ม จึงยกระดับงานไปร่วมมือกับท้องถิ่นทำตลาดแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เริ่มจาก “ไมซ์กลางเล เฮไปสมุย”
...................................
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า โครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” ของทีเส็บ เพื่อกระตุ้นการจัดกิจกรรมไมซ์ที่เริ่มต้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างสูง ในขณะนี้มีกิจกรรมยื่นเสนอรับการสนับสนุนมาแล้วมากถึง 428 กลุ่ม จากทั้งภาครัฐและเอกชน
“ในภาวะโควิด-19 องค์กรเหล่านี้เข้าใจดีว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง จึงใช้กิจกรรมไมซ์มาช่วยในการพัฒนาองค์กร เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับหลังโควิด-19 และทีเส็บเองก็ยินดีมากที่พบว่าไมซ์ซิตี้ได้รับความนิยม เราพบว่ากิจกรรมที่เสนอมานั้น ส่วนมากจะอยู่ในไมซ์ซิตี้ทั้งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา ตรงตามวัตถุประสงค์ในการกระจายโอกาสจัดงานไมซ์ออกไปให้ทั่วประเทศ ซึ่งทั้ง 428 กลุ่มที่เกิดขึ้นนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 38 ล้านบาท ภายในธันวาคม 2563 นี้”
ในขณะเดียวกัน ทีเส็บยังยกระดับการทำงานโดยผนึกกำลัง 5 ภาคีรัฐและเอกชน อำเภอเกาะสมุย / เทศบาลนครเกาะสมุย / สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ฝั่งตะวันออก / สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กระตุ้นการจัดงานไมซ์ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
“ภาคใต้ มีหลายจังหวัดที่มีความพร้อมพื้นฐานในการที่จะได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับสู่ไมซ์ซิตี้ มีความหลากหลายและเสน่ห์ของแต่ละเมือง เช่น สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย มีจุดเด่น 5 ด้านของเมือง คือเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก เดินทางเชื่อมโยงกับพื้นที่อื่นๆ สะดวก เป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นศูนย์รวมสถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยของภาคใต้ตอนบน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งโรงแรมที่มีห้องประชุมขนาดใหญ่หลายแห่งรองรับได้ถึง 2,500 คน สถานที่จัดงานสัมมนาและงานแสดงสินค้าที่รองรับกลุ่มผู้ร่วมงานขนาดใหญ่ได้ถึง 10,000 คน”
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า “ไมซ์กลางเล เฮไปสมุย” เกิดจากกลยุทธ์ City Co-Creation ผสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการไมซ์ในท้องถิ่น เช่นกรณีเกาะสมุยมีกว่า 300 บริษัทเข้ามาร่วมหาแนวทางเจาะตลาดลูกค้าไมซ์ ซึ่งจะพัฒนาสินค้ายึดโยงอัตลักษณ์ 7 วิถี แบบ Thailand 7 MICE Themes ซึ่งประกอบด้วย
1. วิถีผจญภัย (Exhilarating Adventures) ชูกีฬาทางน้ำ เปิดประสบการณ์ใหม่กับการพายเรือแพดเดิลบอร์ดที่เป็นที่นิยม / กิจกรรมเดินป่าบนเส้นทางธรรมชาติ Samui Safari
2. วิถีชวนกิน (Culinary Journeys) ผ่านการนำเสนอเรื่องราวของอาหารถิ่น วิถีชนคนสมุย ที่สามารถรองรับการจัดงานไมซ์ที่หลากหลายได้ อาทิ บ้าน 158 ปี / บ้านสวนลางสาด บรรยากาศแบบบ้านสวนสมุย บริการเมนูอาหารพื้นบ้านหลายเมนู ท่ามกลางสวนผลไม้นานาชนิด และผักสวนครัวปลอดสารพิษมากมาย
3. วิถีเรียนรู้และอนุรักษ์ (CSR and Green Meetings) ผ่านการร่วมกิจกรรมซีเอสอาร์ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรในพื้นที่ของจังหวัดและชุมชน อาทิ กิจกรรมอนุรักษ์ปะการัง หรือ กิจกรรมอนุรักษ์ป่าชายเลน
4. วิถีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม (Fascinating History and Culture) ผ่านการสัมผัส และเยี่ยมชมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเกาะสมุย อย่าง ชุมชนชาวจีน มุสลิม แหล่งกำเนิดชาวสมุยบริเวณชุมชนหัวถนน การแสดงพื้นบ้าน หรือท่องเที่ยวชมประวัติศาสตร์ของเกาะสมุยที่หมู่บ้านชาวประมง หาดบ่อพุด
5. วิถีร่วมพลัง (Treasured Team Building) ผ่านการสร้างสรรค์กิจกรรมสานสัมพันธ์โดยใช้การละเล่น หรือ กีฬาประจำถิ่นมาเป็นเครื่องมือสร้างกิจกรรมของกลุ่มไมซ์
6. วิถีลักชัวรี่ (Lavish Luxury) ผ่านการสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จัดกิจกรรมไมซ์บนเรือคาตามารันสุดหรู
7. วิถีบีช (Beach Bliss) ผ่านความครบเครื่องของกิจกรรมริมชายหาด จัดงานเลี้ยงต้อนรับ หรือ Theme Dinner ริมชายหาด
“โครงการ ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า มุ่งเน้นให้หน่วยงานรัฐและเอกชนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระจายรายได้ไปยังชุมชนในภูมิภาคต่างๆ ผ่านการจัดประชุมสัมมนาในประเทศ โดยทีเส็บสนับสนุนงบประมาณบางส่วนในการจัดงานให้กับองค์กร บริษัท และผู้ประกอบการไมซ์ เช่นในกรณีการจัดงานไมซ์ผ่านแนวคิด “ไมซ์กลางเล เฮไปสมุย” ในครั้งนี้เป็นโปรแกรมตัวอย่างให้กับองค์กร บริษัท และผู้ประกอบการไมซ์ที่วางแผนจะจัดงานไมซ์ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเกาะ สมุย โดยให้การสนับสนุน 2 รูปแบบ คือ 1. สนับสนุนงบประมาณในรูปแบบบัตรกำนัลไม่เกิน 15,000 บาทต่อกลุ่ม สำหรับการจัดกิจกรรมเป็นเวลา 1 วัน ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง และ 2. สนับสนุนงบประมาณในรูปแบบบัตรกำนัลไม่เกิน 30,000 บาทต่อกลุ่ม สำหรับการจัดกิจกรรมอย่างน้อยเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน เพื่อเพิ่มการกระจายรายได้ในพื้นที่ให้มากขึ้น” นายจิรุตถ์ กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า สมุยมีพร้อมในการรักษาความปลอดภัย สำหรับกลุ่มไมซ์ระดับ Premium ที่ต้องปรับเปลี่ยนจุดขายเพื่อนำเสนออัตลักษณ์ของเกาะสมุย เพื่อสร้างสันทนาการเชิงสร้างสรรค์ วิถีการท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงสมุยยังสามารถจัดโปรแกรม CSR ที่เป็นจุดขาย เช่น การปล่อยเต่า การสร้างธนาคารปูม้า การปลูกป่า ปลูกมะพร้าวเศรษฐกิจ และการนำผู้มาร่วมประชุมได้จัด Team Building เชื่อมโยงทั้งทางทะเล และบนเกาะทั้งหมดนี้ เพื่อขยายเวลาให้นักท่องเที่ยวและนักเดินทางกลุ่มไมซ์ได้ขยายเวลาให้พำนักนานวันขึ้น
นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย เสริมว่า บรรยากาศของเกาะสมุยมีความพร้อมและเหมาะสมเป็นอย่างมาก เนื่องจากทางเทศบาลเองมีสถานที่ที่สามารถจัดประชุมที่มีจำนวนมากกว่า 300 คน รวมถึงสถานที่ราชการ เช่น พรุเฉวง ที่สามารถจัดงาน โดยใช้เต็นท์ติดแอร์และสามารถจัดนิทรรศการใหญ่ๆ ที่สามารถจุคนได้กว่า 2,000คนขึ้นไป ซึ่งเทศบาลนครเกาะสมุยจะให้ความสะดวกในการขออนุญาตจัดงานและจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจในการช่วยจัดสถานที่เพื่อพร้อมรองรับกรุ๊ปประชุมและการจัดนิทรรศการเพื่อรองรับการขยายตัวของนักเดินทางกลุ่มไมซ์กลุ่มนี้อย่างเต็มที่
นายวิทยา หวังพัฒนธน ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ศักยภาพของจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึง เกาะสมุยเอง มีความพร้อมสำหรับการจัดประชุมระดับภูมิภาคและนานาชาติขนาดเล็กถึงกลาง โดยทางสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานีทำงานร่วมกับทีเส็บมาโดยตลอดอีกทั้งภูมิประเทศของจังหวัด สุราษฎร์ธานีตั้งอยู่ในพื้นที่เดินทางสะดวก สามารถเดินทางจากจังหวัดใกล้เคียงได้โดยง่าย มีสนามบินถึง 2 แห่ง และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักทั้งฝั่งบกและฝั่งเกาะ อาทิ เกาะสมุย (ความหลายหลายของกิจกรรม) เกาะพงัน (Wellness) เกาะเต่า มีชื่อเสียงในด้านดำน้ำที่โหวตให้เป็นอันดับสองของเอเชีย มีวิถีชุมชนที่มีอัตลักษณ์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นระดับประเทศ อาทิ มะพร้าว และสมุนไพรที่สำคัญอีกด้วย
นายเรืองนาม ใจกว้าง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ฝั่งตะวันออก กล่าวว่า ทางสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้เตรียมความพร้อมของสมาชิกสมาคม ให้เข้าใจและพร้อมรองรับตลาดไมซ์ได้ อีกทั้งยังมีการอัปเดตจำนวนห้องประชุม จำนวนห้องพัก เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักเดินทางกลุ่มนี้ และยังทำงานใกล้ชิดกับทีเส็บเพื่อให้สมาชิกเข้าถึงข้อมูลข่าวสารซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกสมาคมโรงแรมและผู้สนใจทั่วไป
นายวรสิทธิ์ ผ่องคำพันธุ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า การประกาศให้สมุยเป็นเมืองของ ไมซ์ในช่วงวิกฤต เป็นการส่งเสริมและสร้างโอกาสให้นักเดินทางกลุ่มนี้ได้เติบโต ในสภาวะที่ยังไม่ได้เปิดประเทศ นับเป็นโอกาสอันดี ที่เราจะนำเสนอ Product ให้กับสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ เช่น สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA), สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA), สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) หรือ บริษัทห้างร้านต่างๆ ที่ปกติจะเดินทางต่างประเทศให้หันกลับมาจัดประชุมสัมมนาเพื่อเป็นรางวัล สมาคมฯ จะประสานกับทุกสายการบินเพื่อขอราคาเช่าเหมาลำในกรณีที่มีลูกค้าเดินทางเกิน 100 คน ในราคาพิเศษ ร่วมถึงการจัดงานสมุยโปรปลดล็อค พร้อมทั้งงาน Table Top Sale ที่ Central World ในระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม ถึง วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563